ขอนแก่น - “ส.จ.จ่อย” และชาวบ้านไผ่จี้ ป.ป.ช.-กกต.ตรวจสอบที่มาเงิน 1 แสนบาทของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่อ้างบริจาคสร้าง “ห้องพี่หมอเปรม” สอนหนังสือเด็ก หากบริจาคช่วงหาเสียงถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่หากเป็นเงินหลวงของเทศบาลทำไมตั้งเป็นชื่อตัวเอง
นายเดชคำรณ สิงห์คลีบุตร หรือ “ส.จ.จ่อย” ส.อบจ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า กรณีปัญหาภาพคล้ายงานพิธีแต่งงานระหว่าง นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 และกรณีกักขังพร้อมจับนักข่าวถอดกางเกงที่เป็นข่าวแพร่สะพัดมานานร่วมสัปดาห์ กำลังถูก นพ.เปรมศักดิ์พยายามเบี่ยงเบนประเด็นและเปลี่ยนเรื่องทุกครั้ง เพราะตอนนี้ได้อ้างว่าเป็นเกมการเมือง โดยไม่มีการพูดถึง หรือชี้แจงภาพคล้ายงานแต่งให้เกิดความกระจ่าง ทั้งที่เป็นปมเงื่อนของเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด
แม้แต่ตนและชาวบ้านไผ่ที่กำลังต่อสู้เพื่อกู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีให้กับโรงเรียนและชาวบ้านไผ่ก็ยังถูกโยงและอ้างว่าเป็นเกมการเมืองที่พยายามโค่นล้มตัวเขา ดังนั้น ในฐานะศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน ตลอดจนผู้ปกครองโรงเรียนบ้านไผ่ (ขก.5) และประชาชนชาวบ้านไผ่ ขอยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อกู้ศักดิ์ศรีชาวบ้านไผ่อย่างไม่ถอย
นายเดชคำรณกล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งในขณะนี้ คือชาวบ้านไผ่ต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ป.ป.ช. และ กกต.เข้าตรวจสอบกรณีเงินจำนวน 100,000 บาท ที่ นพ.เปรมศักดิ์บอกว่านำไปบริจาคสร้างห้องภายในโรงเรียน ชื่อ “ห้องพี่หมอเปรม” เพื่อสอนเด็กนักเรียนว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินส่วนตัวหรือเป็นเงินราชการของเทศบาล ซึ่งหากเป็นเงินเทศบาลแล้วนำมาสร้างห้องในนามส่วนตัว พร้อมขึ้นป้ายหน้าห้องเป็นชื่อตัวเองนั้นถือว่าผิด
และหากเป็นเงินส่วนตัวแล้วนำมาสร้างห้องสอนหนังสือให้กับตัวเองนั้น ต้องการทราบว่าเงินจำนวน 100,000 บาทสามารถบริจาคได้หรือไม่ บริจาคในช่วงเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องเข้าตรวจสอบ อีกทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องเด็กก็ต้องเข้าตรวจสอบด้วย
นายเดชคำรณระบุอีกว่า สำหรับการสร้างห้องสอนหนังสือให้เด็กนักเรียนเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ของ นพ.เปรมศักดิ์นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและน่ายกย่องเพราะทำคุณประโยชน์ให้สังคม แต่การไปสร้างห้องสอนหนังสือให้เด็กนักเรียนแล้วตอนหลังกลับมีภาพคล้ายการแต่งงานกับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 ในโรงเรียนดังกล่าวนั้น ถือว่าไม่ถูกไม่ควร ผิดจริยธรรม และศีลธรรม ไม่ใช่คุณสมบัติของผู้นำ เพราะตัว นพ.เปรมศักดิ์เป็นถึงประธานคณะกรรมการสถานศึกษา และเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์
“หมอเปรมต้องออกมาชี้แจงกับสังคมว่าเงินที่นำไปสร้างห้องพี่หมอเปรมนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เพื่อสังคมจะได้หายสงสัย อย่าเบี่ยงเบนประเด็นโดยอ้างเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้ตัวเองดูดี และอย่าดึงคนภายนอกเข้ามาเกี่ยวด้วย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นแต่แรกเริ่มคือภาพแต่งงานกับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 ว่าจริงหรือไม่ และทำไมต้องจับนักข่าวแก้ผ้า หมอเปรมต้องตอบเรื่องนี้ให้ชัด และต้องปฏิรูปตัวเองเสียก่อนค่อยไปวิ่งพล่านมั่วไปเรื่อยลามถึงการเรียกร้องให้ปฏิรูปสื่อ” นายเดชคำรณกล่าว
ด้าน น.ส.วันวิสา วัฒนาคมประทีป ชาวชุมชนสีหมอน เขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ แสดงความเห็นว่า ประเด็นที่สังคมจับตามองตอนนี้คือเรื่องภาพคล้ายงานแต่งงานกับนักเรียนชั้น ม.5 และผู้สื่อข่าวแจ้งความดำเนินคดีกรณีจับผู้สื่อข่าวแก้ผ้าเท่านั้นที่ชาวบ้านและคนในสังคมอยากให้ นพ.เปรมศักดิ์ออกมาชี้แจง ซึ่งหากแต่งงานจริงก็ยอมรับแบบลูกผู้ชาย หรือหากไม่ได้แต่งก็ปฏิเสธไป เรื่องก็จบ
โดยที่ไม่ต้องเคียดแค้นโกรธผู้สื่อข่าวที่ไปขอคำอธิบายถึงขั้นจับนักข่าวแก้ผ้าให้เรื่องบานปลายใหญ่โตจนทำให้เทศบาลเมืองบ้านไผ่และชาวบ้านเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างตอนนี้ ซึ่งหากยังคิดว่าเป็นผู้นำก็ควรที่จะออกมายอมรับแบบลูกผู้ชายและแสดงความรับผิดด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่
แหล่งข่าวภายในหมู่บ้านระบุว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องในโลกโชเชียล ซึ่งเป็นภาพคล้ายงานพิธีแต่งงานระหว่าง นพ.เปรมศักดิ์ และเด็กสาว นักเรียนชั้น ม.5 ซึ่งอายุเพียง 17 ปี และกรณีข่าวการจับนักข่าวแก้ผ้านั้น ทำให้ครอบครัวเด็กสาวต้องปิดบ้านเงียบตั้งแต่เกิดเรื่องได้ 2 วัน คาดว่าน่าจะไปอาศัยอยู่กับบ้านญาติพี่น้องนอกพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านต่างสงสารครอบครัวนี้อย่างมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งไม่ทราบว่าได้ไปเรียนหนังสือหรือไม่ และอาจเสียโอกาสในการเรียนให้จบมัธยมปลาย จึงอยากให้หมอเปรมออกมาชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งยังเรียกร้องให้หน่วยงาน หรือมูลนิธิต่างๆ ที่ดูแลเรื่องสิทธิเด็กออกมาตรวจสอบและให้การช่วยเหลือต่อไป