ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “หมอเปรม” ปฏิเสธเสียงแข็งไม่ได้กักขังถอดกางเกงนักข่าว อ้างไม่ได้เชิญไปสัมภาษณ์ ซ้ำเป็นฝ่ายถูกนักข่าวคุกคาม หมดความเชื่อถือสื่อ ด้านปลัดจังหวัดเตรียมเรียกรองนายกเทศมนตรีพยานปากสำคัญให้ข้อมูลเพิ่มเติม มั่นใจสรุปสำนวนทัน 11 ส.ค. ขณะที่ตำรวจเผยผลการสอบคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงนักข่าวชี้ตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น.วันนี้ (4 ส.ค.) ที่สำนักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ภายในศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีถูกร้องเรียนกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้สื่อข่าว 5 สำนัก และละเมิดสิทธิถอดกางเกงผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยมีนายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่นในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ร่วมสอบปากคำ
ทั้งนี้ ก่อนเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการฯ นพ.เปรมศักดิ์เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สื่อได้บุกรุกถึงห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ โดยตนปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพราะไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ ไม่ได้เชิญนักข่าวไป เวลาของตนมีไว้ทำงานให้กับประชาชน ยืนยันว่าสื่อไม่ควรล่วงละเมิดเรื่องส่วนตัวของใครทั้งสิ้น สื่อเองก็มีเรื่องส่วนตัว ถ้าแหล่งข่าวไม่อยากเปิดเผยก็อย่าไปละลาบละล้วง
“ผมเคารพในคณะกรรมการฯ ผมไม่ให้การข้างถนน ผมจะตอบก็เมื่อท่านประธานคณะกรรมการเชิญมา ตำรวจเชิญไปก็ไป ผมยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าว” นพ.เปรมศักดิ์ระบุ
ต่อคำถามที่ว่า ทำไมไม่ชี้แจงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสื่อ นพ.เปรมศักดิ์ตอบว่า ตนไม่เชื่อถือ ตนเชื่อถือในความเป็นคณะกรรมการมากกว่า เพราะคณะกรรมการตั้งขึ้นมาโดยระบบที่น่าเชื่อถือ การตรวจสอบข้างถนนทำให้คนเสียคนมาเยอะ แล้วค่อยมาขอโทษทีหลัง ก็ขอโทษด้วยตัวอักษรเพียงนิดเดียว
นพ.เปรมศักดิ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้เป็นการเบี่ยงเบนประคำถามเกี่ยวกับภาพถ่ายกับเด็กผู้หญิง เพราะไม่เห็นจะผิดกฎหมายอะไรอยู่แล้ว ตนไม่ยอมอยู่ภายใต้การคุกคามของสื่อ แต่รับรองว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายแน่นอน และขอยืนยันว่าไม่ได้ถอดกางเกงผู้สื่อข่าว
ด้านนายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การสอบปากคำวันนี้นอกจาก นพ.เปรมศักดิ์แล้วยังมีเจ้าหน้าที่เทศบาลที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 3 คน ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) จะเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มเติมหลังมีการสอบสวนพบว่ามีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่หน้าห้องนายกทั้งหมดจะต้องมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่เช่นกัน
ขณะที่การสอบปากคำผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนนั้นเสร็จสิ้นไปแล้วและมีการสรุปสำนวนไว้แล้ว ดังนั้น คงเหลือในฝ่ายของ นพ.เปรมศักดิ์เท่านั้น ทั้งนี้มั่นใจว่าการสรุปสำนวนคดีความดังกล่าวจะเสร็จภายในวันที่ 10 ส.ค.และจะสรุปส่งเรื่องไปยังนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 11 ส.ค.เพื่อส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไป
“แนวทางการสอบสวนนั้นไม่มีความซับซ้อน คณะกรรมการสอบสวนและฝ่ายกฎหมายกระทำการอย่างรัดกุมและเป็นขั้นตอน เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก ทั้งนี้ทางฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งกรรมการสอบสวนทุกท่านมีดุลพินิจในการไต่สวนและสอบสวนอยู่แล้ว”
ดังนั้น หากผลการชี้มูลความผิดออกมาอย่างใดนั้นก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตนของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับว่าด้วย พ.ร.บ.เทศบาลฯ หากพบว่าพนักงานเทศบาลนั้นให้การเท็จก็จะถูกสอบสวนเอาผิดทางวินัยฐานให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชาอีกด้วย”
พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ขั้นตอนการสอบสวนเอาผิดทางกฎหมายตามที่ผู้สื่อข่าวได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ นพ.เปรมศักดิ์นั้น ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานฝั่งผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้น ขณะที่ฝั่งเทศบาลสอบปากคำไปแล้ว 7 คน คงเหลืออีก 1 คนเท่านั้นซึ่งอยู่ในห้องขณะเกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานในการรีบให้มาสอบปากคำอยู่ ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งได้มีการอายัดฮาร์ดดิสก์จากเทศบาลเมืองบ้านไผ่มานั้นอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบและกู้คืนจากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจที่ กทม.
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ได้ประสานงานมายังนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ถูกสั่งให้ถอดกางเกง รวมไปถึงผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มาชี้ตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็จะสามารถที่จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดได้ในภาพรวมทั้งหมด