xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมประเทศไทยเป็นอย่างนี้...?

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

อีกไม่กี่วันถึงเวลาคนไทยประมาณ 50 ล้านคน ผู้มีสิทธิลงประชามติจะได้ไปตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือไปเพื่อกาทำให้บัตรเสีย ทั้งๆ ที่รู้ว่าการรับหรือไม่รับไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน แก้ปัญหาเรื้อรังที่เป็นเหตุของการมีและไม่มีรัฐธรรมนูญ

ในประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ ประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ถ้าไม่ใช่อันดับหนึ่งที่ใช้รัฐธรรมนูญเปลืองที่สุด เป็นผลของการรัฐประหารทั้งสำเร็จและล้มเหลว ยิ่งการเมืองยุคปัจจุบันปัญหาของประเทศไทยมีความหลากหลายเชิงโครงสร้างมากขึ้น

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ และถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านหรือไม่ผ่านประชามติ บ้านเมืองจะดีขึ้นหรือเลวลงคงเป็นการคาดเดายาก แต่ที่เป็นไปได้มากคือโอกาสที่จะเกิดปัญหาเดิมๆ อีก การเมืองไม่ราบรื่น มีมากกว่าที่คนในแผ่นดินนี้จะมีชีวิตอย่างสงบสุข

ต้นเหตุของปัญหาคืออะไร ไม่ใช่รัฐธรรมนูญแน่นอน ว่ากันง่ายๆ อย่างที่หลายคนเคยได้พูดมาแล้วว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะ “คน” ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย เป็นไทยแท้ดั้งเดิมหรือไทยใหม่มีเพียงสัญชาติไทยก็ตาม แต่ได้มีส่วนทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เต็มร้อย

เป็นทั้งผู้สร้าง ผู้ดำรงรักษา และผู้ทำลาย ด้วยเหตุผลทางการเมือง เศรษฐกิจ ความอยู่รอดทางสังคม ทำให้สภาวะแวดล้อมด้านธรรมชาติ และความเป็นคนเปลี่ยนแปลงไปด้วยกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ และแรงกดดันเพื่อความอยู่รอด สร้างปัญหาจนยากที่จะแก้ไข

ถ้าถามง่ายๆ ทุกวันนี้ว่า “คนไทย คืออะไร” ไม่ง่ายนักที่จะตอบ ความเปลี่ยนแปลงตามสภาวะแวดล้อมกาลเวลาได้เปลี่ยนนิสัยซึ่งเคยโอบอ้อมอารี ไปมาลาไหว้ แบบคนไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ ส่วนหนึ่งได้กลายสภาพเป็น “ม้าอารี” ไปแล้ว

ยอมให้คนต่างชาติอาศัยจุดอ่อนของธรรมชาติคนไทยมาปักหลักอยู่กินทำมาค้าขายจนแผ่นดินไทยเป็นพื้นที่สำหรับชนชาติสากล มีคนจากทั่วโลก ทั้งดีและร้ายเข้ามาอาศัยอย่างสุขสบาย สร้างฐานะจนร่ำรวย อาชญากรหนีการจับกุมมาอาศัยไม่น้อยเช่นกัน

คนในประเทศนี้เป็นปัญหาสำหรับแผ่นดินนี้จริงๆ ถึงแม้บ้านเมืองไม่อยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด เกิดสงครามกลางเมืองเหมือนในอิรัก ซีเรีย ลิเบีย อัฟกานิสถาน เยเมน หรือประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา สภาพเมืองไทยแปรเปลี่ยนไปมากเพราะคน

“ทัศนคติ” “มุมมอง” หรือ “หลักคิด” “ความเชื่อ” หรือ “ความโง่เขลาเบาปัญญา” “ความโง่งมงาย” หรือ “การขาดความรู้” อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนบนแผ่นดินนี้ ทำให้เกิดปัญหาส่งผลกระทบด้านโครงสร้างอนาคตของประเทศ มาพิจารณาประเด็นเหล่านี้ดู

ทำไมคนบนแผ่นดินนี้มีปัญหาแยกแยะคนดี คนชั่ว พฤติกรรมดีและชั่ว หรือว่ารู้ทั้งรู้ แต่ก็ตัดสินใจชอบ ยอมรับ หรือไม่ชอบ ไม่ยอมรับ โดยไม่ต้องมีหลักเกณฑ์ ความถูกต้องดีงาม แต่เป็นเพราะตัวเองได้ประโยชน์ ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะสร้างผลเสียหายโดยรวมในระยะยาว

มีคนในประเทศไหนบ้างที่นั่งเฝ้ารอว่าใครจะเอาเงินมาให้ แลกกับการไปลงคะแนนเลือกตั้ง โดยรู้ทั้งรู้ว่าคนแจกเงินมีประวัติมัวหมอง พฤติกรรมโกงกิน รวยด้วยการทุจริต คนบนแผ่นดินนี้ถูกมองว่าเป็น “หัวหมอ” แต่มักง่าย ชอบละเมิดกฎหมาย เอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว

มีคนในประเทศไหนบ้างที่ยอมรับพฤติกรรมผ่านคำพูดฝังหัวว่า “ถ้าจะโกงก็ได้ แต่ขอให้ตัวเองได้รับประโยชน์” เท่ากับละเลยไม่ใส่ใจว่าใครจะกระทำผิดกฎหมาย แม้ประโยชน์เพียงน้อยนิด เทียบกันไม่ได้ เหมือนนักการเมืองใช้เงินซื้อเสียงไม่กี่สิบล้านบาท

เมื่อเข้าไปกุมอำนาจรัฐ ก็จัดการแบ่งสันปันส่วนทรัพย์สินแผ่นดิน ถอนทุนบวกกำไรหลายเท่าตัว และคนบนแผ่นดินนี้ก็รู้ ส่วนหนึ่งออกไปเสี่ยงภัย รวมตัวกันขับไล่นักการเมืองชั่ว ที่น่าสมเพชคือมีคนอีกกลุ่มหนึ่งออกมาเสี่ยงภัยปกป้องคนชั่ว จนสร้างปัญหาเรื้อรัง

ที่น่าสมเพชยิ่งกว่านั้นคือคนในกระบวนการยุติธรรมส่วนหนึ่งได้รู้เห็นเป็นใจ มีส่วนได้รับผลประโยชน์ชั่วร้ายเหล่านั้น และคนดีที่ยังเหลือไม่กล้าทำอะไรเสี่ยงภัยเพื่อแก้ไขปัญหา ทำให้เกิดความเสื่อมทรามด้านความเที่ยงธรรม ความน่าเชื่อถือในวงการเดียวกัน

เราได้มี “ระบอบทักษิณ” ต้นแบบของการเมืองสามานย์ ทุจริต บ่มเพาะความชั่วร้ายด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทัศนคติ แนวคิด สร้างขบวนการทาสน้ำเงิน “สู้แล้วรวย” เกิดมิคสัญญีในแผ่นดินซ้ำซาก ที่น่าสมเพชคือปัญหานี้ยังไม่มีการแก้ไขเด็ดขาด

คนบนแผ่นดินนี้ถูกมองว่า “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” แต่คนเหล่านั้นเชื่อแบบฝังหัวว่าไอ้ตัวมหาวายร้ายกังฉินเป็นคนดี เหมือนผีบุญมาโปรด เอาเงินมาแจก ไม่เคยมีใครทำให้มาก่อน ดังนั้นจึงลุ่มหลง เรียกร้องให้หวนคืนกลับ ไม่มองว่าตัวอาชญากรนั้นยังโทษจำคุก

เห็นกันอยู่ว่ายังมีคดีติดตัว มีสมุนเคยรวมตัวก่อการจลาจล ปล้นห้างร้าน เผาบ้านเผาเมือง สะสมอาวุธสงคราม ฆ่าคน แต่ยังมีชาวบ้านไม่คิด ไม่เชื่อว่านั่นเป็นพฤติกรรมเลวทราม เป็นอาชญากรรมร้ายแรงมีโทษรุนแรง แต่กลับมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสี

เรามีคนอย่าง “อดีตเณรคำ” นักต้มตุ๋น ผีบุญนุ่งห่มผ้าเหลือง ต้องคดีอาญาสารพัด หลบหนีไปต่างประเทศ แต่ยังมี “ชาวพุทธ” “พระสงฆ์” เชื่อถือ เคารพกราบไหว้บูชา ทั้งๆ น่าจะเป็นกลุ่มคนมีสติปัญญา แยกแยะผิดถูกชั่วดีตามหลักการคำสอนของพระพุทธเจ้า

เรามี “เจ้าลัทธิชิตังเม” ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเป็นผีบุญมานานกว่า 40 ปี สร้างอาณาจักรใหญ่โต ระดมทุนเงินบริจาคมากมาย มีพฤติกรรมเพี้ยน แต่กลับมีสาวกชาวพุทธมากเป็นล้านๆ คน มีพระสงฆ์หลายหมื่นรูป รวมทั้งสงฆ์ยศศักดิ์สูง ยอมสยบเคารพเชื่อถือ

ปัญหาสำคัญเรื้อรังของประเทศนี้จึงไม่ใช่อยู่ที่รัฐธรรมนูญ นักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า แต่คือ “คนบนแผ่นดินนี้” เพราะความเสื่อมของความคิด ทัศนคติ หลักการความดีความชั่ว ดังคำกล่าว “คนทำชั่วจะได้ใจ มีชัย เพราะคนดีอยู่เฉยไม่ยอมทำอะไร” นั่นเอง!
กำลังโหลดความคิดเห็น