xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ร่างรัฐธรรมนูญปลอม ใครทำ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไปรษณีย์บิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่พบในจังหวัดเชียงใหม่
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เป็นเรื่องเป็นราวจริงจังขึ้นมาจนได้ สำหรับกระแสข่าว “ร่างรัฐธรรมนูญปลอม” ทั้งที่แรกๆ หลายฝ่ายออกมาชี้แจงว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด หรือเกิดความผิดพลาดของการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญที่เตรียมไว้ให้ประชาชนนำไปศึกษาก่อนการลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 นี้

แต่แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการพบร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาบิดเบือนจากร่างจริงส่งทางไปรษณีย์ไปถึงประชาชนทางภาคเหนือในบางจังหวัด เช่น ที่เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบจดหมายกว่า 2,000 ฉบับ ที่มีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ โดยจ่าหน้าส่งถึงเจ้าของบ้านที่มีบ้านเลขที่อยู่ในพื้นที่อำเภอต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่มีการระบุชื่อผู้ส่งและผู้รับ ซึ่ง พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบ และระงับการนำจ่ายเพื่อตรวจสอบหาแหล่งที่มา และส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาวันที่ 14 กรกฎาคม จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่มีการพบจดหมายลักษณะดังกล่าวอีกกว่า 4,000 ฉบับ โดยเป็นกระดาษเอกสารที่มีการพิมพ์เนื้อหาบิดเบือนสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญ ติดแสตมป์พร้อมจ่าหน้าระบุผู้รับเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ต่างๆ แต่ไม่ระบุชื่อผู้ส่ง ซึ่งถูกส่งมาโดยการหย่อนตู้ไปรษณีย์สาธารณะ

นายบุญธรรม ประสงค์วรากิจ หัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า จากการรวบรวมจดหมายที่เข้าข่ายดังกล่าวและกำลังจะถูกส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ รวมแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 6,023 ฉบับ เบื้องต้นอาจมีบางส่วนที่ถูกส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนแล้วในช่วงก่อนที่จะมีการตรวจสอบพบและระงับการนำจ่าย

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จดหมายดังกล่าวถูกนำส่งมาจากหลายพื้นที่ เช่น ตู้ไปรษณีย์ในเขตพื้นที่อำเภอสันทราย อำเภอสันกำแพง อำเภอเมือง และอำเภอแม่ริม นอกจากนั้น ยังพบว่า บางส่วนถูกส่งมาจากตู้ไปรษณีย์ในเขตดุสิต กรุงเทพฯ มายังเชียงใหม่ด้วย เบื้องต้น ได้มีการนำส่งจดหมายดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ กกต.เข้าตรวจสอบหาตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเนื้อหาภายในมีเอกสารเป็นการชวนเชื่อ บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ อ้างว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2559 มีการตัดสิทธิประชาชนในด้านต่างๆ

นอกจากนี้ ที่ศูนย์ไปรษณีย์ลำพูน มีการพบจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญจำนวนมากกว่า 400 ฉบับ ปลายทางอยู่ที่อำเภอจอมทอง อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยใช้จังหวัดลำพูนเป็นแหล่งต้นทางส่ง รวมทั้งมีการพบที่จังหวัดลำปางด้วย

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูจะไม่ให้ราคากับการทำร่างรัฐธรรมนูญปลอมมากนัก โดยได้ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ว่าร่างรัฐธรรมนูญปลอมมาจากไหน ต้องให้เวลาเขา สื่อรู้หรือไม่ว่ามาจากไหนช่วยสืบหน่อย สื่ออย่าไปสนใจถ้ามันไม่ใช่ของจริง ตำรวจเขาก็ดำเนินคดีตามกฎหมายที่ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ควรจะสนใจรัฐธรรมนูญจริงว่าดีไม่ดีอย่างไร

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องรัฐธรรมนูญปลอมว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ และตำรวจต้องหาทางจับตัวให้ได้ ส่วนกระบวนการใต้ดินนั้นตนคิดว่าเป็นส่วนน้อยไม่ใหญ่โตอะไร ติดตามอยู่ตลอดเวลา เราต้องการให้เกิดความสงบ แต่มีบางคนและบังเอิญสื่อก็ชอบที่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ยืนยันว่าไม่มีความวุ่นวาย และประชาชนคงเข้าใจ

ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.กล่าวถึงกรณีที่ จ.ลำปางว่า ได้สั่งการให้ กกต.ลำปาง แจ้งความดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 แล้ว และศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยประชามติของรัฐบาลประจำจังหวัดลำปางได้ทำการอายัดจดหมายทั้งหมดมาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นจดหมายที่เป็นซองตราครุฑ จ่าหน้าซองถึงประชาชนในจังหวัดลำพูนโดยไม่ได้ระบุชื่อ และเนื้อหาภายในจดหมายมีการบิดเบือน กล่าวอ้างว่าร่างรัฐธรรมนูญจะยกเลิกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค รวมถึงยกเลิกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และยกเลิกการเรียนฟรีของนักเรียนระดับมัธยมปลาย ซึ่งไม่เป็นความจริง

นายศุภชัยกล่าวยังบอกอีกว่า ตำรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นผู้ต้องสงสัยสวมหมวกปิดหน้า นำจดหมายดังกล่าวมาหย่อนในตู้ไปรษณีย์แล้ว ยืนยันทุกฝ่ายเร่งดำเนินการหาตัวผู้กระผิดมาให้รวดเร็วที่สุด เพราะสร้างความสับสนให้แก่ประชาชน

ทั้งนี้ การเผยแพร่เอกสารบิดเบือนเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญนั้น ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 61 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท และศาลอาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 5 ปีด้วยก็ได้ ในกรณีเป็นการกระทำความผิดของคณะบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่า คนที่ทำร่างรัฐธรรมนูญปลอมเป็นใครกันแน่

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย มองว่า การบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญที่แพร่หลายอยู่ในขณะนี้ สะท้อนขบวนการต่อต้าน คสช.โดยกลุ่มอำนาจเก่าที่พยายามใช้กระบวนการประชามติและวันลงประชามติ 7 ส.ค. เป็นแค่เครื่องมือจัดตั้งทางการเมืองเพื่อช่วงชิงมวลชน จัดตั้ง และเตรียมการต่อสู้เคลื่อนไหวหลังลงประชามติ เพื่อเป้าหมายบางอย่างทางการเมือง

ส่วนนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญนั้นน่าจะมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน บางส่วนกระจายกันทำ โดยอาศัยเครือข่ายนักวิชาการในมหาวิทยาลัยออกมาบิดเบือน และนักการเมืองระดับสูงออกมาโกหก เช่น ว่า หากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคจะหายไป เบี้ยผู้สูงอายุต้องยกเลิก หรือทหารจะเป็นนายกรัฐมนตรีไปตลอด บางส่วนอาจถึงขนาดปลอมร่างฯ เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อหวังทำอย่างไรก็ได้ ไม่ให้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ผู้เกี่ยวข้องจึงต้องรู้เท่าทัน กระทรวงไอซีที ต้องหามือดีมาสกัดกั้น กกต.ต้องเปิดเกมรุก ให้ผู้ชี้แจงรีบลงพื้นที่ทำความเข้าใจต่อประชาชนแบบถึงเนื้อถึงตัว นำข้อเท็จจริงไปหักล้างข้อมูลเท็จ

ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีร่างรัฐธรรมนูญปลอมว่า ตอนนี้มีความพยายามโหมประโคมข่าวกันใหญ่ จริงๆ แล้ว จนบัดนี้ ยังไม่มีร่างปลอมไหนเลย ตามที่เป็นข่าวที่ปรากฏในจดหมายที่ส่งกันในภาคเหนือ ก็ไม่ใช่ร่างปลอม แต่เป็นการวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญในส่วนที่เป็นปัญหา ซึ่งเจ้าหน้าที่และ ทางคสช.พยายามบอกว่าเป็นร่างปลอมหรือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่เท่าที่ติดตามเป็นการชี้ให้เห็นปัญหา และตั้งคำถามที่มีมูล หรือมีข้อเท็จจริงรองรับ และเป็นปัญหาที่ประชาชนควรได้รับรู้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้นายนายจาตุรนต์จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญปลอม แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธว่าเนื้อหาที่เผยแพร่นั้นไม่มีการบิดเบือน และปรากฏการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550

ในครั้งนั้น การควบคุมของคณะรัฐประหารยังไม่เข้มงวดมากนัก ฝ่ายเครือข่ายของนายทักษิณ ชินวัตร จึงสามารถเคลื่อนไหวคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างค่อนข้างเสรี โดยมีการใส่เสื้อสีแดงพร้อมข้อความ “แดงไม่รับ” จนเสื้อแดงกลายเป็นสัญญลักษณ์ของกลุ่มผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร ในเวลาต่อมา

ส่วนการบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ก็เป็นไปอย่างอึกทึกครึกโครม ทั้งการปล่อยข่าวด้วยคำพูด ใบปลิว แจกแผ่นซีดีนับล้านแผ่น โดยมีประเด็นที่บิดเบือน เช่น ถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน ประธานองคมนตรี(พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์)จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ศาสนาอิสลามจะเป็นศาสนาประจำชาติ จะยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น

เพียงแต่ในครั้งนั้น รัฐบาลภายใต้การกำกับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ไม่ได้เข้มงวดในการเอาผิดกับคนที่บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญมากนัก จึงไม่มีใครถูกลงโทษจากการกระทำดังกล่าว ยกเว้นบางกรณีที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ประกาศกฏอัยการศึก

ในเมื่อการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติในปี 2550 มาจากกลุ่มเครือข่ายบริวารของนายทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดเจน จึงช่วยไม่ได้ที่กลุ่มเครือข่ายของนายทักษิณจะถูกเพ่งเล็งว่าอยู่เบื้องหลังการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญปี 2559 นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น