xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ปัดสร้างสถานการณ์ จม.บิดเบือนระบาดหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “สมชัย” เตือนเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับของ ปชต.ใหม่ผิด กม. “วิษณุ” มองต่าง ร่าง รธน.ปลอมระบาด ทำคนสนใจประชามติ ย้ำต้องแก้ รธน.57 หาก 7 ส.ค.ถูกคว่ำ “มีชัย” เซ็งพวกตีรวน วอนนักการเมืองสร้างสรรค์ กกต.ชงพิมพ์สาระ รธน.ลง นสพ.รายวันช่วงโค้งสุดท้าย “บิ๊กป้อม” ปัดมสร้างสถานการณ์ เชียงใหม่เจอเพิ่มอีก 4 พันฉบับ จม.บิดเบือนร่าง รธน. พบย่องหย่อนลงตู้ทั่วพื้นที่ “เพื่อไทย” บี้เลื่อนเลือกตั้งปี 60 ไม่ได้แล้ว

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ซึ่งนำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าพบ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารกิจการงานเลือกตั้ง เพื่อหารือกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติและการเพิ่มพื้นที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุสรณ์ กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะออกเสียงประชามติมีความสำคัญในการวางรากฐานสังคมไทย ซึ่งเนื้อหาซับซ้อน จึงต้องอธิบายเพิ่มเติม แต่การวิพากษ์วิจารณ์กลับถูกจำกัด ขณะที่ผู้เห็นต่างถูกจับกุม ส่วนหนึ่งมาจากความไม่ชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ กรณีเอกสารของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่เจ้าหน้าที่ใน กทม.ตีความว่าไม่ผิด แต่ที่ จ.ราชบุรีกลับชี้ว่าเอกสารเป็นเท็จ ไม่สามารถเผยแพร่ได้ หรือมีการพูดว่าการรณรงค์รับ ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญผิดทั้งคู่ แต่กลับพบว่ากลุ่มที่โน้มน้าวรับร่างรัฐธรรมนูญสามารถใช้กลไกรัฐได้ ไม่พบว่ามีการจับกุม แต่จับเฉพาะกลุ่มที่รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น

ด้าน นายสมชัย กล่าวว่า กรณีการจับกุมนักศึกษาที่ จ.ราชบุรีนั้น ตนได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โทรศัพท์มาสอบถามโดยตรงว่าเอกสารดังกล่าวไม่ผิด เพราะอยู่ในขั้นตอนที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ต้องให้ความเห็นว่าเนื้อหาในเอกสารมีการบิดเบือนหรือไม่ อีกทั้งจากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ กกต.ที่บ้านโป่งก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว อย่างไรก็ตามส่วนตัวได้เคยยืนยันหลายครั้งแล้วว่าเอกสารดังกล่าวไม่ผิด ทั้งนี้ กกต.กำลังตีความเอกสารหลายฉบับ ซึ่งรวมถึงเอกสารชื่อ 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าผิด เพราะมีหลายข้อความที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในร่างรัฐธรรมนูญ

“ส่วนการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำประชามติพบว่า 94 คดีเกี่ยวกับความมั่นคง คดีที่เกี่ยวกับกฎหมายประชามติมีเพียง 19 คดีเท่านั้น อยากให้เข้าใจ กกต.ด้วย เพราะขณะนี้ขาข้างหนึ่งก็เหมือนกับเข้าไปอยู่ในคุก และไม่ง่ายในการดำเนินการอะไร แรงเสียดทานก็เยอะ เราพยายามเตือนแบบกัลยาณมิตร ก็ถูกมองว่าเป็นการข่มขู่ จริงๆ” นายสมชัย กล่าว

**”วิษณุ” ไม่เชื่อมีซื้อเสียงประชามติ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าหากการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 เพราะจะลุกขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่เฉยๆ ไม่ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญชั่วคราวยังไม่ได้บอกกระบวนการไว้ จึงต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ใน 4 ประเด็น คือ ใครเป็นคนดำเนินการ ด้วยวิธีการใด ให้แล้วเสร็จภายในเวลาเท่าใด เมื่อแล้วเสร็จแล้วให้ทำอย่างไรต่อ ซึ่งอาจจะรวบไว้ในมาตราเดียวให้ครอบคลุมก็ได้

ส่วนกรณีที่พบร่างรัฐธรรมนูญปลอมกระจายในหลายจังหวัดนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสอบสวน ส่วนตัวเห็นว่าอย่างน้อยการที่มีข่าวร่างธรรมนูญปลอมระบาด สามารถมองวิกฤติเป็นโอกาสได้เช่นกัน เพราะทำให้ประชาชนหันมาสนใจการลงประชามติ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครไปแจกเงินจูงใจการลงคะแนน

** “มีชัย” บ่นพวกเล่นการเมืองน้ำเน่า

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.กล่าวว่า อยากให้ฝ่ายการเมืองยุติการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ และขอให้เริ่มเล่นการเมืองแบบการเมืองที่พัฒนา แต่ก็ไม่หวังจะไปเอาผิดใคร กรณีเอกสารสรุปสาระร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ตรงข้อเท็จจริงที่ จ. เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ กรธ.จะไม่ขอยุ่ง มุ่งหน้าชี้แจงสาระและข้อเท็จจริงในร่างรัฐธรรมนูญต่อไป

นายมีชัย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะมีทางออกอย่างไร โดยระบุว่า เปรียบผู้หญิงไม่ได้แต่งงานจะให้นึกถึงการหย่าร้างได้อย่างไร แต่ไม่ใช่ปล่อยประชาชนไปตายดาบหน้า แค่ยังไม่ถึงเวลาบอก

** พิมพ์ร่าง รธน.ลง นสพ.รายวัน

จากนั้นนายมีชัยได้เข้าร่วมประชุม กรธ. ซึ่งมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณาเอกสาร คลิปวีดีโอ หรือเอกสารอื่นๆ ตลอดจนเอกสาร จดหมาย ใบปลิวที่เข้าข่ายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ โดยมี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เป็นตัวแทน กกต.ร่วมหารือด้วย ภายหลังการหารือ นายสมชัยเปิดเผยว่า ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนลงประชามติจะสร้างบรรยากาศและเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงภายใต้กรอบกติกาและไม่ผิดกฎหมาย โดยจะมีการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญลงหนังสือพิมพ์ประจำวัน 3 ฉบับ เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนรับรู้เนื้อหาสาระแบบเต็มๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดรายการสาระร่างรัฐธรรมนูญเพื่อออกรายการทางโทรทัศน์ 10 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที และจะเชิญทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ยังเคลือบแคลงมาพูดคุยกันถกเถียงกัน ส่วนหัวข้อจะเลือกที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการและประสานงาน ส่วนเรื่องเอกสารที่เข้าข่ายบิดเบือนและข้อความเป็นเท็จนั้นส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค สิทธิการเรียนฟรี 12 ปี และเบี้ยผู้สูงอายุ โดย กกต.จะแจ้งกกต.จังหวัดและตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีอาญา จึงขอแนะนำว่าจากนี้ใครที่มีจดหมายในมือ เมื่อทราบว่ามีความผิดแล้ว ก็ไม่ควรแจกจ่าย

** “บิ๊กป้อม” ปัดสร้างสถานการณ์

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจพบเอกสารที่มีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญว่า ทราบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ขอยืนยันว่า รัฐบาล และ คสช.ไม่ได้สร้างสถานการณ์หรือเป็นผู้เผยแพร่เอกสารที่บิดเบือนตามกระแสข่าว

“สร้างอะไร ไม่มีหรอก ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดูแลอยู่ และทาง คสช.รายงานชี้แจงหมดแล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์

** “อีสาน”ยังไม่พบ รธน.ปลอม

ที่กรมการปกครอง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารของกรมการปกครองว่า ได้มีการหารือถึงงานทะเบียน เพื่อสนับสนุนงานของ กกต.ในการจัดทำบัญชีรายชื่อหน้าหน่วยออกเสียงประชามติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งบัญชีรายชื่อกว่า 95,000 หน่วยออกเสียง ให้กับ กกต.แล้ว ส่วนการส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน จะเป็นหน้าที่ของ กกต.ดำเนินการ โดยใช้ข้อมูลที่กระทรวงมหาดไทยจัดเตรียมไว้ให้

ส่วนการแจกร่างรัฐธรรมนูญปลอมในพื้นที่ภาตะวันออกเฉียงเหนือ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ได้รับรายงานในแต่ละพื้นที่แล้ว ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด และจะมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกำชับและดูแลความสงบเรียบร้อยก่อนจะถึงวันออกเสียงประชามติ

**คสช.เผยยังไม่พบซื้อเสียง

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการ คสช. ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) ได้เป็นประธานการประชุม กกล.รส.ระดับกองทัพภาคผ่านระบบทางไกล โดยมีแม่ทัพภาค ผู้บังคับกองพันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยช่วงหนึ่งได้หารือถึงการตรวจพบการร่างรัฐธรรมนูญปลอมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และ จ.ลำปาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กำลังเร่งตรวจสอบตั้งแต่การซื้อแสตมป์ และบุคคลที่ใช้ยานพาหนะไปส่งเอกสารที่ตู้ไปรษณีย์ เบื้องต้นทราบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปได้แจ้งความเนื่องจากเอกสารมีการบิดเบือนไว้แล้ว อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าทุกพื้นที่มีผู้ว่าฯ ตำรวจ และหน่วยทหารในพื้นที่ดูแลทุกจังหวัด ไม่ได้มีการจับตาพื้นที่ใดเป็นพิเศษ เพราะทุกจังหวัดจะต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนจะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญปลอมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารผู้ดำเนินการ ผู้จัดพิมพ์ หากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกล้องวงจรปิดก็จะนำไปสู่การติดตามและขยายผลต่อไป ทั้งนี้การข่าวยังไม่พบว่าจะมีการซื้อเสียงในการลงประชามติ

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงข้อสังเกตที่ระบุว่าทหารอาจเป็นผู้จัดฉากทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายที่ต้องการล้มร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทหารต้องทำ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการทำ ยิ่งจะเสียความไว้วางใจจากประชาชน สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็เสียหมด อีกทั้ง ทหารเป็นผู้รักษากฎหมาย เราจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และ ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการหาผู้กระทำผิด

** เชียงใหม่เจออีก 4 พันฉบับ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้มีการพบจดหมายลักษณะดังกล่าวอีกกว่า 4,000 ฉบับ โดยเป็นกระดาษเอกสารที่มีการพิมพ์เนื้อบิดเบือนสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญที่จะจัดให้มีการลงประชามติ ติดแสตมป์ พร้อมจ่าหน้าระบุผู้รับเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ต่างๆ ในพื้นที่ต่างๆ แต่ไม่ระบุชื่อผู้ส่ง ซึ่งถูกส่งมาโดยการหย่อนตู้ไปรษณีย์สาธารณะ

นายบุญธรรม ประสงค์วรากิจ หัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการแจ้งประสานทางไปรษณีย์ให้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับไปรษณีย์ร่างรัฐธรรมนูญปลอมที่ได้มีการส่งต่อไปยังบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งการก่อเหตุดังกล่าวเข้าข่ายจดหมายเวียนบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ 2559 โดยจากการรวบรวมจดหมายที่เข้าข่ายดังกล่าวที่กำลังจะถูกส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 6,023 ฉบับ ซึ่งเบื้องต้น อาจมีบางส่วนที่ถูกส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนแล้วในช่วงก่อนที่จะมีการตรวจสอบพบ และระงับการนำจ่ายวานนี้

สำหรับจดหมายที่พบนั้นลักษณะการจ่าหน้าซองจะไม่มีการระบุชื่อผู้ส่ง แต่จะระบุชื่อผู้รับเป็นประชาชนในแต่ละพื้นที่คล้ายการสุ่มเลือก และการจ่าหน้าซองนั้นมีทั้งแบบติดที่อยู่ และพิมพ์บนซองจดหมาย โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ถูกนำส่งมาจากหลายพื้นที่ เช่น ตู้ไปรษณีย์ในเขตพื้นที่อำเภอสันทราย อำเภอสันกำแพง อำเภอเมือง และอำเภอแม่ริม นอกจากนั้น ยังพบว่า บางส่วนถูกส่งมาจากตู้ไปรษณีย์ในเขตดุสิต กรุงเทพฯ มายังเชียงใหม่ด้วย เบื้องต้น ได้มีการนำส่งจดหมายดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ กกต.เข้าตรวจสอบหาตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

** พท.เชื่อไม่กล้าเลื่อนเลือกตั้งแล้ว

อีกด้าน นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เชื่อว่า คสช.จะไม่เลื่อนโรดแมปและการเลือกตั้งออกไปจากปี 2560 ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะทั้งผู้นำและรองนายกฯ ให้สัมภาษณ์เป็นสัญญาประชาคมหลายครั้งว่าจะเดินตามโรดแมป ดังนั้น คนไทยน่าจะได้เลือกตั้งในปี 2560 และตนยังไม่เห็นเหตุผลที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ถึงจุดนี้ทุกฝ่ายคงรู้แล้วว่าการขับเคลื่อนประเทศในสภาพการณ์และรัฐบาลในรูปแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากปัญหาของโลกถาโถมเข้ามาทุกวัน ความเชื่อมั่นจากต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็น การคืนประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ประเทศเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก และไม่ว่าประชาชนจะออกเสียงประชามติอย่างไรเราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ยิ่งประชาชนออกมาใช้สิทธิมากเพียงไรยิ่งทำให้ทุกฝ่ายได้รู้ความต้องการของประชาชนมากขึ้นเท่านั้น

** ศาล ปค.ไม่รับคำฟ้องกลุ่ม “จอน”

วันเดียวกัน ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องในคดีที่ นายจอน อึ๊งภากรณ์ กับพวกรวม 13 คน ฟ้อง กกต.ขอให้เพิกถอนประกาศ กกต.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ และขอให้ระงับการออกอากาศรายการ “7 สิงหาประชามติร่วมใจ” ทั้งนี้ศาลวินิจฉัยว่า ประกาศของ กกต.เป็นเพียงคำแนะนำและยกตัวอย่างวิธีการที่ กกต.เห็นว่าประชาชนสามารถดำเนินการได้เท่านั้น ซึ่งนอกจากวิธีการดังกล่าวแล้วประชาชนย่อมสามารถแสดงความคิดเห็นด้วยวิธีการอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมายได้ ส่วนการจัดรายการ “7 สิงหาประชามติร่วมใจ” ก็เป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติให้เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ คำอธิบายสาระสำคัญ ประเด็นเพิ่มเติมต่างๆ ซึ่งได้มอบหมายให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐเป็นผู้ดำเนินการโดยอยู่ในดุลพินิจของแต่ละสถานี โดยที่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 13 รายไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายที่จะมีสิทธิฟ้องคดีนี้ จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา.
กำลังโหลดความคิดเห็น