xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กหมู” ปรับโครงสร้าง กกล.รส.รองรับทำประชามติ ยันทหารไม่มีการจัดฉากป้ายสีฝ่ายล้ม รธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ธีรชัย นาควานิช
“พล.อ.ธีรชัย” ประชุมแม่ทัพภาค ผบ.พัน ปรับโครงสร้าง กกล.รส.ใหม่รองรับวันลงประชามติ เน้นดูแลรักษาความเรียบร้อย สกัดกั้นการผิดกฎหมาย ขับเคลื่อนงานปรองดอง เผยพบแจก จม.บิดเบือนร่าง รธน. ที่เชียงใหม่ ลำปาง สั่งสอบใครอยู่เบื้องหลัง ยันทหารไม่คิดจัดฉากป้ายสีฝ่ายล้มร่าง รธน. เพราะไม่มีประโยชน์ ยิ่งจะเสียความไว้วางใจจากประชาชน โวทหารลงพื้นที่ ปชช.ตอบรับได้

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่า วันนี้ (14 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการ คสช. ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) เป็นประธานการประชุม กกล.รส.ระดับกองทัพภาคผ่านระบบทางไกลวีทีซี โดยมีแม่ทัพภาค ผู้บังคับกองพันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อรับฟังแนวทางการปฏิบัติงานของ กกล.รส. เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจากนี้ กกล.รส.จะมุ่งเน้นงานและภารกิจในส่วนความรับผิดชอบ 3 ส่วน คือ 1. งานรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลสถานการณ์ในภาพรวมของประเทศ ตามแนวทางที่ คสช.ได้ปฏิบัติมา ประกอบด้วย การบังคับใช้และการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย การดูแลความมั่นคงของประเทศ รวมถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2559

2. การขับเคลื่อนงานปรองดองสมานฉันท์ ตามกรอบแผนงานที่ได้จัดทำไว้แล้ว และ 3. งานช่วยเหลือประชาชน งานสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล งานพัฒนาและงานบรรเทาสาธารณภัย

โดยเลขาธิการ คสช.ย้ำในเจตนารมณ์ของการปฏิบัติงานทั้ง 3 ลักษณะ การปฏิบัติงานของ กกล.รส.ให้เป็นไปในลักษณะการกำกับดูแล และประสานกับส่วนราชการในพื้นที่และผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกส่วนราชการดำเนินงานไปตามแนวทางที่ คสช. และรัฐบาลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และการดูแลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ในทุกมิติ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เลขาธิการ คสช.ได้กล่าวชื่นชม กกล.รส.ในทุกระดับที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติงานเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในทุกภารกิจ และย้ำให้รักษามาตรฐานในการดูแลสถานการณ์บ้านเมืองให้เกิดความเรียบร้อย การใช้อำนาจหน้าที่ให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันให้ตรวจสอบการแอบอ้าง คสช.เพื่อกระทำการใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบสังคม หรือเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ให้ กกล.รส.ตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายทุกกรณี

สำหรับในการทำงานในช่วงต่อไป เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนจะยังคงยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ทำหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร มีคุณธรรม และให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างดีที่สุด

ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปรับโครงสร้าง กกล.รส.ครั้งนี้เพื่อรองรับการลงประชามติว่า เป็นนโยบายในการปฏิบัติภารกิจ 7 ประการ เนื่องจากภารกิจบ้างพื้นที่ยังต้องติดตามให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนบางภากิจที่ยังไม่สมบูรณ์ก็ต้องเร่งดำเนินการ

ส่วนเรื่องที่มีการตรวจพบการร่างรัฐธรรมนูญปลอมในพื้นที่ภาคเหนือนั้น จากการติดตามงานด้านการข่าวพบว่ามีการแจกจ่ายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ที่เป็นเอกสารที่มีเจตนาไม่สุจริต อาจจะเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ส่งเอกสารที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งแต่ระบุชื่อผู้รับ โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กำลังเร่งตรวจสอบตั้งแต่การซื้อแสตมป์ และบุคคลที่ใช้ยานพาหนะไปส่งเอกสารที่ตู้ไปรษณีย์ เบื้องต้นทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปได้แจ้งความเนื่องจากเอกสารมีการบิดเบือน 3 ประเด็น คือเรื่องการตัดเบี้ยประกันผู้สูงอาบยุ การยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และยกเลิกนโยบายเรียนฟรี รวมถึงเรื่องต่างๆ ที่บิดเบือน เนื่องจากผิด พ.ร.บ.ประชามติ

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกพื้นที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ และหน่วยทหารในพื้นที่ดูแลทุกจังหวัด ไม่ได้มีการจับตาพื้นที่ใดเป็นพิเศษ เพราะทุกจังหวัดจะต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่ที่มีปรากฏการแจกจ่ายเอกสาร ทาง คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องติดตามและประเมินสถานการณ์ต่อไป ขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ใดถูกจับตาเป็นพิเศษหรือบ่งบอกว่าจะเกิดความรุนแรง

สำหรับสถานการณ์ของประเทศในภาพรวมมีความเรียบร้อย ส่วนจะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญปลอมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารผู้ดำเนินการ ผู้จัดพิมพ์ หากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกล้องวงจรปิดก็จะนำไปสู่การติดตามและขยายผลต่อไป

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวอีกว่า กรณีที่ทหารได้ลงพื้นที่เพื่อชี้แจงสร้างความรับรู้เรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้กับประชาชนนั้นได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดีและประชาชนยืนยันจะไปใช้สิทธิ์ตามกรอบที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ กกล.รส.ทุกกองทัพภาคได้ทำงานในหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้บ้านเมือง เพื่อสนับสนุนการบริหารงานของราชการ ซึ่งจากภาพรวมขณะนี้ยังมีความสงบเรียบร้อยดี แต่การดูแลสถานการณ์ต่อจากนี้ไป 24 วันก่อนลงประชามติวันที่ 7 ส.ค. ทาง คสช.จะติดตามสถานการณ์และประเมิน ขอย้ำว่า กกล.รส.จะทำงานประสานงานร่วมกับทางจังหวัด ตำรวจและประชาชนเพื่อดูแลบ้านเมืองให้สงบโดยให้อยู่ภายใต้กฎหมาย

ทั้งนี้ งานด้านการข่าวยังไม่พบว่าจะมีการซื้อเสียงในการลงประชามติ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการบริหารงานของหัวหน้า คสช. รวมถึงคณะรัฐมนตรีทุกคนว่าจะดูแลบ้านเมืองและทำงานเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.

สำหรับเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาใช้สิทธิ เช่น การจัดรถรับส่งจะต้องมีหนังสือจากคณะกรรมการการเลือกตั้งสนับสนุนให้เดินทางรับส่งประชาชนผู้มีสิทธิมาลงประชามติ ยืนยันว่า คสช.จะดำเนินการอยู่ในกรอบ เพราะทุกหน่วยงานระมัดระวังในการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าทหารอาจเป็นผู้จัดฉากทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายที่ต้องการล้มร่างรัฐธรรมนูญ พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทหารต้องทำ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการทำ ยิ่งจะเสียความไว้วางใจจากประชาชน สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็เสียหมด อีกทั้งทหารเป็นผู้รักษากฎหมาย เราจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการหาผู้กระทำผิด


กำลังโหลดความคิดเห็น