xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯฉุนปม ตร.วิ่งเต้น “บิ๊กกากี”ก้นร้อนสั่งสอบด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - สตช.เต้นผ่าง ปม ร.ต.อ.แจ้งจับ ร.ต.อ. รับเงินวิ่งเต้นขึ้นสารวัตร 7 แสน สั่ง ผบก.น.2-สน.บางรัก สอบข้อเท็จจริงด่วน จ่อลงโทษทั้งอาญา-วินัย “บิ๊กตู่” เรียก ตร.ที่เสียหายมาหาที่ทำเนียบ พร้อมจัดการให้ เตือนอย่าพูดส่งเดชกลับไปกลับมา

วานนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) ได้เดินทางเข้าไปที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางซื่อ เพื่อตรวจข้อเท็จจริงกรณี ร.ต.อ.ชาญชาย เย็นสุข รองสารวัตรจราจร (รอง สว.จร.) สน.นิมิตรใหม่ แจ้งความเอาผิดกับ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช รัตน์ชิโนตรัย รองสารวัตรปราบปราม (รอง สวป.) สน.บางรัก เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) ฐานเรียกรับผลประโยชน์ หลังหลอกเอาเงิน7 แสนบาท เพื่อแลกกับการโยกย้ายตำแหน่งให้ แต่กลับไม่สามารถวิ่งเต้นตำแหน่งให้ได้จริง โดยมี พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางซื่อ ร่วมชี้แจง

พล.ต.ต.เจริญ เปิดเผยว่า ร.ต.อ.ชาญชาย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าถูก ร.ต.อ.ชนินท์ธัช หลอกลวงเอาเงินสดจำนวน 7 แสนบาท อ้างว่าจะนำเงินไปซื้อของขวัญให้กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เนื่องจาก ร.ต.อ.ชาญชาย ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตร ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อมีการแจ้งความพบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นพฤติการณ์หลอกลวง ฉ้อโกง เอาเรื่องเท็จมากล่าว ของ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช โดยการสร้างเรื่องทำให้ตนเองน่าเชื่อถือว่า รู้จักกับผู้บังคับบัญชาระดับสูง สามารถวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่งได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว

“เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชนินท์ธัช มาบอกกับ ร.ต.อ.ชาญชายว่า มีชื่อได้เลื่อนเป็นสารวัตร ให้นำเงินมาให้เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อของขวัญให้กับนาย หรือผู้ใหญ่หลายคน ทำให้ ร.ต.อ.ชาญชาย หลงเชื่อนำเงินจำนวน 7 แสนบาทมามอบให้ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ข้าง ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีขาออก” พล.ต.ต.เจริญ กล่าว

** รอง สวป.บางรัก ส่อโดนหนักถึงขั้นไล่ออก

พล.ต.ต.เจริญ กล่าวต่อว่า เมื่อพนักงานสอบสวนรับแจ้งก็ติดต่อเรียก ร.ต.อ.ชนินท์ธัช มาพบพร้อมบอกว่าตัวเองไม่ได้ติดต่อนายตำรวจท่านใดเพื่อให้เลื่อนตำแหน่ง ร.ต.อ.ชาญชาย เพียงแค่ไปหลอกลวง ร.ต.อ.ชาญชาย ที่เป็นเพื่อนนักเรียนสิบตำรวจด้วยกัน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายเองเท่านั้น เมื่อทราบว่าร.ต.อ.ชาญชาย มาแจ้งความก็นำเงินจำนวน 7 แสนบาทมามอบคืนให้ แต่ไม่พบ จึงฝากไว้กับพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช จะถูกดำเนินคดีในข้อหาเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย แต่พฤติการณ์ฉ้อโกงทรัพย์ในขณะนี้ยังไม่ได้สอบเพิ่มเติม เนื่องจากต้องรอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเสียก่อน โดยทางพนักงานสอบสวนได้รายงานข้อเท็จจริงให้กับผู้บังคับบัญชาสายงานทั้ง 2 ฝ่ายทราบแล้ว ซึ่งในเรื่องการดำเนินคดีอาญาทาง สน.บางซื่อจะเป็นฝ่ายดำเนินการ หลังจากนี้หากมีผู้ใดเคยถูก ร.ต.อ.ชนินท์ธัช หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวสามารถที่จะมาให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อที่จะดำเนินคดีเป็นรายๆไป

“สำหรับความผิดทางวินัยนั้นต้องให้ต้นสังกัด บก.น.6 ของ ร.ต.อ.ชนันท์ธัช และ บก.น.3 ของ ร.ต.อ.ชาญชาย ดำเนินการ ซึ่งโทษทางวินัยสูงสุดในกรณีนี้มีโทษถึงขั้นไล่ออก โดยผู้บังคับบัญชาในสายงาน บก.น.6 หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะเป็นผู้สอบสวน เบื้องต้น ร.ต.อ.ชาญชาย ยังเป็นผู้เสียหายอยู่ เนื่องจากถูกหลอกว่าได้รับตำแหน่งแล้ว แต่ยังไม่มีการกล่าวพาดพิงไปยังผู้บังคับบัญชาท่านใด หลังจากนี้จะเรียกทั้ง 2 คนมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งหากทาง ร.ต.อ.ชาญชายยังติดใจ อาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกง” พล.ต.ต.เจริญ ระบุ

**นายกฯบอกคนโดนหลอกให้มาหา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ทางตำรวจมีการสอบสวนกันแล้ว และได้สั่งการไปแล้วให้เรียกคู่กรณีมาสอบสวน คืบหน้าอย่างไรก็จะแจ้งที่ตน ส่วน ร.ต.อ.ชาญชาย ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายนั้น อยากให้มาร้องเรียนกับตนที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ต้องเกรงกลัวใคร ส่วน สตช.ก็ไปหาตัวคนเรียกเงินมา ถ้าผิดจริง ตนไม่ปล่อยไว้อยู่แล้ว

“ร้อยตำรวจเอกอะไรนั่นมาเลย ไม่ต้องไปกลัวใครทั้งนั้น มาหาผมที่ทำเนียบฯ ผมจะจัดการให้
ตอนนี้สอบไปสอบมาไม่ใช่อีก มันอะไรกันนักหนาผมไม่เข้าใจ เจ้าตัวออกมาปฏิเสธอีก มันจะไปพูดส่งเดชไม่ได้ ถ้าไปพูดแล้ว บอกอยู่ดีๆไม่ได้พูด หรือพูดแล้วไม่เข้าใจ แล้ววันนี้เข้าใจแล้ว พูดอย่างนี้ไม่ได้ เป็นข้าราชการพูดกลับไปกลับมาไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

** “จักรทิพย์” โบ้ยไม่เกี่ยวซื้อตำแหน่ง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้มอบให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) ดำเนินการตรวจสอบ จริงๆการแต่งตั้งในระบบไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ถ้ามีจริงคนอื่นคงได้เป็นสารวัตรกันไปแล้ว ส่วนจะไปแอบทำกันเองหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตามกรณีนี้ต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว โดยต้องฟังความทั้งสองข้างว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากมีการซื้อขายจริงต้องมีการออกจากราชการหรือไม่นั้นก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ

** แย้มอาจผิดทั้งคนให้-คนรับ

ทางด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยได้รับรายงานจาก ผบก.น.2 แล้ว และได้สอบถามไปยัง ผกก.สน.บางซื่อ ถึงรายละเอียดคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก่อนมอบให้ผบก.น.2 เร่งดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีที่มีการว่าจ้างโดยหวังผลประโยชน์ในทางราชการนั้นจะต้องพิจารณาทั้งสองส่วน สำหรับกรณีของผู้ที่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ก็อาจเข้าข่ายความผิด ฐานเรียกรับหรือรับ ผลประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา มีอัตราโทษจำคุก 5 ปีปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนผู้ที่ว่าจ้างว่าจะขอซื้อตำแหน่งทางราชการนั้น เบื้องต้นมองว่าเข้าข่ายเป็นความผิดทางวินัย และอาจเข้าข่ายความผิดทางอาญาตามมาตรา 144 ฐานให้ เสนอให้ รับว่าจะให้ เพื่อจูงใจให้กระทำผิดโดยไม่ชอบ แต่ต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ว่า เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดดังกล่าวหรือไม่ อยากขอเวลาให้ทางตำรวจได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้มีคำตอบต่อสังคม และยุติข้อครหาต่างๆ

** สั่ง สน.บางรักตั้งกรรมการสอบ

ขณะที่ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ในฐานะรองโฆษก สตช.เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ผกก.สน.บางรัก ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ที่ถูกกล่าวหา ได้รายงานให้ตนทราบแล้วในเบื้องต้น ว่ามีข้าราชการตำรวจต้องคดีถูกกล่าวหา ตามระเบียบถ้าข้าราชการตำรวจในสังกัดของใครไปกระทำความผิดแล้วมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ก็จะต้องกลับมารายงานตัวต้องคดี เมื่อ สน.บางรักได้รับแจ้งแล้วก็ประมวลเรื่องแจ้งมาที่ บก.น.6 ในฐานะผู้บังคับบัญชา เราก็สั่งการให้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็ได้สั่งให้ สน.บางรัก ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้เวลาในการตรวจสอบนานแค่ไหน พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วสำนวนประกอบทางวินัยก็ต้องดูผลทางคดีอาญาด้วย ฉะนั้นจะต้องเดินคู่ขนานกัน ซึ่งทาง บก.น.6 จะตรวจสอบในเรื่องทางวินัยในฐานะที่เป็นต้นสังกัด ส่วนเรื่องทางคดีจะเป็น สน.บางซื่อ ซึ่งจะมีการกล่าวหากันอย่างไร ในรายละเอียดก็ต้องไปว่ากันที่นั่นในเนื้อสำนวนการสอบสวน ก็อาจจะใช้ระยะเวลา ด้วยเหตุผลว่าถ้าการสอบสวนยังไม่เสร็จจะมีการขอขยายระยะเวลาในการสอบสวน ซึ่งการสอบวินัยต้องรอผลทางคดี เมื่อมีการกล่าวหา มีการกระทำผิดจริงหรือไม่อย่างไร ก็คงใช้ระยะเวลาพอสมควร

เมื่อถามว่ามีการสั่งพักงาน ร.ต.อ.ชนินท์ธัช หรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ก็ต้องดูผลที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเสนอขึ้นมาก่อน อาจจะดูว่าควรจะให้ทำในหน้าที่ไหน และหากพบว่ามีความผิดจริง บทลงโทษก็ตามระเบียบที่มีอยู่แล้ว คือไล่ออก ปลดออก.
กำลังโหลดความคิดเห็น