นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำประชามติร่างรธน.ว่า ไม่อยากให้มอง แค่วันที่ 7 ส.ค. แต่อยากให้คนไทยมองไปเลยไปข้างหน้า เพราะท้ายที่สุด สิ่งที่เราต้องการคือให้ประเทศพ้นจากปัญหาเดิมๆ ซึ่งสิ่งที่เราควรทำคือ ป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ทั้งผู้ต้องการแสดงความเห็นต่อร่างรธน. และฝ่ายผู้มีอำนาจ ต่างก็ต้องประคับประคอง เพราะท้ายที่สุด สิ่งที่เราต้องการจากการทำประชามติคือ การเปิดพื้นที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วม แต่จนถึงวันนี้ก็ยังทำไม่ได้เต็มที่ ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิดต่อไปว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หลังวันที่ 7 ส.ค. ทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วมทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้อย่างไร ที่จะไม่กลับเข้าสู่วังวนเดิม ไม่ว่าร่างรธน. จะผ่านประชามติหรือไม่ก็ตาม ถ้าบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายอย่างนี้ ก็ไม่มีใครชนะ สุดท้ายทุกคนก็เดือดร้อนกันหมด
ดังนั้นใครที่ไปทำอะไรที่บิดเบือนร่างรธน. ซึ่งผิดกฎหมาย ตนขอว่า อย่าทำเลย ขณะเดียวกันทางผู้มีอำนาจก็ต้องตีความกฎหมายเพื่อให้ประชาชนได้แสดงออกเต็มที่อย่างสุจริต
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง การแสดงจุดยืนต่อร่างรธน.ว่า ตนบอกไปแล้วว่า สิ่งที่ต้องการมีอยู่ 2 ประเด็นคือ 1. ตนต้องการทราบว่า ถ้าร่างรธน.ไม่ผ่านแล้วจะดำเนินการต่ออย่างไร เพราะถ้าไม่รับแล้วได้สิ่งที่แย่กว่า ตนก็ต้องคิดหนักเหมือนกัน 2. ตนไม่ต้องการเห็นบรรยากาศความขัดแย้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังกังวลอยู่ เนื่องจากมีการพูดเรื่องร่างรธน.เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนขอยืนยันว่าท้ายที่สุดแล้วเราต้องคิดไปไกลกว่า วันที่ 7 ส.ค. ส่วนเรื่องการแสดงจุดยืนต่อร่างรธน.นั้น ตนไม่มีปัญหา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็ต้องแสดงจุดยืนอยู่แล้ว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย นัดหารือกับแกนนำพรรคการเมืองว่า ตนไม่ทราบ ต้องขอย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ 2-3 คน ที่ระบุว่าอยากจะคุยกัน ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ตนบอกว่า พอไปประกาศเช่นนั้น ก็จะเหมือนกับเป็นเวที ก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้น คนก็มองว่านักการเมืองต้องการต่อรองอะไรหรือไม่ สุดท้ายก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาจากหลายๆ ฝ่าย คสช.ก็จะเกิดความหวาดระแวง ก็ไม่มีประโยชน์ จริงๆ ตนก็อยากให้ คสช. เปิดพื้นที่ให้ด้วย
ดังนั้นใครที่ไปทำอะไรที่บิดเบือนร่างรธน. ซึ่งผิดกฎหมาย ตนขอว่า อย่าทำเลย ขณะเดียวกันทางผู้มีอำนาจก็ต้องตีความกฎหมายเพื่อให้ประชาชนได้แสดงออกเต็มที่อย่างสุจริต
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง การแสดงจุดยืนต่อร่างรธน.ว่า ตนบอกไปแล้วว่า สิ่งที่ต้องการมีอยู่ 2 ประเด็นคือ 1. ตนต้องการทราบว่า ถ้าร่างรธน.ไม่ผ่านแล้วจะดำเนินการต่ออย่างไร เพราะถ้าไม่รับแล้วได้สิ่งที่แย่กว่า ตนก็ต้องคิดหนักเหมือนกัน 2. ตนไม่ต้องการเห็นบรรยากาศความขัดแย้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังกังวลอยู่ เนื่องจากมีการพูดเรื่องร่างรธน.เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนขอยืนยันว่าท้ายที่สุดแล้วเราต้องคิดไปไกลกว่า วันที่ 7 ส.ค. ส่วนเรื่องการแสดงจุดยืนต่อร่างรธน.นั้น ตนไม่มีปัญหา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็ต้องแสดงจุดยืนอยู่แล้ว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย นัดหารือกับแกนนำพรรคการเมืองว่า ตนไม่ทราบ ต้องขอย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ 2-3 คน ที่ระบุว่าอยากจะคุยกัน ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ตนบอกว่า พอไปประกาศเช่นนั้น ก็จะเหมือนกับเป็นเวที ก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้น คนก็มองว่านักการเมืองต้องการต่อรองอะไรหรือไม่ สุดท้ายก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาจากหลายๆ ฝ่าย คสช.ก็จะเกิดความหวาดระแวง ก็ไม่มีประโยชน์ จริงๆ ตนก็อยากให้ คสช. เปิดพื้นที่ให้ด้วย
