xs
xsm
sm
md
lg

ยุคคนดังติดคุก หนีคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชูชีพ หาญสวัสดิ์
ปอ ประตูน้ำ
วาสนา เพิ่มลาภ
วิทยา เทียนทอง
ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

หนีคุกตามเจ้านายเงินไปอีกรายแล้ว คราวนี้เป็น “ขวัญชัย สาระคำ” ขาใหญ่อีสานแกนนำพวกเสื้อแดงในอุดรธานี แม้โดนศาลสั่งจำคุกเพียงแค่ 2 ปีก็ตาม ขวัญชัยมองว่าถูกจองจำช่วงสั้นก็จริง ชีวิตในตะรางไม่น่าอภิรมย์แน่ แถมยังจะต้องเสี่ยงตายจากการถูกลอบทำร้าย

เมื่อเผ่นหนี ก็ต้องเร้นกายให้พ้นจากแผ่นดินไทย ขวัญชัยไม่ใช่คนร่ำรวยถึง ขนาดจะได้ใช้ชีวิตสุขสบายเมืองนอกเหมือนเจ้านาย เมื่อคิดตกผลึกแล้วก็ขอวัดดวง ถ้ารอดคุกจนคดีหมดอายุความในอีก 15 ปี ได้กลับมาแบบอิสระชนยังไม่สาย ไม่ต้องอายหมาหรือคน

“ขวัญชัย” จัดอยู่ในกลุ่มขอสู้แล้วรวยรุ่นแรก ๆ เสี่ยงภัยมาสารพัด เคยถูกบุรุษนิรนามหวดด้วยไม้หน้าสามเข้าก้านคอช่วงนั่งเปิบข้าวต้มข้างถนนกับพวก แต่ดวงยังดีรอดตายมาได้ หลังจากยกพวกลุยผู้ชุมนุมที่หนองประจักษ์ สาเหตุของคดีอาญาจนต้องหนีคุก

ความเป็นขาใหญ่ เจ้านายไว้วางใจมาก ทำให้ “ขาใหญ่” สร้างบารมีจนกร่าง นอกจากไม่ยอมสยบต่อแกนนำเสื้อแดง ตัวเองยังได้รับการดูแลจากตำรวจแตงโมในอุดรธานี ถึงขั้นที่ว่าขวัญใหญ่สามารถกำหนดตำแหน่งให้นายตำรวจในจังหวัดได้แน่นอน

หลังจากกร่างไม่เลิก คราวนี้โดนถล่มโดนทีมมือยิงอาวุธสงคราม บาดเจ็บสาหัสขั้นปางตาย แต่ขวัญชัยดวงแข็งจริง หายจากรอยกระสุน เดินเขยกเล็กน้อย หลังจากนั้นต้องลดความซ่า ระวังตัวแจเพราะกลัวโดนถล่มซ้ำและยังโดนฟ้องในคดีอาญาร้ายแรง อีกเยอะ

ขวัญชัยจะไปอยู่ที่ไหน ถ้าจะหนีคุกต้องไปให้ตลอด การตัดสินใจหนีคงเป็นเพราะเห็นว่าเจ้านายและขาใหญ่รายอื่นๆ ก็เผ่นไปอยู่ต่างประเทศ ถือหนังสือเดินทางออกโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ หรือของชาติอื่นซึ่งใช้เงินซื้อได้ง่ายๆ

ถ้ายังอยู่ จะมีคดีอื่นๆ รออีกเพียบ โอกาสโดนขังคุกแทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันนั้นแน่นอน จะหวังได้เป็นรัฐมนตรีเมื่อพรรคเหลี่ยมชนะเลือกตั้งก็เป็นไปได้ยาก การเมืองภายไต้อำนาจทหารไม่มีใครรู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ อย่างน้อยคงกุมอำนาจยืดเยื้ออีกหลายปี

การหลบหนีคดี หนีคุกไปต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกของคนในเครือข่ายขบวนการเหลี่ยมเร่ร่อน ที่ผ่านมามีทั้งนักวิชาการ นักเลือกตั้ง นักเคลื่อนไหว นักต่อต้านสถาบันจ้องล้มเจ้า นักธุรกิจเผ่นไปอยู่เมืองนอก แต่หลายคนยอมติดคุกทั้งสั้น ยาว ออกมาแล้วก็มี

พวกหนีไปต่างประเทศย่อมต้องมีเครือข่ายคนช่วยเหลือ มีเงินทองพอสมควร จากนั้นคงหวังการช่วยเหลือเกื้อกูลจากเครือข่าย และพรรคพวกในเมืองไทยส่งเสียให้ นายใหญ่ยอมแบบภาระเจือจานแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครทำงานเสี่ยงคุกให้จนถึงวันนี้

ที่น่าสังเกตคือ พวกที่หนีคุกไปอยู่เมืองนอกเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ติดตามเอาตัวมาแน่นอน ที่ผ่านมายังไม่มีใครโดนไล่ล่าผ่านตำรวจสากลสักราย เช่นเสี่ยวัฒนา อดีตเจ้าพ่อกรรมกร เสี่ยประชา ของตระกูลทีวีสีช่อง 3 ตัวนายใหญ่ก็เร่ร่อนไปมาท้าทายหมายจับ

ล่าสุดนายใหญ่เร่มาพักที่สิงคโปร์ให้ลูกหลานไปแวะเยี่ยม เสี่ยวัฒนา เมืองสุขว่าจะขอไปเยี่ยมด้วย แน่นอน เมื่อมีบริวารแห่ไปพบ เป้าหมายภารกิจใหม่ๆ เพื่อเขย่ารัฐบาลคุณท่านและ คสช. ต้องต่อเนื่อง เน้นหนักการทำลายความน่าเชื่อถือ เจาะฐานให้กร่อน

คดีจำนำข้าวเสียหายหลายแสนล้านของคุณน้องแม่นางเห็ดบานงวดเข้าใกล้จุดจบ จะเสี่ยงอยู่หรือพยายามหาช่องทางไปเที่ยวต่างประเทศดูการแข่งกีฬาโอลิมปิคในบราซิลเดือนสิงหาคมปีนี้หรือไม่ ต้องรอดู แต่คงยากที่ศาลจะอนุมัติให้ไปก่อนอ่านคำพิพากษา

ไม่มีใครอยากติดคุก แต่เมื่อทำงานให้เจ้านาย สู้เพื่อรวย ก็ต้องเสี่ยงรับผลพวงที่จะตามมา เว้นแต่จะทำแล้วหาทางไปอยู่ต่างประเทศ ปีนี้คนดังๆ ติดคุกหลายรายแล้ว ตั้งแต่อดีต กกต. คณะ “สามหนาห้าห่วง” เสี่ยชูชีพ เสี่ยวิทยาน้องป๋าเหนาะ และเสี่ยปอ ประตูน้ำ

บางคนยอมมาศาลด้วยความเชื่อมั่นว่าจะหลุดคดี หรือศาลอาจเมตตารอลงอาญา หรือเชื่อด้วยผลของอะไรก็สุดแล้วแต่ เมื่อมาแล้วผลออกมาไม่เป็นไปตามคาด จะไปไหนก็ไม่ทัน กลุ่มคนดังๆ ส่วนใหญ่อายุเกิน 70 มีโรคประจำตัวรุมเร้าต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาล

คนในเครือข่ายของท่านเหลี่ยมเร่ร่อนยังรอคิวขึ้นศาลในคดีอาญาร้ายแรงอีกเยอะ แกนนำเสื้อแดงมีประสบการณ์ในคุกหลายเดือน ย่อมรู้ดีว่าชีวิตในคุกขาดอิสรภาพนั้นแตกต่างจากการนั่งเฮฮาสังสรรค์ดื่มไวน์วางแผนกลับมากุมอำนาจรัฐรอบใหม่อย่างไร

ดังนั้นการเดินเกมเขย่าฐานอำนาจและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลคุณท่านและ คสช. จึงเป็นภารกิจร่วมสำคัญ ถ้าสำเร็จโอกาสจะรอดพ้นคุกด้วยกฎหมายนิรโทษกรรมก็พอมีอยู่ ยังดีกว่านั่งใจสั่นมองเห็นตัวเองอยู่ในคุกนานหลายปีไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน

“ประชาธิปไตย” จึงเป็นข้ออ้างของการดิ้นรนเคลื่อนไหว ทั้งในรูปแบบเสี่ยงเปิดเผยและแฝงความเนียน หรือดันทุรังไปแบบด้านๆ เพื่อหนีคุก “ขวัญชัย” ยังมีข้ออ้างอย่างฮาฝากบอกผ่านเมียรักว่า “จะกลับมารับโทษจำคุกหลังจากบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว”

เอาอย่างคำอ้างของคณะลูกศิษย์ท่านขาดำโยเยนะจ๊ะ ไม่มอบตัวซุกตัวหลบภายไต้การอารักขาของสาวกในสำนักธรรมกาย รู้ดีว่าถ้าโดนจับถูกจับสึกผ้าเหลืองหลุดแน่ จึงต้องใช้ทุกวิธียื้อกับกระบวนการยุติธรรม จนชาวบ้านเริ่มสงสัยว่าตัวชิตังเมนะจ๊ะยังอยู่หรือไม่

นี่ก็เป็นอีกรายซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าไม่มีวันยอมมอบตัวเป็นจำเลยในศาลคดีฟอกเงิน รับของโจร จึงไม่สนใจหมายเรียก หมายจับ หมายค้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังวางแผนเข้าไปค้นอีกรอบ ทั้งไล่ฟ้องสาวกระดับแนวหน้าในคดีหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานให้มีคดีติดตัว

น่าสนใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ไล่ล่าจับกุมตัวพวกหนีคุก หนีหมายจับ ปล่อยให้ไปอาละวาดอยู่ต่างประเทศทำลายชื่อเสียงบ้านเกิดของตัวเอง และต้องรอดูว่าคดีดังๆ เริ่มกระชับเขม็งเกลียวเข้ามา คนดังๆ แกนนำตัวเป้งจะเลือกเสี่ยงอยู่สู้ หรือหนีไปเมืองนอก

การไม่ยอมทำอะไร ปล่อยให้คนหนีคุกไม่จับกุมตัว ส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง ถูกมองว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นกัน ถ้าไม่สนใจกฎหมายเหมือนพวกหนีคุก ก็สุดแล้วแต่เวรกรรม ชะตากรรม อนาคตของบ้านเมืองก็แล้วกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น