ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าคณะตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา บุกจับสามเณรเร่ร่อนกางเต็นท์นอนกลางป่า อ้างอยู่วัดไม่ได้มันร้อน โต้เถียงเจ้าคณะตำบลไม่ยอมสึก สุดท้ายต้องผลักดันกลับภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (11 ก.ย.) พระครูประโชติ กิจโกศล เจ้าคณะตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมตำรวจ สภ.สะเดา และชาวบ้าน ได้เข้าตรวจสอบบริเวณป่า ริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีพระธุดงค์มากางเต็นท์พักอยู่โดยไม่จำวัด แม้จะอยู่ในช่วงเข้าพรรษา และอยู่มานานร่วมเดือน
โดยพบพระทราบชื่อภายหลังคือ สามเณรไพศาล บุญล่ำ อายุ 34 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 230 ม.2 ต.สระแก้ว อ.สามพัน จ.เพชรบูรณ์ กางเต็นท์ทำเป็นที่พักชั่วคราวอยู่ในป่าพร้อมเครื่องยังชีพทั้งอาหาร และน้ำ รวมทั้งเครื่องใช้ส่วนตัว แต่ไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นพระสงฆ์ มีเพียงใบแจ้งความสุทธิบัตรการบวชหายเมื่อปี 54 และปี 56 รวม 2 ใบ ทางเจ้าคณะตำบลปริก พร้อมตำรวจจึงได้นำตัวไปยังวัดศรีวิเทศ เพื่อทำการสึกเนื่องจากทำผิดระเบียบคณะสงฆ์เพราะไม่อยู่เป็นหลักแหล่งโดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา พร้อมกับรื้อถอนเต็นท์ที่พัก
แต่ปรากฏว่า สามเณรไพศาล ไม่ยอมสึก บอกว่าไม่ได้ทำผิดเหตุที่อยู่วัดไม่ได้เพราะอยู่วัดแล้วร้อน จนเกิดการโต้เถียงกันระหว่างเจ้าคณะตำบลปริก ที่พยายามจับสึก ขณะที่พระวัดศรีวิเทศ ก็พยายามชี้แจงทำความเข้าใจแก่ สามเณรไพศาล ว่า ทำผิดระเบียบสงฆ์แต่ก็ไม่ยอมฟัง สุดท้ายเมื่อจับสึกไม่ได้จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ผลักดันกลับภูมิลำเนาไม่ให้เข้ามาเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา อีก