xs
xsm
sm
md
lg

เตือนแชร์คลิปไม่รับร่างรธน.ผิดแน่ กกต.ย้ำต้องคงม.61วรรค2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (9มิ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปเพลงที่มีเนื้อหาหยาบคาย จูงใจให้คนไปใช้สิทธิออกเสียงรับ ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญนั้น ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะทำงานของ กกต.แล้ว พบว่า คลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่ครั้งแรกทางเว็บไซต์ ยูทูป เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 59 ก่อนพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 มีผลใช้บังคับ ในวันที่ 23 เม.ย. จึงถือว่า ผู้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญา กฎหมายความมั่นคง และ ประกาศคสช. นอกจากนี้แนะนำว่า ผู้ที่จะนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ซ้ำในระหว่างนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะจะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายประชามติ มาตรา 61 วรรค สอง
ส่วนการตรวจสอบตัวบุคคลที่อยู่ในคลิป พบว่ามีลักษณะคล้ายกับบุคคลที่เป็นที่รู้จักในทางสังคม 1. นายอานนท์ นำภา ทนายความ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ นายณัฐภัทร อัคฮาด นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเรียน ส่วนตัวอยากแนะนำให้บุคคลเหล่านี้ และบุคคลอื่นที่อยู่ในภาพ คลิปอีก 20 คน หากไม่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ซ้ำคลิปดังกล่าว ขอให้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม กกต.จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะชัดเจน ว่าเข้าข่ายเป็นความผิด ที่จะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้ นายสมชัย กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างว่า การประชามติครั้งนี้ จำเป็นที่จะต้องมี มาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประชามติไว้ในบังคับ เนื่องจากมีบุคคลออกมาเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ปลุกปั่น ซึ่งสังคมไทยไม่ปรารถนาให้ความวุ่นวายเกิดขึ้น มาตราดังกล่าว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคงไว้ใน พ.ร.บ.นี้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณา
อย่างไรก็ตาม หากศาลรธน.วินิจฉัยว่า มาตราดังกล่าวขัดรธน. ก็ยังมีมาตราอื่นใน พ.ร.บ.ประชามติ เช่นการกล่าวเท็จ ก็มีมาตรา 61 (3) ที่ห้ามหลอกลวง ใช้ควบคุมอยู่ หรือการพูดหยาบคาย ก็มีกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ควบดูแลอยู่ แต่ทั้งนี้ จะไม่ครอบคลุมในเรื่องที่สามารถเอาผิดว่า เป็นการก่อความวุ่นวายได้ เหมือนกับ มาตรา 61 วรรค สอง พ.ร.บ.ประชามติ และ กกต.ก็ต้องไปยกร่างกฎหมาย และแก้ไขระเบียบ กกต. ให้สอดคล้องต่อไป
ด้าน นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.กล่าวว่า ไม่ว่าผลการพิจารณาของศาลรธน. เรื่อง มาตรา 61 วรรค 2 จะออกมาอย่างไร ก็ยังลงประชามติได้เหมือนเดิม และไม่มีการเลื่อนออกไป เพียงแต่ว่าเราก็ไม่ได้ใช้มาตรานี้ ส่วนกระบวนการต่างๆก็เดินไป
เมื่อถามว่า หากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นในช่วงการใช้เสียงประชามติ จะทำอย่างไร ประธาน กกต. กล่าวว่า เขาก็เกรงว่าจะเกิดความรุนแรงและความขัดแย้ง และเกิดการปะทะ ซึ่งหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น การเลื่อนวันลงประชามติ ไม่ใช่อำนาจของ กกต. แต่จะเป็นไปตามรธน.ชั่วคราวปี 57 และไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรธน.จะออกมาเป็นอย่างไร การออกเสียงประชามติ ก็ไม่กระทบ หากเขาบอกว่าหยาบคายได้ คุณก็ไปว่ากันเอง ส่วนเรื่องความไม่สงบ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง
ส่วนกรณีที่ กลุ่ม นปช. ขอให้กกต. ยุติการพิมพ์ร่างรธน. และยุติการอบรมครู ก. ครู ข.นั้น นายศุภชัย กล่าวว่า จะต้องให้ศาลรธน.มีคำสั่งออกมาก่อน หากเรายุติไป อาจจะดำเนินการไม่ทันวันออกเสียงประชามติ ส่วนที่มีการวิจารณ์ถึงเนื้อหาเพลงรณรงค์ประชามติ ว่า เป็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายนั้น จุดประสงค์ของเพลงดังกล่าว คือ การเชิญชวนคนออกมาใข้สิทธิ ไม่มีเจตนาจะแบ่งแยก ชี้นำ และตนมองว่าเป็นการจ้องจับผิดของคนบางกลุ่มมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น