โปรเจ็กต์"ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน"เนื้อหอม เอกชนไทย-ญี่ปุ่น สนร่วมลงทุน สนข.เตรียมสรุปผลศึกษา แผนแม่บทหลัก ในก.ค. ชงคมนาคม เสนอคจร.ก.ย.นี้ ตั้งเป้าเปิดแปลงAและD พัฒนาก่อน เร่งเปิดSky Walk เชื่อมสถานีกลางบางซื่อ -BTS (หมอชิต) - MRT ( จตุจักร) ปี62 ส่วน BRT คาดเปิดได้ปี 65 ผอ.สนข.เผยระยะเช่ายาวจูงใจนักลงทุน
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธินในพื้นที่ 2,325 ไร่ และต้นแบบการพัฒนาพื้นที่โดยรอบศูนย์กลางคมนาคม ซึ่งจะสรุปร่างผลการศึกษาความเหมาะสม ผลการวิเคราะห์ด้านจราจร การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ รูปแบบการลงทุนทผลตอบแทนต่างๆ เป็นกรอบแผนแม่บทได้ในเดือนก.ค.นี้ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบในเดือนก.ย. นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดยเบื้องต้น แบ่งพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ออกเป็น 4 แปลง โดยแปลงA มีพื้นที่ 35 ไร่, แปลง B พื้นที่ 78 ไร่ , แปลง C พื้นที่ 105 ไร่ ,แปลง D พื้นที่ 87.5 ไร่ ซี่งจากการจัดสัมมนา Market Sounding มีภาคเอกชนไทยและต่างประเทศให้ความสนใจร่วมลงทุนพัฒนา เช่น กลุ่มเซ็นทรัลฯ รวมถึง เอกชนญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในและรอบสถานีรถไฟ (TOD) โดยคาดว่ามูลค่าลงทุนของแต่ละแปลงจะไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นเจ้าของพื้นที่ จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน โดยระยะเวลาในการเช่าพัฒนาพื้นที่จะต้องพิจารณาความเหมาะสมและแรงจูงใจ เพราะหากสั้นไปเอกชนอาจมองว่าไม่คุ้มค่าได้
ทั้งนี้ สนข.จะต้องศึกษาเพื่อจัดสรรการพัฒนาพื้นที่แต่ละแปลง ซึ่งจะมีทั้ง ที่อยู่อาศัย โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ให้เหมาะสม ภายใต้แนวคิดการพัฒนา “ศูนย์กลางมหานครแห่งใหม่ระดับ ASEAN” เพื่อส่งเสริมให้สถานีขนส่งมวลชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ส่งเสริมการเดินทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ (Non - Motorized Transport) และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งการพัฒนาระบบคมนาคมการเดินทางต่างๆ จะต้องทำควบคู่กับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อทำให้พื้นที่มีศักยภาพสูงสุด ซึ่งศูนย์พหลโยธิน ถือเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ของกทม.และเป็นศูนย์กลางระบบขนส่ง มีสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะมีรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสีน้ำเงินวิ่งเข้ามา
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธินในพื้นที่ 2,325 ไร่ และต้นแบบการพัฒนาพื้นที่โดยรอบศูนย์กลางคมนาคม ซึ่งจะสรุปร่างผลการศึกษาความเหมาะสม ผลการวิเคราะห์ด้านจราจร การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ รูปแบบการลงทุนทผลตอบแทนต่างๆ เป็นกรอบแผนแม่บทได้ในเดือนก.ค.นี้ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบในเดือนก.ย. นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดยเบื้องต้น แบ่งพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ออกเป็น 4 แปลง โดยแปลงA มีพื้นที่ 35 ไร่, แปลง B พื้นที่ 78 ไร่ , แปลง C พื้นที่ 105 ไร่ ,แปลง D พื้นที่ 87.5 ไร่ ซี่งจากการจัดสัมมนา Market Sounding มีภาคเอกชนไทยและต่างประเทศให้ความสนใจร่วมลงทุนพัฒนา เช่น กลุ่มเซ็นทรัลฯ รวมถึง เอกชนญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในและรอบสถานีรถไฟ (TOD) โดยคาดว่ามูลค่าลงทุนของแต่ละแปลงจะไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นเจ้าของพื้นที่ จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน โดยระยะเวลาในการเช่าพัฒนาพื้นที่จะต้องพิจารณาความเหมาะสมและแรงจูงใจ เพราะหากสั้นไปเอกชนอาจมองว่าไม่คุ้มค่าได้
ทั้งนี้ สนข.จะต้องศึกษาเพื่อจัดสรรการพัฒนาพื้นที่แต่ละแปลง ซึ่งจะมีทั้ง ที่อยู่อาศัย โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ให้เหมาะสม ภายใต้แนวคิดการพัฒนา “ศูนย์กลางมหานครแห่งใหม่ระดับ ASEAN” เพื่อส่งเสริมให้สถานีขนส่งมวลชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ส่งเสริมการเดินทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ (Non - Motorized Transport) และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งการพัฒนาระบบคมนาคมการเดินทางต่างๆ จะต้องทำควบคู่กับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อทำให้พื้นที่มีศักยภาพสูงสุด ซึ่งศูนย์พหลโยธิน ถือเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ของกทม.และเป็นศูนย์กลางระบบขนส่ง มีสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะมีรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสีน้ำเงินวิ่งเข้ามา