xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ย้ายตำรวจอัปยศ- อดสู สิ้นหวัง ท้อแท้ “อลงกรณ์ – นวย ทน(ไม่)ได้” แล้วไง !!??

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -“เมื่อวานมีประชุมสภาฯ เรื่องนี้ถูกกล่าวขวัญกันมากจนผมแทบแทรกแผ่นดินหนี....ไม่อายนะ แต่มันเกินอายไปแล้ว อดสู สิ้นหวัง ท้อแท้...”เป็นประโยคที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตนายตำรวจคนดังเขียนไว้ในวันเดียวกับที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงยอมรับความผิดพลาดกรณีออกคำสั่ง “มั่ว” (ย้าย ตร.ระดับนายพัน) โดยสรุปว่า จำนวนคำสั่ง 25 คำสั่งนั้น มีผู้รับการแต่งตั้ง 7,849 ราย เกิดความผิดพลาด 488 ราย คิดเป็น 6.12 %

ประเด็นแถลงของ ผบ.ตร.ถ้าว่ากันตามตรงไม่มีอะไรน่าสนใจเลย เพราะความผิด-เพี้ยน ทั้งหมดถูกตรวจพบ และกระจายข่าวกันเป็นระยะๆ อยู่แล้ว หากแต่ว่า “เบื้องลึก” หรือความไม่ชอบมาพากลที่แฝงอยู่แต่ละคำสั่ง เช่น เหตุใดจึงมีชื่อซ้ำ เหตุใดคำสั่งแรกออกมาอย่าง คำสั่งที่สอง หรือบางรายเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนถึงคำสั่งที่สาม ท่านผบ.ตร.มีความจำเป็นใด มีเหตุผลอะไรมาแจ้งต่อสาธารณะ หรือไม่ !!??
        
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอดีตนายตำรวจคนดังไม่กล่าวถึงชะตากรรมเจ้าของรางวัล “นครสวรรค์โมเดล” สังคมไทยก็อาจไม่เห็นภาพความเลวร้ายของคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจครั้งล่าสุดนี้

ตอนหนึ่งของบทความที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เขียนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า....เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาการปฏิรูปประเทศไทย พร้อมคณะเดินทางไปดูงานบริการประชาชนที่ สภ.อ.เมืองจังหวัดนครสวรรค์ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นโรงพักดีเด่น ถือเป็น “นครสวรรค์โมเดล” เป็นแบบอย่างของสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อนำมาปรับกับแผนปฏิรูปตำรวจที่กำลังทำกันอยู่

ผกก.กล่าวรายงานว่า ในปีนี้นอกจากได้รางวัลโรงพักดีเด่นจาก สตช.แล้วยังได้รางวัลป้องกันและปราบปรามดีเด่น งานจราจรดีเด่น เรียกว่าครบเครื่องทุกอย่าง แต่ในตอนท้ายของการบรรยายสรุปสร้างความตื่นตะลึงให้กับคณะ สปท.เมื่อ ผกก.ระบุว่า ลูกน้องที่ร่วมหัวจมท้ายถูกย้ายหมดเรียบทั้งโรงพัก แถมไปอยู่สถานีเกรดต่ำกว่า เช่น สภ.น้ำหนาว สภ.พบพระ.....” ผกก.ตาแดงก่ำ พูดว่า ผมเสียใจที่ดูแลน้องๆ รอง ผกก. และสารวัตร ที่ร่วมทำงานกันไม่ได้” จนต้องมีคนช่วยพูดตัดบทเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด ส่วนนายอลงกรณ์ ถามด้วยความประหลาดใจว่า....เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นเช่นนี้ ไม่ทำร้ายจิตใจกันหรือ !!??
        
  กลับจากนครสวรรค์ เปลี่ยนใจจะไปเยี่ยมโรงพักดีเด่นอื่นๆ เช่น สน.บางขุนนนท์ หรือ สภ.อ.เมืองนนทบุรี แต่ปรากฏว่า อยู่ในชะตากรรมเดียวกัน คือนายตำรวจที่เกี่ยวข้องถูกโยกย้ายทั้งสิ้น

ข้อเขียนของ “นวยทน(ไม่)ได้ ยังมีอะไรมากกว่านี้ และเชื่อว่าถูกส่งไปยังข้าราชการระดับต่างๆอย่างทั่วถึงแล้ว...ปัญหาที่เห็นกันอยู่มีคำตอบแล้วว่า แท้จริงแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิได้มีหลักเกณฑ์อะไรเป็นมาตรฐานเลย
              
   เป็นการแต่งตั้งรวมศูนย์ที่น่าอดสูครั้งแรก และครั้งเดียวตั้งแต่กรมตำรวจ เปลี่ยนแปลงมาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ !!??

ขนาดโรงพักดีเด่น ที่ได้รับรางวัลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เองแท้ๆ ยังต้องประสบชะตากรรม แบบนี้คงไม่ต้องร้องแร่แห่กระเฌอไปที่ไหน เพราะต้นสายปลายเหตุมันอยู่ที่อารมณ์ของผู้มีอำนาจ

ต่อไปนี้สังคมตำรวจคงต้องวิ่งเข้าหา-กราบกรานผู้มีอำนาจกันมากขึ้น มโนสำนึกเรื่องการพิทักษ์รับใช้ประชาชน แค่ยกขึ้นมาเป็นฉากให้ดูดี หรือใช้เรียกคะแนนเสียง แต่เนื้อแท้คือ พวกกู คนของกู และพวกเอาตัวรอด ใครไม่ใช่ เส้นไม่ถึง ก็เป็นอย่างที่เห็นคือ ถูกเตะ ถูกย้ายจนไม่รู้อนาคตของตัวเอง ไม่ทราบแม้แต่จะย้ายที่เรียนของลูกๆ
           
สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบตัวจริงเสียงจริงก็คือ ประชาชน

เบื้องหลัง เบื้องลึกของโรงพัก “นครสวรรรค์โมเดล” คนที่ทราบเรื่องดี และเศร้าใจอยู่ในขณะนี้ก็คือ พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ อดีต รอง ผบ.ตร. และประธาน ป.ป.ช. ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในฐานะลูกน้องเก่าเชิญให้มาเป็นที่ปรึกษา 
          
    พล.ต.อ.วุฒิชัย ชื่นชมผลงาน สภ.อ.เมืองนครสวรรค์ มากที่สุด เดินทางขึ้นลงหลายครั้งเพื่อสนับสนุนให้ สตช.นำความสำเร็จไปเป็นแบบอย่าง แต่ปัญหาที่หลายๆ โรงพักอาจทำกันไม่ได้นั่นก็คือ มีตำรวจบางนายของโรงพักนี้ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างดี จึงนำเงินส่วนตัวจำนวนหลายล้านบาท มาสนับสนุน

แต่ผลของความทุ่มเท เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ คำสั่งแต่งตั้ง-โยกย้ายล่าสุดที่ให้ไปรับตำแหน่งด้อยกว่าเก่า ท่าน ผบ.ตร.จะพอมีคำตอบได้ไหมว่า ย้ายพวกเขาด้วยความผิดอะไร 
         
    เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไปจะมีใครหน้าไหนกล้าคิดกล้าทำ กล้าเสียสละ

อย่ามาโลกสวยบอกว่าเป็นตำรวจย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ได้...เหตุผลเพราะคนทำดีแม้เขาไม่ต้องการสิ่งตอบแทนแต่ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะมีอำนาจใดมาบีบคั้นท่านต้องทำตัวเป็นทำนบกั้นน้ำเชี่ยว...บ่ามามาก ก็ป้องเอาไว้...ทานไม่ไหวค่อยปล่อยล้นออกมา....ความเสียหายที่เกิดขึ้นในเวลานี้เกินกว่าจะประเมินค่าเป็นเงินทองได้ เพราะ “ขวัญ -กำลังใจ” ที่ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นนั้น มันเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้

ตำรวจหมดไฟทำงาน ตำรวจเข้าเกียร์ว่าง ขณะเดียวกัน “เหลือบ”ฝูงใหม่บางตัวที่ไม่เคยมีอำนาจ ไม่เคยอยู่ในหน่วยงานที่มีผลประโยชน์ถ้าควบคุมไม่ดี ดูแลไม่ทั่วถึงจะกลายเป็นความวิบัติซ้ำให้สังคมระส่ำระสายถึงขั้นลุกเป็นไฟ

อย่างไรก็ตาม บนซากปรักหักพัง รวมถึงความล้มเหลวขององค์กรสีกากี โอกาสหนึ่งทีมองเห็นก็คือสังคมโดยรวมเริ่มเห็นพ้องตรงกันแล้วว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในยุคที่กำกับดูแลโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กำลังเละเทะ ป่วยไข้ถึงขนาดเป็นมะเร็งร้ายกำลังลุกลามอย่างน่ากลัว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ในฐานะรองประธานสภาการปฏิรูปประเทศไทย โปรดกรุณาอย่าปล่อยสิ่งที่ท่านได้รู้ ได้พบเห็น ได้สัมผัส ให้ผ่านไปเฉยๆ โดยไม่จำเป็นให้สังคมตำรวจต้องย่อยยับไปต่อหน้าแล้วจึงฟื้นฟูด้วยการปฏิรูปในภายหลัง...เพราะความคิดเช่นนั้น อาจส่งผลให้ไม่สามารถปฏิรูปซากแห่งความยับเยินได้เลย

พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตนายตำรวจคนดัง ซึ่งมีโอกาสกลับมาทำหน้าที่ปฏิรูปตำรวจ ขอจงเข้มแข็งเดินหน้าเพื่อความถูกต้องสมกับคำพูดของท่านในที่สาธารณะว่า ท่านรักตำรวจ ท่านต้องการปฏิรูปตำรวจให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน...อย่ายอมรับความไม่ถูกต้องด้วยความเกรงอกเกรงใจ !!??

แม้แต่พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ นายตำรวจใหญ่บุคคลที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และใครอีกหลายคนให้ความเคารพนับถือ

ท่านควรทบทวนบทบาทตัวเองหรือไม่.... อย่าปล่อยให้มีการใช้อำนาจตามอำเภอใจ “ต้มยำทำแกง” สร้างความเสื่อม ความสามัคคี ให้กับสถาบันที่ท่านเคยศรัทธามาครึ่งค่อนชีวิต...หากไม่สามารถให้คำปรึกษา หรือแนะนำอะไรได้ก็ถอยออกมา...ไม่จำเป็นต้องไปรับรู้...เศร้าใจ...หรือร่วมสังฆกรรมอะไรด้วย เรื่องส่วนตัว “ใจต่อใจ” ระหว่างลูกน้องเจ้านายยังรักกัน แต่ “จุดยืน” ระหว่าง “บุคคล” กับ “สถาบัน”ท่านจำเป็นต้องเลือกข้าง

บุคคลสำคัญซึ่งถือว่าเป็น “ยอดสุด” ของการตัดสินใจทั้งหมดที่สังคมจับตาดูการเคลื่อนไหว(มานานแล้ว)ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 
    
         เสียงร้องระงม โหยหวนของตำรวจที่ถูกความอยุติธรรม ข่มเหงรังแกอยู่นี้ ท่านไม่ได้ยินบ้างดอกหรือ !!??



กำลังโหลดความคิดเห็น