เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่สุดแปลกแหวกแนว ฉีกทุกคาเฟ่ที่เคยมีมาก่อนเลยทีเดียว สำหรับ “Little Zoo Cafe” เพราะที่แห่งนี้ได้รวบรวมเหล่าสัตว์นานาชนิดกว่า 19 ชีวิต ไว้ต้อนรับสาวกคนรักสัตว์ให้ได้มาสัมผัสกับความน่ารัก รวมถึงเป็นแหล่งให้ข้อมูลแก่ผู้ที่อยากเลี้ยงสัตว์แปลกไว้เป็นตัวช่วยดีๆ ก่อนการตัดสินใจ
FEEL GOOD จึงไม่พลาดที่จะเปิดมุมมองความชื่นชอบสัตว์แปลกของสาวหน้าหวานยิ้มมีเสน่ห์ “เบียร์-วชิราภรณ์ อร่ามพิบูลย์ผล” เจ้าของร้านคาเฟ่สัตว์แปลกแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย . .
“ต้องบอกก่อนว่าครอบครัวเบียร์เป็นคนไม่ชอบสัตว์ใดๆ เลย สักชนิดหนึ่ง” ฟังดูแล้วไม่อยากเชื่อว่าเธอเติบโตมากับครอบครัวที่ไม่สนับสนุนให้เธอเลี้ยงสัตว์ ประโยคที่เธอเอ่ยมาได้ลบความคิดที่ว่าเธอต้องโตมากับครอบครัวที่รักสัตว์แน่ๆ ที่เราเข้าใจก่อนหน้านั้นไปเสียหมด
“เวลาเราเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ที่บ้านยกให้คนอื่นหมดเลย แต่พอเป็นสัตว์แปลกๆ มาเขาให้ใครไม่ได้ ตัวอะไรก็ไม่รู้ เลี้ยงยังไงก็ไม่รู้ มันจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ที่บ้านเราเปิดใจเข้าหาสัตว์มากขึ้น”
นับว่าเป็นการเปิดใจแบบไม่ค่อยเต็มใจซะเท่าไหร่ แต่ถือเป็นสัญญาณดีๆ จากครอบครัวที่อนุมัติให้เธอเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยความสบายใจ ระหว่างที่บทสนทนาดำเนินไปนั้น เราเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าทำไมเธอถึงชอบเลี้ยงสัตว์แปลก ซึ่งดูแล้วน่าจะขัดกับบุคลิกภาพของเธอที่ดูเป็นสาวอ่อนหวานซะเหลือเกิน
“มันน่ารักนะ เบียร์เป็นคนไม่ชอบอะไรเหมือนใครอยู่แล้ว (หัวเราะ) พอได้เลี้ยงเหมือนเป็นคนชอบเอาชนะ มันมีการเรียนรู้ทุกวัน ต้องทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของเขา เหมือนเล่นเกม อินพุดเข้าไปแบบนี้แล้วเขาจะตอบสนองเราออกมาแบบไหน มันมีความสนุกในการเลี้ยงอีกแบบหนึ่ง”
สำหรับสัตว์แปลกชนิดแรกของสาวหน้าหวานคนนี้ เริ่มต้นมาจากการเลี้ยงชูการ์ไกเดอร์ ซึ่งถือเป็นสัตว์ชนิดแรกๆ ที่คนชอบสัตว์แปลกนิยมเลี้ยงกัน ทว่าจิตใจที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
“สัตว์แปลกชนิดแรกที่ชอบคือชูการ์ไกเดอร์ค่ะเป็นชนิดแรกที่เลี้ยง จากนั้นก็ขยายมาเป็นชินชิล่า จนมาเปิดเป็นฟาร์มชินชิล่า ค่อยๆ ขยายไปก็ได้ฟ๊อกมา ได้เมียร์แคตมา กลายเป็นแนวสัตว์แปลกไปเลย”
ด้วยความชอบเลี้ยงสัตว์ของเธอที่มีมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอคลุกคลีและเรียนรู้ลักษณะนิสัยต่างๆ ของสัตว์พวกนี้มาเป็นเวลานาน เธอได้นำความชอบมาต่อยอดเปิดร้านคาเฟ่น่ารักๆ ที่รวบรวมสัตว์แปลกไว้ให้อยู่ในที่เดียวกัน “Little Zoo Cafe” โดยมีความตั้งใจไว้ว่าอยากให้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจมาศึกษาก่อนเลี้ยงนั่นเอง
“คาเฟ่นี้มันเริ่มมาจากปัญหาเรื่องคนเลี้ยงมากกว่า เบียร์อยากให้เป็นจุดที่มาเจอกัน คล้าย เวิร์คชอปเล็กๆ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ก่อนการเลี้ยง ส่วนมากคนไทยเวลาจะตัดสินใจซื้อสัตว์สักตัวหนึ่งชอบมองแต่ข้อดี น่ารักจังเลย สวยจังเลย น่าจะเลี้ยงไม่ยาก
แต่ไม่ได้มาศึกษาจริงๆ ว่าข้อเสียมีอะไรบ้าง กินเยอะแค่ไหน โตไปพฤติกรรมเป็นยังไง เราเลยมาทำให้รู้ไปเลยเป็นการบอกก่อนล่วงหน้าว่าจะเจออะไร ต้องเตรียมยังไง คนเลี้ยงก็มีความสุขเวลาเลี้ยง พอคนเลี้ยงแฮปปี้ สัตว์ก็จะแฮปปี้ด้วย”
เรียกได้ว่าชีวิตของเธอนั้นผูกพันกับสัตว์เหล่านี้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันไปแล้ว มันเป็นความสุขที่เหล่าคนรักสัตว์ย่อมเข้าใจกันดี อย่างที่เคยได้ยินมาว่าการเลี้ยงสัตว์มักทำให้จิตใจของเราอ่อนโยน นี่คือสิ่งที่เธอเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
“จริงมาก เบียร์เคยมีปัญหาโลกแตก อกหัก รักคุด ตกงานพร้อมกันในเวลาเดียว ตอนนั้นพอดีมีลูกจิ้งจอกเกิดใหม่ เราต้องใช้เวลาอยู่กับเขาค่อนข้างเยอะ บางครั้งมันทำให้เราลืมอะไรหลายๆ อย่างไป ลืมปัญหาไป ใช้เวลาอยู่กับสัตว์
เขาเองก็มีแค่เรา เราก็มีแค่เขา มันช่วยให้เรารู้สึกว่าบนโลกนี้มันยังมีใครคนหนึ่งที่เขายังรอเราอยู่ เขารู้สึกว่าเรามีค่านะ ต่อให้โลกนี้ไม่มีใครสนใจเรา แต่เรามีค่าสำหรับเขา มันเป็นความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่คนเลี้ยงสัตว์เข้ามาสัมผัสจะรู้ว่ามันเป็นยังไง”
ทิ้งท้ายกันด้วยข้อคิดดีๆ สำหรับคนที่อยากเลี้ยงสัตว์ อย่างที่เธอมักบอกกับหลายๆ คนที่มีความต้องการอยากหาสัตว์สักตัวมาเลี้ยงเสมอว่า ควรดูที่ความพร้อมของตัวเองก่อนอันดับแรก ต่อมาคือเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลชีวิตสัตว์เลี้ยง ซึ่งต้องตอบคำถามให้ได้ว่าคุณพร้อมหรือยังที่จะรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิต
“อย่างแรก เบียร์อยากให้นึกถึงความพร้อม ส่วนมากคนจะเข้ามาถามราคา แต่จะไม่ถามว่าเลี้ยงยังไง เลี้ยงยากไหม ต้องใช้พื้นที่ประมาณไหน คนเรียนอยู่ยิ่งต้องคิดหนักเลย ถ้าต้องไปทำงาน คุณเอาเขาไปได้ด้วยไหม คนที่บ้านสามารถซับพอร์ตได้ไหมในวันที่เราไม่พร้อม ก่อนการเลี้ยงต้องมองหลายๆ อย่าง
เรื่องเงินคือปัจจัยต่อมา วันหนึ่งถ้าเขาไม่สบายเราไหวไหม ค่าเงินรักษา ค่าอาหาร คือเลี้ยงสัตว์เบียร์ขอใช้คำว่าภาระแล้วกัน คือเราพร้อมไหมกับภาระที่จะต้องรับผิดชอบ เอาไปเลี้ยงแล้วอยากให้แฮปปี้ด้วยกันดีกว่า คุณไม่พร้อมสัตว์มันก็ไม่แฮปปี้เหมือนกัน”
ด้วยความที่เธอเป็นกูรูด้านการเลี้ยงสัตว์แบบ 'Exotic' หรือที่เรียกว่าสัตว์แปลก เราจึงอดไม่ได้ที่จะให้เธอเล่าถึงลักษณะนิสัยของสัตว์แปลกที่เธอเลี้ยงไว้ให้ฟังคร่าวๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการตัดสินใจแก่ผู้ที่อยากเลี้ยง มาดูกันว่าสัตว์แต่ละชนิดมีจุดเด่นในเรื่องอะไรบ้าง รวมถึงเรื่องราคาที่ต้องบอกเลยว่า ”ไม่เบา” เลยทีเดียว แรคคูน : จุดเด่นคือความฉลาดและความซน สองมือสองเท้ารื้อทุกอย่าง เป็นสัตว์ค่อนข้างควบคุมยากแต่ก็แลกด้วยความน่ารักของเขา ทำอะไรมันก็น่ารักไปหมดเลย แต่จะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ เรื่องที่ว่าเขาขับถ่ายเยอะ เพราะฉะนั้นคนจะเลี้ยงต้องมีพื้นที่หน่อย ราคาราวๆ 40,000-50,000 บาท ซิลเวอร์ฟ็อกซ์ : ถ้าตามธรรมชาติจะดุอยู่แล้ว ปกติเขาล่าสัตว์ใหญ่ แต่ที่นี่ตัวนี้จะค่อนข้างแบ๊วหน่อย เป็นจิ้งจอกแบ๊ว สัตว์พวกนี้จะแล้วแต่ตัวมากกว่า ถ้านิสัยเฉพาะที่อธิบายได้จะเป็นเรื่องกลิ่นที่แรงมาก ถ้าจะนำไปเลี้ยงในบ้านแนะนำว่าไม่ควรเด็ดขาด ราคาประมาณ 50,000บาท เฟนเนกฟ็อกซ์ : จิ้งจอกที่ตัวเล็กที่สุดในโลก ราคาราวๆ 70,000บาท โดยสัญชาติญาณจะไม่ดุร้าย เพราะเขาล่าพวกแมลง ส่วนนิสัยค่อนข้างอินดี้จะคล้ายๆ แมวมากกว่า มีอารมณ์อ้อนครึ่งๆ ระหว่างหมากับแมว ถ้าอยากอินดี้ก็จะชอบอยู่ในมุมของเขาเรียกก็ไม่หัน แต่พออ้อนก็จะร้องให้อุ้มให้เล่นด้วย เมียร์แคต : มีความเหมือนหมามากกว่า จะติดเจ้าของมาก เพราะเขาเป็นสัตว์ที่อยู่เป็นฝูง เบียร์ว่าอันนี้เป็นสัตว์เลี้ยงที่โอเคที่สุดแล้ว หนึ่งคือข้อจำกัดเรื่องพื้นที่น้อย เรื่องกลิ่นไม่ค่อยแรงมาก เลี้ยงง่ายดูแลง่าย ส่งเสียงไม่ดัง ราคาประมาณ 35,000 บาท |
เรื่อง : พิมพรรณ มีชัยศรี
ชมภาพบรรยากาศภายในคาเฟ่ . .
พิกัดร้าน : Little Zoo Cafe' อยู่ในโครงการ สุโขทัยเอฟ 99 (Sukhothai Ave 99) ในเมืองทองธานี ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช