นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนก่อน ที่อำลาตำแหน่งเมื่อปลายปี 2557 เคยถูกประณามมาแล้วว่า เป็นนางตัวร้าย เพราะวุ่นวายในกิจการภายในของไทย แต่ทูตสหรัฐฯ คนปัจจุบันยิ่งร้ายกว่า ปากมอม โจมตีประเทศไทยอย่างไร้มารยาท จนเริ่มมีเสียงตะโกนไล่ให้กลับบ้าน
นายกลิน เดวีส์ ถูกคนไทยลุกฮือต่อต้านครั้งใหญ่มาแล้ว ในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยใหม่ๆ เพราะบังอาจวิจารณ์กฎหมายมาตรา 112
ล่าสุดก่อเรื่องฉาวโฉ่อีก โดยฉีกหน้านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างแถลงข่าวร่วมกัน โดยควักแถลงการณ์โจมตีการปิดกั้นเสรีภาพทางการเมือง และคัดค้านการควบคุมตัวลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรที่ออกมาเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วน
แถลงการณ์ที่หยิบขึ้นมาอ่านระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายดอน ไม่มีการหารือระหว่างประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับทูตสหรัฐฯ
นายเดวีส์อาศัยความหน้าด้าน อาศัยความเป็นทูตสหรัฐฯ หักหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศ ย่ำยีศักดิ์ศรีของประเทศไทย แทรกแซงกิจการภายในอย่างน่าทุเรศ
ทูตสหรัฐฯ คนนี้แสดงจุดยืนชัดว่า มีทัศนคติเชิงลบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง เป็นทูตที่ไม่มีสำนึกด้านมารยาท และหาโอกาสกล่าวร้ายโจมตีประเทศไทยตลอดเวลา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอาจทนความกักขฬะของทูตสหรัฐฯ ได้ ไม่ลงมาต่อล้อต่อเถียง ไม่อารมณ์ฉุนเฉียวใส่ แต่คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกเหลืออดเต็มทน
การประณามประเทศไทยในหลายวาระ การพยายามแทรกแซงกิจการภายใน การสนับสนุนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนายทักษิณ แสดงให้เห็นว่า นายเดวีส์ไม่เห็นรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสายตา และไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนแม้แต่น้อย
นายเดวีส์ประกาศศึกกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์แล้ว แสดงตัวเป็นศัตรูกับคนไทย และคงไม่หยุดพฤติกรรมความเป็นปรปักษ์ ถ้า “ทักษิณ” ไม่ได้กลับมามีอำนาจ
คำถามคือ จะจัดการกับทูตสหรัฐฯ ปากมอมคนนี้อย่างไร
กระทรวงการต่างประเทศกล้าหรือไม่ที่จะเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ขอเปลี่ยนตัวทูตคนใหม่ ไล่นายเดวีส์กลับไป เพราะเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์อันดี
แม้จะรู้กันดีว่า นายเดวีส์รับนโยบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้มากล่าวโจมตีประเทศไทย และคงไม่ยอมเปลี่ยนตัวนายเดวีส์ง่ายๆ แต่อย่างน้อยก็ถือว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำหน้าที่แทนคนไทยแล้ว
และอย่างน้อยก็ได้ประณามความกักขฬะของทูตที่สหรัฐฯ ส่งมา ไม่ใช่ทำเป็นหงอ ไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น ทำให้คนไทยต้องน้ำตาตก เพราะถูกสหรัฐฯ ย่ำยี
ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร หรือรัฐบาลหุ่นเชิดทักษิณ แม้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง มีการปิดกั้นความเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการใช้ความป่าเถื่อนคุกคามข่มขู่ประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม จัดตั้งมวลชนมาทำร้ายและใช้อำนาจรัฐปราบปราม แต่สหรัฐฯ กลับเงียบเป็นเป่าสาก ไม่ตำหนิหรือโจมตีรัฐบาลนายทักษิณแต่อย่างใด
สหรัฐฯ มีข้อตกลงทางผลประโยชน์กับนายทักษิณหรือไม่ จึงไม่เคยออกมาโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลนายทักษิณ ไม่ว่าการทุจริตคอร์รัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการใช้ความรุนแรงปราบปรามฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แถมปัจจุบันยังเป็นปากเป็นเสียงแทนอีกด้วย
สหรัฐฯ เลือกข้างแล้ว ไม่ยืนข้างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่ยืนดันหลังนายทักษิณอยู่ เพราะเชื่อว่า ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อใด “ทักษิณ” จะกลับมาแน่ ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จะได้รับการสานต่อ จึงช่วย “ทักษิณ” ถล่มรัฐบาลทหารเต็มเหนี่ยว
พล.อ.ประยุทธ์จะทำตัวเป็นผู้ดีไม่ได้ เพราะเมื่อทูตสหรัฐฯ ทำตัวไร้มารยาท จึงไม่ควรเกรงใจ และต้องตอบโต้อย่างไม่ไว้หน้า
นายกลินแสดงตัวเหมือนเป็น “ขี้ข้า” นายทักษิณ ถ้าไม่กำราบเสียบ้าง จะเหิมเกริมหนักขึ้น ทำให้ประเทศไทยต้องเสียหาย ศักดิ์ศรีถูกทำลาย
ทูตสหรัฐฯ คนนี้คบไม่ได้ ต้องช่วยกันไล่ตะเพิดกลับบ้าน ต้องร่วมกันสั่งสอนสำนึกว่า อย่าสะเออะแทรกแซงกิจการภายในของไทย
ต้องช่วยกันประจานพฤติกรรมเป็นร่างทรง “ทักษิณ” จนเหมือนเป็นทูตที่ถูก “ทักษิณ” บงการให้ทำร้ายประเทศไทย
นายกลิน เดวีส์ ถูกคนไทยลุกฮือต่อต้านครั้งใหญ่มาแล้ว ในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยใหม่ๆ เพราะบังอาจวิจารณ์กฎหมายมาตรา 112
ล่าสุดก่อเรื่องฉาวโฉ่อีก โดยฉีกหน้านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างแถลงข่าวร่วมกัน โดยควักแถลงการณ์โจมตีการปิดกั้นเสรีภาพทางการเมือง และคัดค้านการควบคุมตัวลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรที่ออกมาเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วน
แถลงการณ์ที่หยิบขึ้นมาอ่านระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายดอน ไม่มีการหารือระหว่างประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับทูตสหรัฐฯ
นายเดวีส์อาศัยความหน้าด้าน อาศัยความเป็นทูตสหรัฐฯ หักหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศ ย่ำยีศักดิ์ศรีของประเทศไทย แทรกแซงกิจการภายในอย่างน่าทุเรศ
ทูตสหรัฐฯ คนนี้แสดงจุดยืนชัดว่า มีทัศนคติเชิงลบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง เป็นทูตที่ไม่มีสำนึกด้านมารยาท และหาโอกาสกล่าวร้ายโจมตีประเทศไทยตลอดเวลา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอาจทนความกักขฬะของทูตสหรัฐฯ ได้ ไม่ลงมาต่อล้อต่อเถียง ไม่อารมณ์ฉุนเฉียวใส่ แต่คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกเหลืออดเต็มทน
การประณามประเทศไทยในหลายวาระ การพยายามแทรกแซงกิจการภายใน การสนับสนุนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนายทักษิณ แสดงให้เห็นว่า นายเดวีส์ไม่เห็นรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสายตา และไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนแม้แต่น้อย
นายเดวีส์ประกาศศึกกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์แล้ว แสดงตัวเป็นศัตรูกับคนไทย และคงไม่หยุดพฤติกรรมความเป็นปรปักษ์ ถ้า “ทักษิณ” ไม่ได้กลับมามีอำนาจ
คำถามคือ จะจัดการกับทูตสหรัฐฯ ปากมอมคนนี้อย่างไร
กระทรวงการต่างประเทศกล้าหรือไม่ที่จะเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ขอเปลี่ยนตัวทูตคนใหม่ ไล่นายเดวีส์กลับไป เพราะเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์อันดี
แม้จะรู้กันดีว่า นายเดวีส์รับนโยบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้มากล่าวโจมตีประเทศไทย และคงไม่ยอมเปลี่ยนตัวนายเดวีส์ง่ายๆ แต่อย่างน้อยก็ถือว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำหน้าที่แทนคนไทยแล้ว
และอย่างน้อยก็ได้ประณามความกักขฬะของทูตที่สหรัฐฯ ส่งมา ไม่ใช่ทำเป็นหงอ ไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น ทำให้คนไทยต้องน้ำตาตก เพราะถูกสหรัฐฯ ย่ำยี
ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร หรือรัฐบาลหุ่นเชิดทักษิณ แม้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง มีการปิดกั้นความเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการใช้ความป่าเถื่อนคุกคามข่มขู่ประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม จัดตั้งมวลชนมาทำร้ายและใช้อำนาจรัฐปราบปราม แต่สหรัฐฯ กลับเงียบเป็นเป่าสาก ไม่ตำหนิหรือโจมตีรัฐบาลนายทักษิณแต่อย่างใด
สหรัฐฯ มีข้อตกลงทางผลประโยชน์กับนายทักษิณหรือไม่ จึงไม่เคยออกมาโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลนายทักษิณ ไม่ว่าการทุจริตคอร์รัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการใช้ความรุนแรงปราบปรามฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แถมปัจจุบันยังเป็นปากเป็นเสียงแทนอีกด้วย
สหรัฐฯ เลือกข้างแล้ว ไม่ยืนข้างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่ยืนดันหลังนายทักษิณอยู่ เพราะเชื่อว่า ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อใด “ทักษิณ” จะกลับมาแน่ ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จะได้รับการสานต่อ จึงช่วย “ทักษิณ” ถล่มรัฐบาลทหารเต็มเหนี่ยว
พล.อ.ประยุทธ์จะทำตัวเป็นผู้ดีไม่ได้ เพราะเมื่อทูตสหรัฐฯ ทำตัวไร้มารยาท จึงไม่ควรเกรงใจ และต้องตอบโต้อย่างไม่ไว้หน้า
นายกลินแสดงตัวเหมือนเป็น “ขี้ข้า” นายทักษิณ ถ้าไม่กำราบเสียบ้าง จะเหิมเกริมหนักขึ้น ทำให้ประเทศไทยต้องเสียหาย ศักดิ์ศรีถูกทำลาย
ทูตสหรัฐฯ คนนี้คบไม่ได้ ต้องช่วยกันไล่ตะเพิดกลับบ้าน ต้องร่วมกันสั่งสอนสำนึกว่า อย่าสะเออะแทรกแซงกิจการภายในของไทย
ต้องช่วยกันประจานพฤติกรรมเป็นร่างทรง “ทักษิณ” จนเหมือนเป็นทูตที่ถูก “ทักษิณ” บงการให้ทำร้ายประเทศไทย