เป็นที่แน่นอนว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเดินหน้าเต็มตัว ยื่นถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต.ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.ซึ่งอยู่ระหว่างรอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษ มีโอกาสแล้วที่จะมีคนมาช่วยตัดตอนคดี
แม้จะมีการเปิดโปงถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังวาระซ่อนเร้น การถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสัมพันธ์กับพล.ต.อ.พัชรวาท และแม้จะถูกโจมตีว่า ป.ป.ช.กำลังใช้ตำแหน่งหน้าที่ เพื่อตอบแทนบุญคุณผู้ที่สนับสนุนให้ได้รับตำแหน่งใน ป.ป.ช.
แต่พล.ต.อ.วัชรพลไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด มุ่งมั่นผลักดันถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ ให้จงได้ โดยงานนี้พร้อมแล้วที่จะพลีชีพเพื่ออดีต “ลูกพี่” เก่า
คดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ตุลาคม 2551 ถูกอัยการตัดตอนมาแล้ว โดยมีความเห็นไม่ฟ้อง จน ป.ป.ช.ชุดก่อนหน้าต้องฟ้องเอง แต่ ป.ป.ช.ชุดใหม่ กำลังลบทิ้งผลงาน ป.ป.ช.ชุดเก่า และกำลังสร้างผลงานที่มัวหมองขึ้นมาแทน
พล.ต.อ.วัชรพลแสดงเจตนารมณ์แน่วแน่จะฝ่ากระแสต่อต้าน ยื่นถอนฟ้องคดี 7ตุลาฯ โดยไม่มีใครในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาห้ามปราม จนดูเหมือนเปิดไฟเขียวให้ด้วยซ้ำ
แต่จะดันทุรังถอนฟ้องสำเร็จหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทและพวกอีก 3 คนจะรอดจากชะตากรรมหรือไม่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งสังคมต้องเฝ้ารอคอยการพิจารณาของศาลต่อไป
ป.ป.ช.ชุดพล.ต.อ.วัชรพลส่อพฤติกรรมชัด ในการใช้อำนาจเพื่อช่วยพวกพ้อง และหากตัดสินคดี 7 ตุลาฯ ได้สำเร็จ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ก็อยู่ในข่ายที่ ป.ป.ช.จะถอนฟ้องได้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็มีโอกาสลอยนวล เช่นเดียวกับข้าราชการทุจริตอีกมากมายที่จะได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช.หลายชุด ต้องใช้เวลานับสิบๆ ปี เพื่อสร้างความศรัทธาจากประชาชน จนเป็นอีกองค์กรอิสระที่ได้รับความน่าเชื่อถือ แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่วนใหญ่ชุดปัจจุบัน กำลังนำความเสื่อมมาสู่องค์กร และทำให้ภาพลักษณ์ ป.ป.ช.ตกต่ำ เช่นเดียวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดสามหนาห้าห่วง หรือชุดที่มีพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน
พฤติการณ์ของ ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่น่าไว้วางใจแล้ว เพราะส่อเจตนาว่าจะเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ซ้ำรอยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ที่เดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เพื่อช่วยพวกพ้องตัวเองจนประชาชนลุกฮือขับไล่ และถูกโค่นล้มไป
ถ้า ป.ป.ช.ชุดพล.ต.อ.วัชรพลยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ไม่มีใครรู้ว่า คดีที่เข้าสู่ ป.ป.ช.จะถูกเปลี่ยนจากดำให้เป็นขาวหรือไม่ จะเกิดการวิ่งเต้นเปลี่ยนคนผิดให้เป็นคนถูกหรือไม่ และป.ป.ช.จะทำหน้าที่ตัดตอนคดีที่นักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูงทำผิดหรือไม่
การตัดตอนคดีสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ไม่ได้ เพราะป.ป.ช.จะก่อชนวนการลุกฮือของประชาชน
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแสดงท่าทีแล้ว เตรียมออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ ขณะที่ทนายนกเขา นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำประชาชนที่ลุกฮือขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จะยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. คัดค้านการถอนฟ้องคดี 7 ตุลา
และถ้า ป.ป.ช.ยังดันทุรัง อาจได้เห็นการลุกฮือต่อต้าน คสช.ครั้งใหญ่
พล.ต.อ.วัชรพลกำลังทำให้พล.อ.ประยุทธ์ต้องเดือดร้อน กำลังจุดชนวนสถานการณ์การเมืองให้ร้อนระอุและกำลังชักศึกเข้า คสช.
คสช.เจอศึกหนักอยู่แล้ว เจอกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่รับจ้างสร้างสถานการณ์ เจอการรุกหนักของนายทักษิณ ชินวิตร ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ลุกฮือขึ้นมาอีก รัฐบาลทหารจะรับมือไหวหรือ
พล.ต.อ.วัชรพลไม่มีอะไรต้องวางเดิมพัน และการมีวันนี้ได้ เพราะ “พี่” จัดให้ จึงต้องการตอบแทนน้ำใจ “พี่” ที่ประเคนตำแหน่งประธาน ป.ป.ช.มาให้
แต่วาระการทดแทนคุณของพล.ต.อ.วัชรพล ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ต้องแบกหน้า รับผลกระทบโดยตรง และอาจลุกลามบานปลายถึงขั้นสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลได้
“ทักษิณ ชินวัตร” และลูกสมุนพยายามสร้างความปั่นป่วนมาตลอด พยายามหาทางจุดไฟเผารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ แต่จุดเท่าไหร่ ไฟก็ไม่ติด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยกับ “ทักษิณ”
แต่การถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ อาจเข้าทาง “ทักษิณ” ที่พยายามปลุกระดมให้เกิดการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่
รัฐบาลทหารกำลังถูกจุดไฟเผา และคนที่จะจุดไฟเผา ไม่ใช่ใครที่ไหน พล.ต.อ.วัชรพลนี่แหละ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต.ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.ซึ่งอยู่ระหว่างรอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษ มีโอกาสแล้วที่จะมีคนมาช่วยตัดตอนคดี
แม้จะมีการเปิดโปงถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังวาระซ่อนเร้น การถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสัมพันธ์กับพล.ต.อ.พัชรวาท และแม้จะถูกโจมตีว่า ป.ป.ช.กำลังใช้ตำแหน่งหน้าที่ เพื่อตอบแทนบุญคุณผู้ที่สนับสนุนให้ได้รับตำแหน่งใน ป.ป.ช.
แต่พล.ต.อ.วัชรพลไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด มุ่งมั่นผลักดันถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ ให้จงได้ โดยงานนี้พร้อมแล้วที่จะพลีชีพเพื่ออดีต “ลูกพี่” เก่า
คดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ตุลาคม 2551 ถูกอัยการตัดตอนมาแล้ว โดยมีความเห็นไม่ฟ้อง จน ป.ป.ช.ชุดก่อนหน้าต้องฟ้องเอง แต่ ป.ป.ช.ชุดใหม่ กำลังลบทิ้งผลงาน ป.ป.ช.ชุดเก่า และกำลังสร้างผลงานที่มัวหมองขึ้นมาแทน
พล.ต.อ.วัชรพลแสดงเจตนารมณ์แน่วแน่จะฝ่ากระแสต่อต้าน ยื่นถอนฟ้องคดี 7ตุลาฯ โดยไม่มีใครในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาห้ามปราม จนดูเหมือนเปิดไฟเขียวให้ด้วยซ้ำ
แต่จะดันทุรังถอนฟ้องสำเร็จหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทและพวกอีก 3 คนจะรอดจากชะตากรรมหรือไม่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งสังคมต้องเฝ้ารอคอยการพิจารณาของศาลต่อไป
ป.ป.ช.ชุดพล.ต.อ.วัชรพลส่อพฤติกรรมชัด ในการใช้อำนาจเพื่อช่วยพวกพ้อง และหากตัดสินคดี 7 ตุลาฯ ได้สำเร็จ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ก็อยู่ในข่ายที่ ป.ป.ช.จะถอนฟ้องได้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็มีโอกาสลอยนวล เช่นเดียวกับข้าราชการทุจริตอีกมากมายที่จะได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช.หลายชุด ต้องใช้เวลานับสิบๆ ปี เพื่อสร้างความศรัทธาจากประชาชน จนเป็นอีกองค์กรอิสระที่ได้รับความน่าเชื่อถือ แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่วนใหญ่ชุดปัจจุบัน กำลังนำความเสื่อมมาสู่องค์กร และทำให้ภาพลักษณ์ ป.ป.ช.ตกต่ำ เช่นเดียวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดสามหนาห้าห่วง หรือชุดที่มีพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน
พฤติการณ์ของ ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่น่าไว้วางใจแล้ว เพราะส่อเจตนาว่าจะเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ซ้ำรอยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ที่เดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เพื่อช่วยพวกพ้องตัวเองจนประชาชนลุกฮือขับไล่ และถูกโค่นล้มไป
ถ้า ป.ป.ช.ชุดพล.ต.อ.วัชรพลยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ไม่มีใครรู้ว่า คดีที่เข้าสู่ ป.ป.ช.จะถูกเปลี่ยนจากดำให้เป็นขาวหรือไม่ จะเกิดการวิ่งเต้นเปลี่ยนคนผิดให้เป็นคนถูกหรือไม่ และป.ป.ช.จะทำหน้าที่ตัดตอนคดีที่นักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูงทำผิดหรือไม่
การตัดตอนคดีสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ไม่ได้ เพราะป.ป.ช.จะก่อชนวนการลุกฮือของประชาชน
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแสดงท่าทีแล้ว เตรียมออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ ขณะที่ทนายนกเขา นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำประชาชนที่ลุกฮือขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จะยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. คัดค้านการถอนฟ้องคดี 7 ตุลา
และถ้า ป.ป.ช.ยังดันทุรัง อาจได้เห็นการลุกฮือต่อต้าน คสช.ครั้งใหญ่
พล.ต.อ.วัชรพลกำลังทำให้พล.อ.ประยุทธ์ต้องเดือดร้อน กำลังจุดชนวนสถานการณ์การเมืองให้ร้อนระอุและกำลังชักศึกเข้า คสช.
คสช.เจอศึกหนักอยู่แล้ว เจอกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่รับจ้างสร้างสถานการณ์ เจอการรุกหนักของนายทักษิณ ชินวิตร ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ลุกฮือขึ้นมาอีก รัฐบาลทหารจะรับมือไหวหรือ
พล.ต.อ.วัชรพลไม่มีอะไรต้องวางเดิมพัน และการมีวันนี้ได้ เพราะ “พี่” จัดให้ จึงต้องการตอบแทนน้ำใจ “พี่” ที่ประเคนตำแหน่งประธาน ป.ป.ช.มาให้
แต่วาระการทดแทนคุณของพล.ต.อ.วัชรพล ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ต้องแบกหน้า รับผลกระทบโดยตรง และอาจลุกลามบานปลายถึงขั้นสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลได้
“ทักษิณ ชินวัตร” และลูกสมุนพยายามสร้างความปั่นป่วนมาตลอด พยายามหาทางจุดไฟเผารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ แต่จุดเท่าไหร่ ไฟก็ไม่ติด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยกับ “ทักษิณ”
แต่การถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ อาจเข้าทาง “ทักษิณ” ที่พยายามปลุกระดมให้เกิดการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่
รัฐบาลทหารกำลังถูกจุดไฟเผา และคนที่จะจุดไฟเผา ไม่ใช่ใครที่ไหน พล.ต.อ.วัชรพลนี่แหละ
