“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ทุกย่างก้าวการเมืองที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ“ตักขี้” คือ มุ่งยึดอำนาจรัฐเป็นหลัก!
ใครที่โชคดีมีอำนาจรัฐอยู่ในมือในขณะนี้ ถึงจะรู้ถึงความชั่วร้ายนี้ของ“ตักขี้” แต่ดันมองข้าม“ธาตุแท้”ข้างต้นของ“ตักขี้” ก็กำลังพาชาติ“เดินดิ่งลงเหว”!
ลมปาก“ตักขี้”ที่ว่า ตนรวยจนชาตินี้ใช้ไม่หมด ถ้าได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ตนจะไม่โกงเด็ดขาด จะทำเพื่อชาติและประชาชนเท่านั้น เพราะตนรักชาติและพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต
แต่การกระทำจริงของ“ตักขี้”กลับตรงข้ามกับ“ลมปาก”โดยสิ้นเชิง
เพราะ“ตักขี้”โกงเลือกตั้งจนยึดสภาและรัฐบาลได้ เป็นนายกรัฐมนตรีแค่ 4-5 ปี ก็โกงเงินชาติหลายแสนล้านบาท! ยิ่งรัฐบาลล่าสุด“พี่คิด-น้องโกง”นั้น ผลงานดีงามไม่มีให้เห็น มีแต่เรื่องฉาวโกงชาติและล้มเจ้าตลอดเวลา
แค่โครงการ“จำนำข้าว”เรื่องเดียว ก็ผลาญและโกงเงินชาติเสียหายกว่า 7-8 แสนล้านบาทแล้ว ทำให้รัฐบาลเครือญาติ“ตักขี้” ได้ฉายา“รัฐบาลโคตรโกง-โกงทั้งโคตร”
นั่นยังไม่รวมความชั่วช้าสามานย์“ตักขี้”กับพวก ที่ปฏิบัติการโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งยามที่มีและไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ
นิตยสารระดับโลกบางฉบับ ถึงกับจัดอันดับให้“ตักขี้”เป็นผู้นำที่ชั่วร้ายและโกง ติดหนึ่งในห้าของโลกเลย
รัฐบาล“ตักขี้”กับเครือข่าย จึงถูกคนไทยขับไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า! ถูกศาลยุบพรรคข้อหาเป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสองครั้ง! ถูก“มือสีเขียว”พลิกขั้วทางการเมือง จนน้องเขย“ชายม่านรูด”ตกเก้าอี้นายกฯ หนึ่งครั้ง และโกงชาติฉาวจนถูกทหารรัฐประหารโค่นล้มอีกสองครั้ง!
สถิติชั่วร้ายทางการเมืองเช่นนี้ ไม่มีใครในโลกทำได้..นอกจาก“ตักขี้”เท่านั้น
แต่คนมีเงินสกปรกมหาศาลอย่าง“ตักขี้” ยังโลภไม่รู้จักพอ “ไม่ตายไม่หยุดทำชั่ว” เก่งเรื่อง“ใช้เงินซื้อคน” ดังนั้น จึงจ้าง“ผี-โม่แป้ง”ได้ทุกวงการ ทั้ง ผีนักการเมือง-ผีพ่อค้า-ผีข้าราชการ-ผีตำรวจ-ผีทหารจำนวนหนึ่ง ให้ทำงานชั่วๆทั้งลับและเปิดเผยให้ตนตลอด
“อำนาจรัฐ”ทำให้“ตักขี้”พ้นจากสภาพ นักธุรกิจที่เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง กลายเป็นนักธุรกิจร่ำรวยหลายหมื่นล้านบาท จากการผูกขาดกิจการโทรคมนาคม ดังนั้น “ตักขี้”จึงรู้กระจ่างแก่ใจว่า การทำธุรกิจการเมืองยึดอำนาจรัฐได้นั้น..คุ้มค่ายิ่งนัก!
เพราะทุ่มเงินซื้อเสียงเลือกตั้งแล้วชนะ จะยึดรัฐสภาและรัฐบาลได้ ก็ใช้อำนาจรัฐถอนทุนบวกกำไรเป็นแสนๆล้านบาทได้ทันที
“ตักขี้”พิสูจน์ให้เห็นชัดแจ้งแล้วว่า เขาเป็นนายกฯคนแรกและคนเดียว ที่โดนยึดทรัพย์มากถึง 46,000 กว่าล้านบาท! ถูกอายัดทรัพย์ในต่างแดนอีก 120,000 กว่าล้านบาท!
เรียกว่า..ทั้งนายกฯที่มาจากเลือกตั้ง และนายกฯที่มาจากรัฐประหาร ต้องชิดซ้ายตกถนนไปเลย เพราะโกงเงินชาติสู้“ตักขี้”ไม่ได้สักคน!
วันนี้..แม้“ตักขี้”จะใช้เงินไม่หมดในชาตินี้ แต่ก็ยังคงดึงดันจะยึด“อำนาจรัฐ” เป็น“เครื่องมือ”สร้างความร่ำรวยต่อไป จึงทำให้“ตักขี้”กับพวกยังทำชั่วในทุกรูปแบบ เพื่อจะยึด“อำนาจรัฐ”มาไว้ในมือให้ได้
ดังนั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะมาจากเลือกตั้งหรือรัฐประหาร หรือใครก็ตามที่เป็น“ก้างขวางคอ”การโกงชาติ จะโดนกลุ่มทุนสามานย์“ตักขี้”และพวก โค่นลงให้พ้นทางเสมอ เช่น
ประชาชนผู้รักชาติ ออกมาขับไล่รัฐบาลโกงชาติ“ตักขี้”และเครือข่าย ก็ถูกอันธพาลการเมืองขี้ข้า“ตักขี้”เข่นฆ่า จนต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย
รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง“หล่อจ้อเก่ง” ก็โดน“ตักขี้”ส่งขี้ข้าทางการเมือง โค่นล้มด้วยความรุนแรง โดย“ตักขี้”ได้ปลุกระดมให้“คนเสื้อแดง” ก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง อีกทั้งใช้กองกำลัง“คนเสื้อดำ” ใช้อาวุธสงครามไล่ล่าคณะรัฐมนตรี“หล่อจ้อเก่ง” รวมทั้งฆ่าทหารและประชาชน จนบาดเจ็บล้มตายกันไปมากมาย
เรื่องยึดอำนาจรัฐเพื่อสวาปาม ทั้งอำนาจ-ทรัพย์สิน-เงินทอง ฯลฯ ของกลุ่มทุนสามานย์“ตักขี้”นั้น จึงเป็นการต่อสู้ที่เอาเป็นเอาตาย ฯลฯ หากผู้นำชาติที่อ้างทำเพื่อชาติ ไม่เด็ดขาดหรือแอบมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับ“ตักขี้” ก็อาจทำให้ฝ่ายประชาชนพ่ายแพ้ได้
โดยมีรูปธรรมในอดีตบอกให้รู้แล้วว่า หาก“ตักขี้”กลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกเมื่อไหร่ “ตักขี้”จะยึดหลัก“แค้นนี้ต้องชำระ” ตามสูตร “ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย”ทันที
เพราะ“ตักขี้”มีเป้าหมายหลัก ต้องล้มรัฐไทยเก่า-ตั้งรัฐไทยใหม่มาแทนที่ โดย“ตักขี้”อาจขึ้นเป็น “สมเด็จเจ้ามูลเมือง” หรือ “ท่านประธานาธิบดีตักขี้”ไงล่ะ
วันนี้“ตักขี้”รู้แล้วว่า ขืนนั่งรอเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆแบบนี้ พวกตนจะ“ถูกชกข้างเดียว”! ความผิดของตนกับเครือญาติมี“คุกตะราง”รออยู่!
การกดดันให้เกิดเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด จึงถือเป็นการ“วัดดวง”ที่“ตักขี้”และพวก มีโอกาส“ได้เสีย”มากกว่าหนทางอื่น เพราะเป็นการนั่งรอคุกตะรางมาเยือนเท่านั้น..จริงไหม?
“ตักขี้”จึงใช้ประเด็นรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่ง”ตักขี้”ไม่ได้เปรียบทางการเมือง เป็นข้ออ้าง“ชักธงรบ”กับ คสช. โดยรวมศูนย์พลพรรคทุกส่วน รุกโจมตี“บิ๊กตู่”ทั้งในและต่างประเทศพร้อมกัน
“ล็อบบี้ยิสต์”ที่“ตักขี้”ว่าจ้างไว้ ได้ใช้เครือข่ายสื่อนอกประเทศบางสื่อ ใช้องค์กรเอ็นจีโอมะกันบางองค์กร ใช้นักการเมืองรับจ้างตาน้ำข้าวบางคน ออกมาโจมตีการทำงานของ คสช. ถึงขนาดจะบอยคอตธุรกิจไทยบางด้าน เพื่อทำลายเศรษฐกิจไทยให้เสียหายกันเลย
ส่วนในประเทศไทยนั้น กลุ่มนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองบางคน ก็โจมตี คสช.และรัฐธรรมนูญใหม่ทุกรูปแบบ และปฏิบัติการถี่ยิบมากขึ้นเรื่อยๆ หาก“บิ๊กตู่”ไม่”ตัดไปแต่ต้นลม”เกมป่วน“ตักขี้”และพวก
ในเมื่อ“ตักขี้”กับพวกเชื่อว่า ยังมีคนไทยจำนวนหนึ่ง พึงพอใจกับผลงานที่“ตักขี้”หว่านไว้ในอดีต แม้จะมีผู้คนอีกฝ่ายหนึ่ง รู้เห็นถึงความชั่วโกงชาติและล้มเจ้าของ“ตักขี้”แล้ว
แต่เพราะศรัทธา“บิ๊กตู่”ลดลง จากผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาชาติไม่เข้าตาผู้รักชาติ โดยเฉพาะการขจัดกลุ่มคนชั่วทางการเมือง ที่ก่อกรรมทำเข็ญต่อชาติและประชาชนไว้ ยังคงลอยนวลอยู่เหนือกฎหมาย อีกทั้งยังเคลื่อนไหวทำลายรัฐบาล“บิ๊กตู่” และบั่นทอนความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่ทุกวันนี้
แถมการแก้ไขปัญหาปากท้องของ“ทีมเศรษฐกิจ” ก็เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น ขณะที่คนส่วนใหญ่ที่ด้อยโอกาส ต้องเผชิญกับความยากจนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรทุกอาชีพนั้น ถูกเอาเปรียบจนยากแค้นต่อการดำรงชีวิตอย่างยิ่ง
เกษตรกรในบางจังหวัด ยังเผชิญกับกลไกรัฐทำร้ายซ้ำเติม เพราะไปเอื้อประโยชน์ให้ทุนสามานย์ต่างชาติ ให้กอบโกยทรัพยากรชาติอย่างไร้สติ เช่น ให้ต่างชาติทำเหมืองทองคำ ที่สร้างมลพิษร้ายแรงนานัปการต่อดิน-น้ำ-อากาศ-ชีวิตมนุษย์ ฯลฯ โดยรัฐได้เงินค่าภาคหลวงตอบแทนเพียงน้อยนิด
นั่นเป็นสิ่งที่“บิ๊กตู่”ต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่รัฐบาลนี้ยังปล่อยให้คาราคาซังไม่ได้แก้ไข แถมโครงการใหญ่ๆในบางเรื่อง รัฐบาล“บิ๊กตู่”ถึงกับใช้อำนาจพิเศษ เอื้อให้ทำได้โดยไม่ต้องผ่านกฎหมายผังเมือง กับผลวิจัยทางด้าน EIA และ EHIA
ยิ่งทำให้ผู้คนมองว่า “รัฐบาลบิ๊กตู่”ทำร้ายคนยากจนที่ด้อยโอกาส เพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้คนร่ำรวยและต่างชาติ ซึ่งสร้างความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับปณิธานที่ประกาศไว้โดยสิ้นเชิง
โครงการที่อาจก่อพิษภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อมนี้ แม้แต่รัฐบาล“ตักขี้”ที่เป็นทุนสามานย์แท้ๆ ยังต้องให้ผ่านกฎหมายผังเมือง และผ่าน EIA และ EHIA เสียก่อน แต่รัฐบาลเผด็จการ“บิ๊กตู่”ที่อ้างทำเพื่อประชาชน กลับทำในสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งนี้เสียเอง!
เมื่อ“ตักขี้”วัดใจ..การเมืองปกติก็ระอุเดือดกับการเดินหน้าสู้กันแบบ-ได้เสีย..
โดยมี“บิ๊กตู่”วัดดวง..กับการจะสืบต่ออำนาจเผด็จการเดิมพันกันแบบ-รุ่งหรือดับ..
ภายใต้สถานการณ์“เข็มขัดสั้น”หรือ“คาดไม่ถึง”อาจเกิดขึ้นได้ทุกวินาที...!
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ทุกย่างก้าวการเมืองที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ“ตักขี้” คือ มุ่งยึดอำนาจรัฐเป็นหลัก!
ใครที่โชคดีมีอำนาจรัฐอยู่ในมือในขณะนี้ ถึงจะรู้ถึงความชั่วร้ายนี้ของ“ตักขี้” แต่ดันมองข้าม“ธาตุแท้”ข้างต้นของ“ตักขี้” ก็กำลังพาชาติ“เดินดิ่งลงเหว”!
ลมปาก“ตักขี้”ที่ว่า ตนรวยจนชาตินี้ใช้ไม่หมด ถ้าได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ตนจะไม่โกงเด็ดขาด จะทำเพื่อชาติและประชาชนเท่านั้น เพราะตนรักชาติและพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต
แต่การกระทำจริงของ“ตักขี้”กลับตรงข้ามกับ“ลมปาก”โดยสิ้นเชิง
เพราะ“ตักขี้”โกงเลือกตั้งจนยึดสภาและรัฐบาลได้ เป็นนายกรัฐมนตรีแค่ 4-5 ปี ก็โกงเงินชาติหลายแสนล้านบาท! ยิ่งรัฐบาลล่าสุด“พี่คิด-น้องโกง”นั้น ผลงานดีงามไม่มีให้เห็น มีแต่เรื่องฉาวโกงชาติและล้มเจ้าตลอดเวลา
แค่โครงการ“จำนำข้าว”เรื่องเดียว ก็ผลาญและโกงเงินชาติเสียหายกว่า 7-8 แสนล้านบาทแล้ว ทำให้รัฐบาลเครือญาติ“ตักขี้” ได้ฉายา“รัฐบาลโคตรโกง-โกงทั้งโคตร”
นั่นยังไม่รวมความชั่วช้าสามานย์“ตักขี้”กับพวก ที่ปฏิบัติการโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งยามที่มีและไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ
นิตยสารระดับโลกบางฉบับ ถึงกับจัดอันดับให้“ตักขี้”เป็นผู้นำที่ชั่วร้ายและโกง ติดหนึ่งในห้าของโลกเลย
รัฐบาล“ตักขี้”กับเครือข่าย จึงถูกคนไทยขับไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า! ถูกศาลยุบพรรคข้อหาเป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสองครั้ง! ถูก“มือสีเขียว”พลิกขั้วทางการเมือง จนน้องเขย“ชายม่านรูด”ตกเก้าอี้นายกฯ หนึ่งครั้ง และโกงชาติฉาวจนถูกทหารรัฐประหารโค่นล้มอีกสองครั้ง!
สถิติชั่วร้ายทางการเมืองเช่นนี้ ไม่มีใครในโลกทำได้..นอกจาก“ตักขี้”เท่านั้น
แต่คนมีเงินสกปรกมหาศาลอย่าง“ตักขี้” ยังโลภไม่รู้จักพอ “ไม่ตายไม่หยุดทำชั่ว” เก่งเรื่อง“ใช้เงินซื้อคน” ดังนั้น จึงจ้าง“ผี-โม่แป้ง”ได้ทุกวงการ ทั้ง ผีนักการเมือง-ผีพ่อค้า-ผีข้าราชการ-ผีตำรวจ-ผีทหารจำนวนหนึ่ง ให้ทำงานชั่วๆทั้งลับและเปิดเผยให้ตนตลอด
“อำนาจรัฐ”ทำให้“ตักขี้”พ้นจากสภาพ นักธุรกิจที่เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง กลายเป็นนักธุรกิจร่ำรวยหลายหมื่นล้านบาท จากการผูกขาดกิจการโทรคมนาคม ดังนั้น “ตักขี้”จึงรู้กระจ่างแก่ใจว่า การทำธุรกิจการเมืองยึดอำนาจรัฐได้นั้น..คุ้มค่ายิ่งนัก!
เพราะทุ่มเงินซื้อเสียงเลือกตั้งแล้วชนะ จะยึดรัฐสภาและรัฐบาลได้ ก็ใช้อำนาจรัฐถอนทุนบวกกำไรเป็นแสนๆล้านบาทได้ทันที
“ตักขี้”พิสูจน์ให้เห็นชัดแจ้งแล้วว่า เขาเป็นนายกฯคนแรกและคนเดียว ที่โดนยึดทรัพย์มากถึง 46,000 กว่าล้านบาท! ถูกอายัดทรัพย์ในต่างแดนอีก 120,000 กว่าล้านบาท!
เรียกว่า..ทั้งนายกฯที่มาจากเลือกตั้ง และนายกฯที่มาจากรัฐประหาร ต้องชิดซ้ายตกถนนไปเลย เพราะโกงเงินชาติสู้“ตักขี้”ไม่ได้สักคน!
วันนี้..แม้“ตักขี้”จะใช้เงินไม่หมดในชาตินี้ แต่ก็ยังคงดึงดันจะยึด“อำนาจรัฐ” เป็น“เครื่องมือ”สร้างความร่ำรวยต่อไป จึงทำให้“ตักขี้”กับพวกยังทำชั่วในทุกรูปแบบ เพื่อจะยึด“อำนาจรัฐ”มาไว้ในมือให้ได้
ดังนั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะมาจากเลือกตั้งหรือรัฐประหาร หรือใครก็ตามที่เป็น“ก้างขวางคอ”การโกงชาติ จะโดนกลุ่มทุนสามานย์“ตักขี้”และพวก โค่นลงให้พ้นทางเสมอ เช่น
ประชาชนผู้รักชาติ ออกมาขับไล่รัฐบาลโกงชาติ“ตักขี้”และเครือข่าย ก็ถูกอันธพาลการเมืองขี้ข้า“ตักขี้”เข่นฆ่า จนต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย
รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง“หล่อจ้อเก่ง” ก็โดน“ตักขี้”ส่งขี้ข้าทางการเมือง โค่นล้มด้วยความรุนแรง โดย“ตักขี้”ได้ปลุกระดมให้“คนเสื้อแดง” ก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง อีกทั้งใช้กองกำลัง“คนเสื้อดำ” ใช้อาวุธสงครามไล่ล่าคณะรัฐมนตรี“หล่อจ้อเก่ง” รวมทั้งฆ่าทหารและประชาชน จนบาดเจ็บล้มตายกันไปมากมาย
เรื่องยึดอำนาจรัฐเพื่อสวาปาม ทั้งอำนาจ-ทรัพย์สิน-เงินทอง ฯลฯ ของกลุ่มทุนสามานย์“ตักขี้”นั้น จึงเป็นการต่อสู้ที่เอาเป็นเอาตาย ฯลฯ หากผู้นำชาติที่อ้างทำเพื่อชาติ ไม่เด็ดขาดหรือแอบมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับ“ตักขี้” ก็อาจทำให้ฝ่ายประชาชนพ่ายแพ้ได้
โดยมีรูปธรรมในอดีตบอกให้รู้แล้วว่า หาก“ตักขี้”กลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกเมื่อไหร่ “ตักขี้”จะยึดหลัก“แค้นนี้ต้องชำระ” ตามสูตร “ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย”ทันที
เพราะ“ตักขี้”มีเป้าหมายหลัก ต้องล้มรัฐไทยเก่า-ตั้งรัฐไทยใหม่มาแทนที่ โดย“ตักขี้”อาจขึ้นเป็น “สมเด็จเจ้ามูลเมือง” หรือ “ท่านประธานาธิบดีตักขี้”ไงล่ะ
วันนี้“ตักขี้”รู้แล้วว่า ขืนนั่งรอเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆแบบนี้ พวกตนจะ“ถูกชกข้างเดียว”! ความผิดของตนกับเครือญาติมี“คุกตะราง”รออยู่!
การกดดันให้เกิดเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด จึงถือเป็นการ“วัดดวง”ที่“ตักขี้”และพวก มีโอกาส“ได้เสีย”มากกว่าหนทางอื่น เพราะเป็นการนั่งรอคุกตะรางมาเยือนเท่านั้น..จริงไหม?
“ตักขี้”จึงใช้ประเด็นรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่ง”ตักขี้”ไม่ได้เปรียบทางการเมือง เป็นข้ออ้าง“ชักธงรบ”กับ คสช. โดยรวมศูนย์พลพรรคทุกส่วน รุกโจมตี“บิ๊กตู่”ทั้งในและต่างประเทศพร้อมกัน
“ล็อบบี้ยิสต์”ที่“ตักขี้”ว่าจ้างไว้ ได้ใช้เครือข่ายสื่อนอกประเทศบางสื่อ ใช้องค์กรเอ็นจีโอมะกันบางองค์กร ใช้นักการเมืองรับจ้างตาน้ำข้าวบางคน ออกมาโจมตีการทำงานของ คสช. ถึงขนาดจะบอยคอตธุรกิจไทยบางด้าน เพื่อทำลายเศรษฐกิจไทยให้เสียหายกันเลย
ส่วนในประเทศไทยนั้น กลุ่มนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองบางคน ก็โจมตี คสช.และรัฐธรรมนูญใหม่ทุกรูปแบบ และปฏิบัติการถี่ยิบมากขึ้นเรื่อยๆ หาก“บิ๊กตู่”ไม่”ตัดไปแต่ต้นลม”เกมป่วน“ตักขี้”และพวก
ในเมื่อ“ตักขี้”กับพวกเชื่อว่า ยังมีคนไทยจำนวนหนึ่ง พึงพอใจกับผลงานที่“ตักขี้”หว่านไว้ในอดีต แม้จะมีผู้คนอีกฝ่ายหนึ่ง รู้เห็นถึงความชั่วโกงชาติและล้มเจ้าของ“ตักขี้”แล้ว
แต่เพราะศรัทธา“บิ๊กตู่”ลดลง จากผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาชาติไม่เข้าตาผู้รักชาติ โดยเฉพาะการขจัดกลุ่มคนชั่วทางการเมือง ที่ก่อกรรมทำเข็ญต่อชาติและประชาชนไว้ ยังคงลอยนวลอยู่เหนือกฎหมาย อีกทั้งยังเคลื่อนไหวทำลายรัฐบาล“บิ๊กตู่” และบั่นทอนความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่ทุกวันนี้
แถมการแก้ไขปัญหาปากท้องของ“ทีมเศรษฐกิจ” ก็เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น ขณะที่คนส่วนใหญ่ที่ด้อยโอกาส ต้องเผชิญกับความยากจนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรทุกอาชีพนั้น ถูกเอาเปรียบจนยากแค้นต่อการดำรงชีวิตอย่างยิ่ง
เกษตรกรในบางจังหวัด ยังเผชิญกับกลไกรัฐทำร้ายซ้ำเติม เพราะไปเอื้อประโยชน์ให้ทุนสามานย์ต่างชาติ ให้กอบโกยทรัพยากรชาติอย่างไร้สติ เช่น ให้ต่างชาติทำเหมืองทองคำ ที่สร้างมลพิษร้ายแรงนานัปการต่อดิน-น้ำ-อากาศ-ชีวิตมนุษย์ ฯลฯ โดยรัฐได้เงินค่าภาคหลวงตอบแทนเพียงน้อยนิด
นั่นเป็นสิ่งที่“บิ๊กตู่”ต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่รัฐบาลนี้ยังปล่อยให้คาราคาซังไม่ได้แก้ไข แถมโครงการใหญ่ๆในบางเรื่อง รัฐบาล“บิ๊กตู่”ถึงกับใช้อำนาจพิเศษ เอื้อให้ทำได้โดยไม่ต้องผ่านกฎหมายผังเมือง กับผลวิจัยทางด้าน EIA และ EHIA
ยิ่งทำให้ผู้คนมองว่า “รัฐบาลบิ๊กตู่”ทำร้ายคนยากจนที่ด้อยโอกาส เพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้คนร่ำรวยและต่างชาติ ซึ่งสร้างความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับปณิธานที่ประกาศไว้โดยสิ้นเชิง
โครงการที่อาจก่อพิษภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อมนี้ แม้แต่รัฐบาล“ตักขี้”ที่เป็นทุนสามานย์แท้ๆ ยังต้องให้ผ่านกฎหมายผังเมือง และผ่าน EIA และ EHIA เสียก่อน แต่รัฐบาลเผด็จการ“บิ๊กตู่”ที่อ้างทำเพื่อประชาชน กลับทำในสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งนี้เสียเอง!
เมื่อ“ตักขี้”วัดใจ..การเมืองปกติก็ระอุเดือดกับการเดินหน้าสู้กันแบบ-ได้เสีย..
โดยมี“บิ๊กตู่”วัดดวง..กับการจะสืบต่ออำนาจเผด็จการเดิมพันกันแบบ-รุ่งหรือดับ..
ภายใต้สถานการณ์“เข็มขัดสั้น”หรือ“คาดไม่ถึง”อาจเกิดขึ้นได้ทุกวินาที...!