สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
นักธุรกิจการเมืองใช้เงิน-ยึดอำนาจรัฐ! นักการทหารใช้ปืน-ยึดอำนาจรัฐ! อำนาจรัฐเลยเป็น”สมบัติผลัดกันชม”ไปเลย!
“คนยึดอำนาจรัฐ”สองกลุ่มนี้แตกต่างกันตรงที่ เผด็จการรัฐสภา-ประชาชนได้ออกเสียงเลือกตั้งก่อนจึงจะได้เผด็จการรัฐสภาขึ้นครองชาติ ส่วนเผด็จการทหารได้ขึ้นครองชาติเลย โดยประชาชนไม่ได้ออกเสียง หรือไม่ต้องเสียเวลาไปเลือกตั้งนั่นเอง
“คนยึดอำนาจรัฐ”ทั้งสองกลุ่มนี้ จะทำดีจะทำชั่วต่อชาติและประชาชนได้ทั้งสิ้น!
การเมืองไทยเริ่มจากเลือกตั้งโกง-ได้สภาเผด็จการ-ได้รัฐบาลโกงตามมา จึงโดนประชาชนขับไล่มาตลอด โดยรัฐบาลฯชั่วที่ลุแก่อำนาจ มักใช้กลไกรัฐปราบคนไทยอยู่เนืองๆ
การเมืองจึงมักจบลงด้วยวิธี เปลี่ยนนายกฯหรือนายกฯลาออก เปิดให้ซื้อเสียงเลือกตั้งกันใหม่ หรือจบโดยทหารทำรัฐประหาร ด้วยข้ออ้างรัฐบาลโกงชาติ แล้วผู้นำทหารก็ขึ้นเป็นนายกฯ วนเวียนซ้ำซาก-เดี๋ยวก็มีรัฐบาลมาจากการซื้อเสียงเลือกตั้ง-ที่ขี้โกง เดี๋ยวก็มีรัฐบาลมาจากรัฐประหาร-ที่เยี่ยวไม่สุด!
สถิติการยึดทรัพย์ที่ผ่านมา รัฐบาลมาจากรัฐประหารทั้งหมด ผู้นำถูกยึดทรัพย์แค่พันกว่าล้านบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เฉพาะเหลี่ยมยุคเดียวคนเดียวแค่ 4-5 ปี ก็โกงเงินชาติไปกว่า 4-5 แสนล้านบาท เฉพาะที่จับฉ้อฉลได้โดนยึดเงินในไทยก็ 4 หมื่นกว่าล้านบาท และเงินอีก1.2 แสนล้านบาท ยังถูกทางการอังกฏษอายัดไว้จนบัดนี้
การเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งนั้น เมื่อได้เป็นรัฐบาลจึงต้องโกงชาติ เพื่อถอนทุนบวกกำไรให้เร็วและมากที่สุดทั้งสิ้น
ดังนั้น นักการเมืองขี้ข้านายทุนพรรคทุกคน จึงต้องแข่งกันโกงชาติโดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย เพราะหากถูกจับโกงได้แบบคาหนังคาเขา สภาเผด็จการจะออกกฏหมายนิรโทษฯให้คนทำผิด นั่นเป็นวิถี”ชีวิต”ของเผด็จการรัฐสภา ที่โกหกหน้าด้านๆว่าเป็น”ประชาธิปไตย”
ทั้งรัฐบาลที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง และรัฐบาลที่ใช้ปืนทำรัฐประหาร ล้วนไม่เคยคิดจะปฏิรูปชาติไทยในทุกมิติ เพื่อทำให้การเมืองสะอาด และชาติกับคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเลย
โดยเฉพาะทำลายการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง กำจัดคนชั่วมิให้มีอำนาจทางการเมือง และทำให้คนดีได้บริหารชาติอย่างถาวร!
ดังนายกฯ พล.อ.ชาติชาย ชุนหะวัณ จะย้ายขุนทหารบางคนก็โดน พล.อ.สุจินดา คราประยูร กับพวก ทำรัฐประหารโค่นล้มลง ด้วยข้ออ้างโกงชาติบ้านเมือง “น้าชาติ”และรัฐมนตรีหลายคนถูกอายัดทรัพย์ทันที
แต่“บิ๊กสุ”กับ”รสช.”หลงไหลในอำนาจรัฐ และหลงคารมนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ที่วางแผนใช้กลุ่มนักการเมืองที่รสช.โค่นล้มลง มาเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจให้กับรสช. จนต้อง”ตระบัตรสัตย์”ถึง 2 เรื่อง
เรื่องที่หนึ่ง-รสช.ล้มสภาและรัฐบาลของนักการเมือง โดยอ้างว่าโกงชาติบ้านเมือง แต่รสช.กลับไปใช้นักการเมืองเหล่านั้น ให้มาร่วมกับรสช.ตั้งพรรคสามัคคีธรรมขึ้น แล้วทุ่มเงินให้สส.พวกนี้นำไปซื้อเสียงเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้งก็ดึงและบังคับ ให้พรรคชาติไทย-กิจสังคม-ประชากรไทย-ราษฏร มาร่วมตั้งรัฐบาลรสช.กันหน้าตาเฉย
เรื่องที่สอง-“บิ๊กสุ”ที่ประกาศไม่เป็นนายกฯ ทนพรรคพวกที่ร่วมทำรัฐประหาร กับนักการเมืองและสื่อมวลชนสอพลอบางคน ที่สุมหัวกันป้อยอ-ยุยงจน”บิ๊กสุ” ยอม”ตระบัตรสัตย์”เป็นนายกฯ
ทว่า..แม้”บิ๊กสุ”กับพวกจะคุมกองทัพไว้ในกำมือ แต่ก็โดนประชาชนที่นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ออกมาชุมนุมขับไล่ จน”บิ๊กสุ” ต้องใช้กำลังทหารออกมาปราบประชาชน แต่ปืนก็สยบประชาชนไม่ได้ จนเกิดการบาดเจ็บล้มตายกันอย่างมากมาย
ในที่สุด“บิ๊กสุ”ก็ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เหตุการณ์”พฤษภาทมิฬ”จึงสงบจบลงได้!
ยุคนายกฯเหลี่ยมครองอำนาจรัฐ มีการโกงชาติกันระเบิดเถิดเทิง และยังเหิมเกริมถึงขั้นปฏิบัติการโค่นล้ม สถาบันพระมหากษัตริย์ที่ชาวไทยรักยิ่งชีวิต นายกฯเหลี่ยมจึงถูกพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง จนทหารออกมาทำรัฐประหารในปี 2549
คณะรัฐประหารนาม”คมช.”นำโดย“บิ๊กบัง” คิดว่าเหลี่ยมที่หมดอำนาจจะหมดน้ำยา จึงใช้แผนสมานฉันท์กับเหลี่ยมและพวก จนหลงเล่ห์ของเหลี่ยมเข้าจังเบอร์ ไม่มีการลงโทษนักการเมืองชั่ว ที่ทำผิดกฏหมายอย่างจริงจังเท่าที่ควร
ที่สำคัญไม่ปฏิรูปประเทศไทยทุกภาคส่วน เพื่อ”ปิดตาย”มิให้คนชั่วยึดอำนาจรัฐได้อีก และ“เปิดทาง”ให้คนดีได้ขึ้นบริหารชาติอย่างถาวร
แถมรัฐบาลที่”บิ๊กบัง”ตั้งยังเร่งให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น ทำให้”เหลี่ยม”กับนักการเมืองชั่ว ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง กลับมายึดอำนาจรัฐและโกงชาติได้อีกครั้งหนึ่ง
ที่เหลือเชื่อแต่เป็นเรื่องจริง คือ “บิ๊กบัง”ล้มรัฐบาลเหลี่ยมที่โกงชาติ! แต่กลับ”เลียน้ำลาย”ตนเอง โดย”บิ๊กบัง”ได้พลิกผันตัวเอง ไปเป็น”มือตีน”รับใช้รัฐบาล เครือข่ายของเหลี่ยมในภายหลังอีกด้วย!
รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม ยังคงโกงชาติเหมือนเคย จึงถูกพันธมิตรชุมนุมขับไล่อีกครา จนทหารกลุ่มหนึ่งได้ใช้วิธี“พลิกขั้ว”การเมือง ถีบ“ชายม่านรูด”ตกเก้าอี้นายกฯ ดัน“ชายหล่อ”ขึ้นเป็นนายกฯแทน แต่รัฐบาล“ชายหล่อ”ที่หน่อมแน้ม ก็โดนเหลี่ยมกับพวกก่อจลาจล กับก่อการร้ายถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทั้งเผาเมือง-ฆ่าทหารกับประชาชน สุดท้าย”ชายหล่อ”ก็ตัดสินใจพลาดด้วยการยุบสภา
ด้วย”ชายหล่อ”กับ”เทือก”เชื่อว่า “ยี้ห้อย”จะเอาชนะเหลี่ยม ในการเลือกตั้งที่ภาคอีสานได้ งานนี้..รัฐบาลรักษาการเลยต้องหาเงิน ทั้งลับและเปิดเผยกันจนอื้อฉาวไปเลย
แต่ใครล่ะ..จะมีเงินซื้อเสียงได้มากเท่าเหลี่ยม อีกทั้งนโยบายประชานิยมก็ติดลมบน ทำให้“ชายหล่อ”กับ“ยี้ห้อย”พ่ายแพ้เหลี่ยมยับเยิน
นายกฯ”สวย”มาแทนนายกฯ”หล่อ” โดยใช้นโยบาย”เหลี่ยมคิดปูทำ” นำชาติไทยดิ่งเหวในทุกมิติ แค่”จำนำข้าว”เรื่องเดียว รัฐบาลปูกลวงก็ผลาญและโกงเงินชาติ วอดวายไปกว่า 5-6 แสนล้านบาท มีการโกงกันแทบทุกขั้นตอน เงินจึงไปไม่ถึงมือชาวนาอย่างทั่วถึง จนชาวนาต้องฆ่าตัวตายไปกว่า 10 คน
นอกจากรัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม จะจงใจปล่อยให้การ”ล้มเจ้า”หนักข้อกว่าเดิมแล้ว รัฐบาลปูกลวงยังใช้วิธีเผด็จการรัฐสภา ออกกฏหมายล้างผิดคนชั่วและคนโกงอีกด้วย
คนไทยเกือบ 10 ล้านคนจึงออกมาขับไล่ แต่รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมไม่ยอมลงจากอำนาจ อีกทั้งยังส่งชายชุดดำออกมาเข่นฆ่า ผู้ชุมนุมที่มีเพียงสองมือเปล่า จนบาดเจ็บล้มตายไปอย่างมากมาย
ศึกไล่รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม จึงยืดเยื้อยาวนานมากกว่า 6 เดือน จนในที่สุดกองทัพก็จำต้องยึดอำนาจรัฐ คืนจากรัฐบาลปูที่เป็นหุ่นเชิดของเหลี่ยม ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
ท่ามกลางกระแสปฏิรูปชาติไทย ที่คนไทยเรียกร้องต้องการทั่วทุกหย่อมหญ้าเช่นนี้
“บิ๊กตู่”จะยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือนานแค่ไหน-ไม่สำคัญ! “บิ๊กตู่”จะสืบทอดอำนาจหรือไม่-ไม่สำคัญอีก! “บิ๊กตู่”จะขึ้นเป็นนายกฯเอง-ก็ไม่สำคัญเช่นกัน!
ที่สำคัญที่สุด-คือ-ผลประโยชน์ของชาติ ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกเหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้น “บิ๊กตู่”กับพวกที่เอาชาติมาลงทุนสูงลิบลิ่วในครั้งนี้ ต้องเร่งปฏิรูปประเทศไทยทุกมิติ เพื่อไม่ให้คนชั่วยึดอำนาจรัฐโกงชาติได้อีกต่อไป และจะต้องทำให้คนดีได้ขึ้นบริหารชาติอย่างถาวรอีกด้วย
ภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ “คนทำรัฐประหาร”หรือผู้นำที่รักชาติ ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็วที่สุด!
รัฐประหารห่วยๆในอดีตคือบทเรียน ให้“คนทำรัฐประหาร”ปัจจุบันได้เรียนรู้ ถึงสิ่งใดควรและไม่ควรต่อการใช้อำนาจเผด็จการ เพราะผลงานจะดีจะชั่วทั้งหมดที่เกิดขึ้น อยู่ที่”คนทำรัฐประหาร”จะต้องเลือกทำเท่านั้นเอง
“คนทำรัฐประหาร”สามารถใช้รัฐประหาร เป็นโอกาสทองทำให้ประชาชนรัก หรือทำให้ประชาชนผิดหวัง-เกลียด-ประณาม-สาปแช่ง ฯลฯได้ทั้งสิ้น
โอกาสทองเช่นนี้..มิได้เกิดขึ้นง่ายๆในชีวิตมนุษย์ แต่”โอกาสทอง”อันแสนวิเศษ ได้มา”ยืน”อยู่ตรงหน้า“คนทำรัฐประหาร”ประเทศไทยในวันนี้แล้ว..!!!