เผด็จการสุดๆ - เพื่อใครเท่านั้น?

สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

สังคมชาติใดเต็มไปด้วย “ผู้นำ”และ “ผู้ตาม”รักความถูกต้อง ชาตินั้นก็จะสงบศานติเจริญรุ่งเรือง ทั้งวัตถุอันจำเป็นและจิตใจอันงดงาม

ผมยังยืนยันว่า..เผด็จการรัฐสภาที่ใช้เงินซื้อเสียง-ยึดอำนาจรัฐ หรือเผด็จการทหารที่ใช้ปืน-ยึดอำนาจรัฐ ผลงานจะดีหรือชั่วอยู่ที่”ผู้นำ”ดีหรือชั่วเป็นสำคัญ

“ผู้นำดี”ย่อมทำผลงานดีเพื่อชาติและประชาชน ส่วน“ผู้นำชั่ว”จะมุ่งแต่โกยผลประโยชน์เพื่อตนและพวกพ้อง ดังนั้น ทั้งสองรัฐบาลเผด็จการล้วนมีโอกาส ที่จะทำดีหรือทำชั่วเหมือนกัน หากทำผลงานชั่วๆ-ก็โดนประณามสาปแช่ง แต่ถ้าทำผลงานดีๆ-ก็ได้รับคำชื่นชมสรรเสริญ

ตามหลักธรรม”ทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว” มิใช่ตามหลัก”ผีห่าซาตาน” ที่คนชั่วยึดถือ นั่นคือ“ทำดีได้ดีมีที่ไหน-ทำชั่วได้ดีมีถมไป”

เรื่องนี้..จึงชี้ขาดที่”ท่านผู้นำ” จะใช้อำนาจเผด็จการไปในทางดีหรือทางชั่วเท่านั้นแหละ!

วันที่ 22 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

วันที่ 23 กรกฎาคม 2557 ที่ทำเนียบรัฐบาล คสช.ได้จัดแถลงข่าวความเป็นมาของการจัดทำ และรายละเอียดของรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นผู้นำคณะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งสรุปสั้นๆ ได้ดังนี้

คสช.จะใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวนี้ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรมาแทนที่ หรือราว 1 ปีเศษ รัฐธรรมนูญชั่วคราวนี้จำง่ายๆว่า มีสิ่งสำคัญๆอยู่ 5 สิ่ง คือ

1.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ-จะมีสมาชิก 220 คน อายุต้องไม่น้อยกว่า 40 ปี มีสัญชาติไทย ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง งานนี้ไม่มีการสมัครใดๆทั้งสิ้น มาจาก”บิ๊กตู่”หรือหัวหน้า คสช. เป็นผู้คัดสรรชี้ขาดเแต่เพียงผู้เดียว

2. คณะรัฐมนตรี-จะมีนายกรัฐมนตรี 1 คน และรัฐมนตรีไม่เกิน 35 คน นายกรัฐมนตรีจะมาจากที่ใดก็ได้ เพราะจะเป็นในเวลาสั้นๆเพียง 1 ปีเท่านั้น จึงเปิดกว้างให้บุคคลทุกส่วนเข้ามาทำหน้าที่นี้ได้

อย่างไรก็ตาม..มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ ให้ครม.บริหารแผ่นดินตามปกติทั่วไปแล้ว ครม.ยังมีอำนาจในการปฏิรูปเรื่องต่างๆ และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ อันเป็นพันธกิจที่ครม.ต้องปฏิบัติอีกด้วย

3. สภาปฏิรูปแห่งชาติ-มีสมาชิกไม่เกิน 250 คน จากการสรรหา 77 จังหวัด รวม 77 คน อีกทั้งแต่ละจังหวัดจะมีคณะกรรมการสรรหา 1ชุด ทำหน้าที่สรรหาและเสนอชื่อ ผู้จะเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติให้ คสช. 5 คน เพื่อคสช.จะคัดเลือกเหลือแค่ 1 คน

ส่วนอีก 173 คนจะมาจากข้อกำหนด 11 ด้านอันได้แก่ ด้านการเมือง กฎหมาย การปกครองส่วนท้องถิ่น การศึกษา เศรษฐกิจ สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม พลังงาน สื่อสารมวลชน และอื่นๆ

โดยจะมีคณะกรรมการสรรหาด้านละ 1 ชุด ใช้วิธีเสนอชื่อโดยไม่มีการเปิดรับสมัคร ต้องมีองค์กรหรือนิติบุคคลหรือสถาบันการศึกษา เสนอชื่อได้องค์กรละ 2 คน โดยระบุว่าจะเข้ามาปฏิรูปด้านใด ก่อนจะส่งให้ คสช.เลือกให้เหลือเพียง 173 คน รวมแล้วจะมีคนเข้าสภาปฏิรูปทั้งหมด 250 คนเท่านั้น

4. คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ-จะมีแค่ 36 คนเท่านั้น มีเวลาร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จใน 120 วัน กรรมาธิการต้องไม่เคยดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง รวมทั้งไม่เคยอยู่ในองค์กรอิสระ และทั้ง 36 คนนี้จะดำรงตำแหน่งการเมืองใดๆ หลังพ้นจากหน้าที่นี้ในเวลา 2 ปีไม่ได้อีกด้วย โดยต้องร่างฯรัฐธรรมนูญภายใต้ กรอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรอบของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เป็นต้น

5. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ-รัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติให้คงไว้ เพื่อกำกับดูแลในเรื่องความมั่นคง และกระบวนการต่างๆให้ดำเนินไป ตามเป้าหมายที่ คสช.ต้องการ จำนวนสมาชิก คสช.จะเพิ่มเติมได้ แต่จะต้องไม่เกิน 15 คน

คสช.จะมีอำนาจหน้าที่แจ้งให้ ครม.ทราบ เพื่อดำเนินการใดๆที่เห็นสมควร มีอำนาจหน้าที่เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง ดังนั้น หัวหน้า คสช.จึงมีอำนาจสั่งการระงับยับยั้ง หรือกระทำการใดๆได้และให้ถือว่า การนั้นชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ แต่ให้รายงานต่อประธาน สนช. และนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว

คสช.จะต้องทำงานร่วมกับ ครม. ทั้งในลักษณะของการปรึกษา การแจ้งให้ ครม.ทราบ ฯลฯ

แต่เพื่อให้”ยักษ์ คสช.”มีฤทธิ์เดชในการทำงานเต็มที่ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวนี้ จึงให้อำนาจพิเศษกับ คสช.แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหนือนิติบัญญัติ-บริหาร-ตุลาการอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ คสช.ดูแลการทำงานของทุกภาคส่วน ให้บรรลุเป้าหมายที่ คสช.ต้องการ

อย่าลืมนะว่า..“บิ๊กตู่”เป็นผู้คัดสรรสมาชิก สนช. เมื่อคุมสภา สนช.ได้ เรื่องตั้งเรื่องถอดถอนนายกรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่อง “จิ๊บๆ”สำหรับ “ยักษ์ คสช.”ไปโดยปริยาย

เป้าหมายจริงๆของ คสช.เป็นเช่นไร-ไม่รู้ได้ แต่เป้าหมายคนไทยส่วนใหญ่ อยากให้”ยักษ์ คสช.”ขจัดการยึดอำนาจรัฐ ด้วยการใช้เงินซื้อเสียงของเหล่าคนชั่ว ผ่านช่องทางการเลือกตั้งให้ได้ รวมทั้งทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมืองครับ

ชาวไทยที่ดีไม่ว่ากระไรดอก ถ้า “ยักษ์ คสช.”จะใช้”กระบองวิเศษ” ไปปราบปรามคนชั่ว หรือทำดีให้กับชาติและประชาชน

เพียงแต่”ยักษ์ คสช.”ต้องใช้”กระบองวิเศษ” เพื่อแก้ต้นเหตุปัญหาชั่วร้ายของชาติให้หมดไป มิใช่”ยักษ์ คสช.”บ้าอำนาจหรือ”เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” จนถึงขั้นใช้”กระบองวิเศษ”ไปอภิบาลคนชั่ว หันกลับมาทำร้ายคนดีที่รักชาตินะเฟ้ย..

ตามคำแถลง คสช.เชื่อว่า ในระยะเวลา 1 ปีเศษ ที่”ยักษ์ คสช.”มี”กระบองวิเศษ”ไว้ในมือเช่นนี้ จะแก้ปัญหาที่ค้างคาและชนวนความขัดแย้ง ให้เป็นผลสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง(เท่านั้น)! “ระดับหนึ่ง”นั้นแค่ไหนล่ะ? คุ้มค่ากับการที่ชาติเกิดการรัฐประหารในครั้งนี้หรือไม่?

จริงๆแล้วต้นเหตุปัญหาชั่วร้ายของชาติไทย มิได้สลับซับซ้อนอะไรเลย เพราะต้นเหตุความแตกแยกของคนไทยยุคนี้ เกิดขึ้น-บานปลายเป็นวงกว้าง-ยืดเยื้อยาวนาน ก็เพราะ “คนชั่วโกงเลือกตั้ง” จนได้ขึ้นบริหารบ้านเมือง และโกงชาติอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยไม่เกรงกลัวกฏหมายแม้แต่น้อย แถมทำผิดจนถูกจับได้คาหนังคาเขา ก็ยังใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภา ออกกฏหมายนิรโทษคนโกงชาติอย่างหน้าด้านๆอีกด้วย

คนชั่วใช้การโกหก-ใช้นโยบายประชานิยม-ใช้เงินซื้อเสียง ยึดอำนาจรัฐผ่านช่องทางเลือกตั้งสกปรกได้เพราะ..

หนึ่ง-กฏกติกาที่สมาชิกสภาฯต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น สอง-กกต.ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมได้ สาม-จึงทำให้คนชั่วใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดรัฐสภาและรัฐบาลไว้ในกำมือ สี่-เพื่อใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภาและรัฐบาลขี้โกง บงการกลไกรัฐให้ปล้นชาติปล้นประชาชน โกยเงินเข้ากระเป๋าตนกับพวกพ้อง และเตรียมไว้ซื้อเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป

“ความสุขชั่วคราว” ที่ไม่ถาวรของชาวไทย จะสลายหายวับกลายเป็นความทุกข์ และความแตกแยกรุนแรงแบบซ้ำซากทันที หากรัฐบาลเครือข่ายคนชั่ว หวนกลับมาครองอำนาจรัฐได้อีก อันหมายถึง”ยักษ์ คสช.”ยังแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติไม่ได้นั่นเอง

แต่ถ้า คสช.ใช้อำนาจเผด็จการสุดๆอย่างสร้างสรรค์ จนทำให้คนดีขึ้นปกครองบ้านเมืองได้สำเร็จ คนไทยทั้งชาติก็จะปรองดองกันได้อย่างแท้จริง คำแซ่ซ้องสรรเสริญก็จะเกิดกับ คสช.ทุกคน

“ยักษ์เหลี่ยม”ที่ใช้เงินยึดอำนาจรัฐนั้น ทำชั่วมากมายจึงถูกคนไทยขับไล่ไปอยู่ต่างแดนแล้ว!

“ยักษ์ คสช.”มี”กระบองวิเศษ” จะ”ทำดี-ได้ดี”หรือ”ทำชั่ว-ได้ชั่ว” ทำใจร่มๆ ตามดูกันต่อไป!