“ลินคอล์น”เตือน”ผู้นำโกหก”?

สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ก่อนอื่นต้องเข้าใจตรงกันเสียก่อนนะว่า บางเรื่องบางสิ่งบางอย่าง”คน”จะเป็นสิ่งชี้ขาด!

เงิน-หากอยู่ในมือ”คนดี”ย่อมถูกใช้ในทางสร้างสรรค์ ให้กับสังคมและผู้ด้อยโอกาสกว่า แต่”คนชั่ว”จะใช้เงินไปในทางชั่วร้าย ดังมหาเศรษฐีเหลี่ยมใช้เงิน ไปกับการซื้อเสียงเลือกตั้ง เพื่อยึดอำนาจรัฐสภาและรัฐบาล ก่อนจะใช้กลไกรัฐโกงชาติ และสนับสนุนพวก”ล้มเจ้า”อีกด้วย

ปืน-หากอยู่ในมือ”คนดี”ย่อมถูกใช้ ไปในทางที่ดีหรือ”ป้องกันตัว” ดังตำรวจดีทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ใช้ปืนจับโจรหรือวิสามัญโจรที่ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ หรือทหารหาญของชาติใช้ปืน ต่อสู้ปกป้องแผ่นดินไทยกับต่างชาติผู้รุกราน ฯลฯ

แต่“คนชั่ว”จะใช้ปืนไปปล้นฆ่าผู้คน หรือลอบเข่นฆ่าคนดีกับทหารที่ 3 จังหวัดภาคใต้ หรือ”คนชั่ว”ขี้ข้าของเหลี่ยม ก่อการร้ายเพื่อล้มรัฐบาล”มาร์ค” ด้วยการใช้ปืนนานาชนิดเข่นฆ่า ทหารกับประชาชนตายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งใช้ปืนลอบสังหารผู้ชุมนุม ที่ต่อต้านรัฐบาลชั่วของเหลี่ยมอีกด้วย

อำนาจรัฐ-หากอยู่ในมือ”คนดี”ย่อมถูกใช้ไปในทาง ทำเพื่อชาติและประชาชนส่วนใหญ่ แต่”คนชั่ว”จะใช้อำนาจรัฐในทางชั่วร้าย เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตนและพวก ด้วยการปล้นชาติปล้นประชาชน ฯลฯ

เงิน-ปืน-อำนาจรัฐ”คนใช้”ดีหรือชั่ว ฟังจากวาทะกรรมขี้โม้หรือโกหกไม่ได้เด็ดขาด แต่ต้องดูจาก”ผลงานจริง”ที่ประจักษ์ต่อสายตาเท่านั้น!

รัฐบาล-เผด็จการรัฐสภาทุนสามานย์ ที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งยึดอำนาจรัฐ กับ รัฐบาล-เผด็จการทหารที่ใช้ปืนทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐ “ผู้นำรัฐบาล”ทั้งสองรูปแบบ ล้วนมี”โอกาสทอง”ที่จะทำดีและทำชั่ว ให้กับชาติและประชาชนได้เหมือนกัน!

แต่รัฐบาลที่ผ่านมาทั้งสองรูปแบบ หาดียากยิ่งกว่า”งมเข็มในมหาสมุทร” ที่ดีจนเป็นที่ประจักษ์ชัด ของคนไทยแล้ว คือ รัฐบาลของ”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ส่วนรัฐบาลชั่วสุดใจเหนือใครทั้งปวง คือ รัฐ
บาลของเหลี่ยมนั่นเอง

ทุกรัฐบาลของเหลี่ยมที่ผ่านมา ได้โกหกประชาชนว่าเป็น”ประชาธิปไตย” ทั้งๆที่เป็นเผด็จการไม่ต่างจาก”คสช.”เลย เพียงแต่เผด็จการรัฐสภาแบบเหลี่ยม มีการแจกเงินให้ต้องไปลงคะแนนเสียง ส่วนเผด็จการทหารแบบ”บิ๊กตู่” ไม่ได้เงินและไม่ต้องไปลงคะแนนเสียงให้เสียเวลา

“เจมส์ แมดิสัน” ประธานาธิบดีคนที่ 4 หนึ่งในผู้ร่างรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น”บิดารัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา” ได้ร่วมทำงานนี้กับ”อเล็กซานเดอร์ ฮามิลตัน”และ”จอห์น เจย์” ระบุว่า

“การรวบอำนาจไม่ว่าจะนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ไว้ในมือคนกลุ่มเดียว ไม่ว่าจะเป็นแค่คนเดียวหรือหลายคน ไม่ว่าจะมาด้วยการสืบทอด แต่งตั้งหรือเลือกตั้ง ล้วนแต่เป็นระบบเผด็จการ”

”รัฐบาล”จะมาจาก”การใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง”หรือ”การใช้ปืนทำรัฐประหาร” เมื่อขึ้นบริหารชาติ บ้านเมืองก็ต้องถือว่าเป็น”นักการเมือง”ด้วยกันทั้งนั้น “นิกิต้า ครุซอฟ” อดีตผู้นำสหภาพโซเวียต ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งแรกของโลก ที่ผงาดขึ้นเทียบเทียมสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้นำโลกทุนนิยมสามานย์ กล่าวถึงสันดานโกหกของนักการเมืองว่า

“นักการเมืองล้วนเหมือนกันหมด คือสัญญาว่าจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำให้ในที่ซึ่งไร้แม่น้ำ”

งานแบบนี้ต้องยกให้ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” เผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนเหลี่ยมเป๊ะเลย ได้โกหกจนจนนำชาวเยอรมันทั้งชาติ เปิดศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ ด้วยสูตรโกหกชั้นเยี่ยมที่ว่า

“ควรทำให้การโกหก เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แต่ควรทำให้มันดูเรียบง่ายธรรมดา และโกหกให้ถี่ๆเข้าไว้ แล้วคนก็จะเชื่อเอง”

สันดาน”เหลี่ยมกับปู”ช่างเหมือน”ฮิตเลอร์”ราวกับแกะ เพราะ”โกงจนชิน”หาเสียงโกหกคนทั้งชาติซึ่งๆหน้าว่า จะยุบกองทุนน้ำมัน-จะลดราคาน้ำมัน-จะกระชากราคาสินค้าแพงลงมา แต่พอได้เป็นรัฐบาลก็ทำตรงกันข้ามหมด

งานนี้..พฤติกรรม”เหลี่ยมกับปู” ไปตรงกับข้อสรุปของ”อิสคานเดอร์ แมร์ซา” อดีตประธานาธิบดี
คนแรกของปากีสถาน ที่เกิดในปีค.ศ.1899 และเสียชีวิตในกรุงลอนดอนในปี ค.ศ.1969 ได้พูดถึง”เนื้อหา”ที่สำคัญที่สุดไว้ดังนี้

“ประชาธิปไตย คือ ความหน้าไหว้หลังหลอกอย่างไม่มีข้อจำกัด”

ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา “โทมัส เจฟเฟอร์สัน” ได้เสนอต่อประชาชนแบบตรงไปตรงมาว่า

“ศัตรูของประชาชนมีสองอย่าง คือ อาชญากรและรัฐบาล ประชาชนจึงควรพันธนาการรัฐบาล เอาไว้กับตรวนแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อที่รัฐบาลจะได้ไม่กลายเป็นอาชญากรโดยถูกกฏหมาย”

ทั้งนี้เพราะการเลือกตั้งไม่เคยบริสุทธิ์ยุติธรรม นักการเมืองทุกคนมุ่งสู่ชัยชนะ ด้วยการโกงและใช้เงินซื้อเสียงตลอดเวลา โดยมหาอำนาจที่อ้างตนเป็นประชาธิปไตย ทั้งอเมริกาและชาติตะวันตก ก็มุ่งแต่จะกอบโกยผลประโยชน์ จากรัฐบาลชั่วๆในชาติที่อ่อนแอกว่า จึงไม่สนใจการเลือกตั้งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่เต็มไปด้วยการโกงและการซื้อเสียงแม้แต่น้อย

“เฮนรี่ หลุยส์ เมนเคน” จึงระบุถึงการยึดอำนาจรัฐ โดยผ่านวิธีการเลือกตั้งไว้อย่างน่าสนใจว่า

“การเลือกตั้งทุกครั้ง ก็ไม่ต่างไปจากการประมูล ขายสินค้าที่ลักขโมยมา”

ตามมาด้วยคำพูดของ “เจฟฟรีย์ ฟิชเชอร์” ตอกย้ำแบบ”ขวานผ่าซาก”ว่า

“ท่านบอกว่าประชาธิปไตยคือเสรีภาพ แต่ข้าพเจ้าเรียกว่า บรรษัทจำกัด”

ต้องยกนิ้วให้ “อัลฟองส์ เดอ ลามาร์ทีน” ซึ่งสรุปได้สุดยอดชนิดไม่ต้องขยายความอีกเลยว่า

“ยิ่งสัมผัสผู้แทนราษฏร อันทรงเกียรติ์มากเท่าไร ก็ยิ่งรักหมาของผมมากขึ้นเท่านั้น”

ประวัติศาสตร์ไทยและโลก ได้สอนให้ผู้คนรู้ว่า มิใช่รัฐบาลเผด็จการทุนสามานย์ จะโกหกและโกงเก่งเท่านั้นนะ รัฐบาลเผด็จการทหารบางราย ก็โกหกไฟแลบเก่งเหมือนกันนะจะบอกให้

ในยุคของ “อับบราฮัม ลินคอล์น” ของชาวมะกัน จงใจจะบอกกับผู้มีอำนาจได้รับรู้ว่า มนุษย์มิได้โง่งมให้หลอกกันได้ง่ายๆนะ ยิ่งในยุคสังคมโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว ใครที่มีอำนาจในปัจจุบันและในอนาคต พึงระวังให้จงหนักว่า“ความลับไม่มีในโลก”

ใครบ้างที่ประกาศปาวๆว่า “ต้องถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณ” แลัววันนี้ทำเมินเฉย? ใครบ้างที่จงใจมองข้าม-ละเลย หรือแกล้งโง่ไม่จัดการแก้ปัญหา ต้นเหตุอันตรายของชาติและพระมหากษัตริย์? ใครบ้างที่แอบไป”ซูเอี๋ย”กันลับๆ กับ”ตัวการบ่อนทำลายความมั่นคง”ประเทศไทย?

ระวัง..”ความลับ”จะแตกดังโผล๊ะจนทำให้ใครบางคนเสียผู้เสียคนนะจะบอกให้!

วันนี้“บิ๊กตู่” แห่ง “คสช.”ทำดีมากมายหลายเรื่อง-ต้องชมเชย แต่ทำหลายเรื่อง-ชวนกังขา เช่น ทำไมตัวการใหญ่ตระกูล”โกงจนชิน” ต้นเหตุอันตรายของชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ทำไมยังลอยนวล?

อีกหลายเรื่องยังขมุกขมัว-ไม่ชัดเจน เช่น “บิ๊กตู่”จะปฏิรูปทุกภาคส่วนมากน้อยแค่ไหน? ปฏิรูปการเลือกตั้งไม่ให้ใช้เงินซื้อเสียงได้อย่างไร? ปฏิรูปมิให้คนชั่วมีอำนาจ และทำให้คนดีขึ้นปกครองบ้านเมืองได้อย่างไร? เป็นต้น

อีกหลายเรื่องที่ต้องทำทันที-กลับไม่ทำ เช่น ความผิดของเหลี่ยมถูกศาลตัดสินไปแล้ว แต่การถอดยศตำรวจของเหลี่ยม ”ค้างเติ่ง”แบบผิดปกติเช่นนี้เพราะอะไร? ถอนพาสปอร์ตขี้ข้าเหลี่ยม แต่พาสปอร์ตเล่มแดงของเหลี่ยม ตัวการสร้างความเลวร้ายในชาติไฉนไม่ถอน? เป็นต้น

บางเรื่องไม่ควรทำ-ก็ดันทำ เช่น ปิดเอเอสทีวีที่ต่อสู้กับคนโกงชาติและล้มเจ้า ด้วยข้ออ้างว่าเป็นทีวีที่สร้างความขัดแย้ง แต่ดันไปเปิด”วอยซ์”ทีวีของเหลี่ยม กับ”ทีนิวส์”ของแกนนำกปปส. ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงหน้าตาเฉย เป็นต้น

สุดท้าย-ขอจบด้วยคำพูดของ “ลุงลินคอล์น” ประธานาธิบดีผู้เลิกทาสในสหรัฐอเมริกา ที่กล่าวอมตะวาจาเตือน ”ผู้นำคน”ให้จริงใจต่อคนมากมายที่ไม่โง่แล้ว ดังนี้

“คุณอาจจะหลอก ทุกคนได้ในบางเวลา หรืออาจจะหลอก บางคนได้ตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถ หลอกทุกคนได้ตลอดเวลา”!!!

ขอบคุณ “เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสกี้” ที่ไม่รู้จัก แต่เธอเป็น “คนสะสมถ้อยคำ” มากมาย ไว้ในหนังสือดีน่าซื้ออ่านชื่อ “ประชาธิปไตยอันขื่นขำ” ซึ่งผมหยิบมาใช้เพียงน้อยนิดไว้ ณ ที่นี้ด้วย