วันก่อน “เหลี่ยม จ้าวโลก” อาชญากรหนีคุกเร่ร่อนนานาชาติ ยืนข้างๆ ป้ายไฟจราจร บอกว่า “wait” หรือ “รอ” ในต่างประเทศ ลูกสาวตัวแสบสื่อข้อความ “เราไม่รีบร้อน” เป็นการส่งสัญญาณว่า อีกไม่นานจะหวนคืนสู่สภาพการกุมอำนาจรัฐแน่นอน ชัดเจน
เป็นคำประกาศด้วยความมั่นใจ มีมูลเหตุ เชื่อว่าตราบใดที่ยังมีเงินทองทุนการเมืองมหาศาลของตระกูลและเครือข่ายขี้ข้าผีโม่แป้ง ย่อมไม่มีอุปสรรคขวางกั้น ตราบใดที่ยังมีเสรีภาพเคลื่อนไหว ไม่มีคดีต้องให้ถูกจองจำ อายัดยึดทรัพย์สิน
เมื่อได้ฟังคำประกาศของหัวหน้าคณะรักษาความสงบฯ ว่าจะมีการเลือกตั้งภายในสิ้นปีหน้า บักเหลี่ยมคงแทบสำลักความสุข หัวใจแทบกระดอนออกจากปาก ไม่นึกว่า คสช.จะยอมให้มีการเลือกตั้งพร้อมกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อประชาธิปไตยแบบทุนสามานย์
ช่วงแรกหลังจากการรัฐประหาร ชาวบ้านทั่วไปคงนึกว่า คสช.จะหยุดพักการเมืองชั่วร้ายสัก 5 ปี หรือมากกว่านั้น ตามคำเรียกร้องของประชาชนให้ปฏิรูปการเมือง วางโครงสร้างใหม่ ฟื้นฟูระบบต่างๆ ที่เสื่อมโทรมภายใต้ระบอบบักเหลี่ยม
ใครจะนึกว่า คสช.จะเดินตามรอยอีหรอบเดียวกับชาวคณะขิงแก่ นำร่องด้วยนโยบายการปรองดองสมานฉันท์ เปิดทางให้ระบอบบักเหลี่ยมคืนสู่อำนาจรัฐผ่านมือของ “สมัคร สุนทรเวช” ตามด้วย “ชายตู้เย็น ณ ม่านรูด” บ้านเมืองวุ่นแทบวอดวาย
ความพยายามปรองดอง เหมือนเอาน้ำมันมาผสมกับน้ำให้กลมกลืนประสานกัน เอาแก้วร้าวมาทากาวตราช้างกลบเกลื่อนรอยแยก แล้วเสแสร้งว่าทุกฝ่ายลืมความหลังครั้งเก่าหมดสิ้น จากนี้จะแยกเขี้ยวยิ้มให้กันทุกเวลาหลังอาหารและก่อนขี้เยี่ยวอีกด้วย
คณะรัฐประหารหวังว่า นปช. และเสื้อเหลือง เสื้อสีฟ้า และกลุ่มคนดีอื่นๆ ในสังคมจะร่วมอยู่กันแบบสมานฉันท์ บ้านเมืองอยู่ในสภาพสงบสุข ฟ้าสีทองผ่องอำไพ และที่รู้แน่ๆ คือประชาชนยังไม่ได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน จนกว่ากลุ่มชั่วร้ายจะถูกกำจัด
คำถามง่ายๆ บักเหลี่ยม เครือข่ายตระกูล และพวกแกนนำเสื้อแดง จะยอมขอปรองดอง เลิกละพฤติกรรมชั่วร้าย โกงบ้านกินเมืองได้อย่างไร เมื่อยังมีคดีติดตัว จะให้เอาหัวซุกทรายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปัญหา ซึ่งเป็นต้นตอของการรัฐประหารเช่นนั้นหรือ
ถ้ายอมปรองดอง เหลี่ยม จ้าวโลก คงไม่ยืนรอที่ป้าย “wait” ยิ้มแสยะเยาะเย้ย ลูกสาวคงไม่บอก “เราไม่รีบร้อน” หรอก...หรือ คสช.อ่านสัญญาณนี้ไม่ออก...หรือรับรู้แล้ว แต่มีมาตรการเด็ดขาดเยี่ยมยุทธเพื่อจัดการระบอบบักเหลี่ยมให้สิ้นฤทธิ์ภายหลัง
ไม่เห็นเรอะว่าพวกขี้ข้าบักเหลี่ยม ผีโม่แป้ง ทาสเงินของบักเหลี่ยมยังหลบอยู่ต่างประเทศ ตั้งองค์กรเสรีโจ๊ก โดยมีทุนสนับสนุนเต็มที่ด้านค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนไหว กินอยู่อาศัย พวกนี้ไม่มีฐานะร่ำรวย แต่อยู่เมืองนอกได้นานๆ คงมีเงินจากบักเหลี่ยมแน่
แกนนำเสื้อแดงต่างพากันกบดาน ซุ่มเงียบ ใช้เงินบำเรอชีวิต เพราะทรัพย์สินที่ได้มาจากการยอมเป็นทาสบักเหลี่ยมมีมากพอที่จะเสวยสุข ขณะที่คนดีชุมนุมขับไล่ขบวนการบักเหลี่ยมติดอยู่ในกับดักคดีความร้ายแรง เช่น ก่อการร้าย กบฎ โทษหนัก
เดี๋ยวนี้คนไทยฟังเพลงคืนความสุขทุกเย็นย่ำค่ำเช้า แต่อมทุกข์เต็มปาก เต็มหัวอก เพราะ คสช.ยังไม่ได้บอกให้บักเหลี่ยมเข้าสู่ขบวนการปรองดองสมานฉันท์ ลดละเลิกจากความพยายามบ่อนทำลายประเทศไทยด้วยแนวพฤติกรรมใช้โลกล้อมประเทศ
จะให้คนดียื่นมือไปจับกับอีกฝ่ายบักเหลี่ยมที่ยื่นกำปั้นพร้อมสนับมืองั้นเรอะ?!
เอาเถอะ! เมื่อ คสช.เดินหน้าชักชวนให้มีการปรองดอง ต้องมีคำตอบว่า ถ้าคนดีเชื่อฟังด้วยการยอมมองโลกสวยตามไปด้วยแล้ว จะทำให้แกนนำเสื้อแดง เหลี่ยม จ้าวโลก และพวกยินยอมละทิ้งความอาฆาตพยาบาท ไม่ล้างแค้นคนดีในอนาคตได้อย่างไร
คำพูดของเหลี่ยม จ้าวโลก น่าเชื่อถืออยู่หรือเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ!
ได้แต่หวังว่า คสช.ยังมีมาตรการสุดยอดในการสกัดกั้นไม่ให้นักการเมืองชั่วร้ายหน้าเดิมๆ หวนคืนสู่อำนาจด้วยการใช้เงินทุ่มซื้อเสียง ทุกวันนี้ยังเร่งเขียนกฎต่างๆ ใหม่ เพื่อการปฏิรูป บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ก่อนการเลือกตั้งภายในปีหน้าตามคำประกาศ
จากวันนี้จนถึงวันนั้น จะมีสถานการณ์แปรผัน ทำให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะการเลือกตั้งคือ “การคืนสุขให้นักการเมืองสามานย์” ขณะที่ประชาชนทั่วไปยังไม่ได้ลิ้มรสความสุขแท้จริงด้วยซ้ำ ทุกวันเพียงแต่มีปัญหาความไม่สงบน้อยลงกว่าเดิม
ไม่มีใครยิงปืน เครื่องยิงระเบิด ปาระเบิด ลอบสังหาร การบาดเจ็บล้มตายอย่างที่เคยเป็นมาก่อนรัฐประหาร แต่ด้านโครงสร้างยังไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีการปฏิรูปซึ่งยังต้องใช้เวลากว่าจะเป็นผลสำเร็จ การปฏิรูปไม่ได้เกิดง่ายๆ เหมือนเปลี่ยนกางเกงใน
ความสุขจำแลงแบบแกนๆ เพิ่งมีได้เดือนกว่าๆ ต้องมาผวากับความเป็นไปได้ที่ระบอบบักเหลี่ยมจะหวนคืนสู่อำนาจรัฐ ข้าราชการที่ยังจงรักภักดีบักเหลี่ยมยังอยู่พร้อมหน้ารอนายใหญ่จะใช้เงินกรุยทางให้พลังแค้นได้ “เอาคืนประเทศไทย” มีคนดีเป็นเหยื่อ
ย้ำอีกครั้ง ทุกวันนี้บักเหลี่ยม ครอบครัว เครือข่ายญาติมิตรขี้ข้ายังอยู่สุขสบายดี มาตรการทางกฎหมาย สอบสวนต่างๆ ยังเป็นไปโดยความรวดเร็วระดับหอยทาก ทั้งยังมีข้อให้สงสัยว่าปลาตัวใหญ่จะรอด มีเพียงพวกกระจอกปลายแถวที่ต้องรับโทษอาญา
เป็นการเกี๊ยะเซี้ย อวยกันหรืออย่างไร ชาวบ้านทั่วไปได้แต่มีคำถามที่ไร้คำตอบ! ซ้ำร้าย ถ้าไม่ยอมมองโลกให้สวยตามคำชักชวนให้ปรองดอง อาจเคราะห์ร้ายอีกด้วย ถ้าจะไม่ให้เกิดปัญหาต้องฟังคำเตือนว่าใจเย็นๆ ผู้มีอำนาจกำลังจัดการเป็นขั้นตอน
เกิดมามีมือเท้าเหมือนกัน คนละหนึ่งเสียง แต่มีสิทธิ อำนาจ หัวโขน ต่างกัน!
เป็นคำประกาศด้วยความมั่นใจ มีมูลเหตุ เชื่อว่าตราบใดที่ยังมีเงินทองทุนการเมืองมหาศาลของตระกูลและเครือข่ายขี้ข้าผีโม่แป้ง ย่อมไม่มีอุปสรรคขวางกั้น ตราบใดที่ยังมีเสรีภาพเคลื่อนไหว ไม่มีคดีต้องให้ถูกจองจำ อายัดยึดทรัพย์สิน
เมื่อได้ฟังคำประกาศของหัวหน้าคณะรักษาความสงบฯ ว่าจะมีการเลือกตั้งภายในสิ้นปีหน้า บักเหลี่ยมคงแทบสำลักความสุข หัวใจแทบกระดอนออกจากปาก ไม่นึกว่า คสช.จะยอมให้มีการเลือกตั้งพร้อมกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อประชาธิปไตยแบบทุนสามานย์
ช่วงแรกหลังจากการรัฐประหาร ชาวบ้านทั่วไปคงนึกว่า คสช.จะหยุดพักการเมืองชั่วร้ายสัก 5 ปี หรือมากกว่านั้น ตามคำเรียกร้องของประชาชนให้ปฏิรูปการเมือง วางโครงสร้างใหม่ ฟื้นฟูระบบต่างๆ ที่เสื่อมโทรมภายใต้ระบอบบักเหลี่ยม
ใครจะนึกว่า คสช.จะเดินตามรอยอีหรอบเดียวกับชาวคณะขิงแก่ นำร่องด้วยนโยบายการปรองดองสมานฉันท์ เปิดทางให้ระบอบบักเหลี่ยมคืนสู่อำนาจรัฐผ่านมือของ “สมัคร สุนทรเวช” ตามด้วย “ชายตู้เย็น ณ ม่านรูด” บ้านเมืองวุ่นแทบวอดวาย
ความพยายามปรองดอง เหมือนเอาน้ำมันมาผสมกับน้ำให้กลมกลืนประสานกัน เอาแก้วร้าวมาทากาวตราช้างกลบเกลื่อนรอยแยก แล้วเสแสร้งว่าทุกฝ่ายลืมความหลังครั้งเก่าหมดสิ้น จากนี้จะแยกเขี้ยวยิ้มให้กันทุกเวลาหลังอาหารและก่อนขี้เยี่ยวอีกด้วย
คณะรัฐประหารหวังว่า นปช. และเสื้อเหลือง เสื้อสีฟ้า และกลุ่มคนดีอื่นๆ ในสังคมจะร่วมอยู่กันแบบสมานฉันท์ บ้านเมืองอยู่ในสภาพสงบสุข ฟ้าสีทองผ่องอำไพ และที่รู้แน่ๆ คือประชาชนยังไม่ได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน จนกว่ากลุ่มชั่วร้ายจะถูกกำจัด
คำถามง่ายๆ บักเหลี่ยม เครือข่ายตระกูล และพวกแกนนำเสื้อแดง จะยอมขอปรองดอง เลิกละพฤติกรรมชั่วร้าย โกงบ้านกินเมืองได้อย่างไร เมื่อยังมีคดีติดตัว จะให้เอาหัวซุกทรายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปัญหา ซึ่งเป็นต้นตอของการรัฐประหารเช่นนั้นหรือ
ถ้ายอมปรองดอง เหลี่ยม จ้าวโลก คงไม่ยืนรอที่ป้าย “wait” ยิ้มแสยะเยาะเย้ย ลูกสาวคงไม่บอก “เราไม่รีบร้อน” หรอก...หรือ คสช.อ่านสัญญาณนี้ไม่ออก...หรือรับรู้แล้ว แต่มีมาตรการเด็ดขาดเยี่ยมยุทธเพื่อจัดการระบอบบักเหลี่ยมให้สิ้นฤทธิ์ภายหลัง
ไม่เห็นเรอะว่าพวกขี้ข้าบักเหลี่ยม ผีโม่แป้ง ทาสเงินของบักเหลี่ยมยังหลบอยู่ต่างประเทศ ตั้งองค์กรเสรีโจ๊ก โดยมีทุนสนับสนุนเต็มที่ด้านค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนไหว กินอยู่อาศัย พวกนี้ไม่มีฐานะร่ำรวย แต่อยู่เมืองนอกได้นานๆ คงมีเงินจากบักเหลี่ยมแน่
แกนนำเสื้อแดงต่างพากันกบดาน ซุ่มเงียบ ใช้เงินบำเรอชีวิต เพราะทรัพย์สินที่ได้มาจากการยอมเป็นทาสบักเหลี่ยมมีมากพอที่จะเสวยสุข ขณะที่คนดีชุมนุมขับไล่ขบวนการบักเหลี่ยมติดอยู่ในกับดักคดีความร้ายแรง เช่น ก่อการร้าย กบฎ โทษหนัก
เดี๋ยวนี้คนไทยฟังเพลงคืนความสุขทุกเย็นย่ำค่ำเช้า แต่อมทุกข์เต็มปาก เต็มหัวอก เพราะ คสช.ยังไม่ได้บอกให้บักเหลี่ยมเข้าสู่ขบวนการปรองดองสมานฉันท์ ลดละเลิกจากความพยายามบ่อนทำลายประเทศไทยด้วยแนวพฤติกรรมใช้โลกล้อมประเทศ
จะให้คนดียื่นมือไปจับกับอีกฝ่ายบักเหลี่ยมที่ยื่นกำปั้นพร้อมสนับมืองั้นเรอะ?!
เอาเถอะ! เมื่อ คสช.เดินหน้าชักชวนให้มีการปรองดอง ต้องมีคำตอบว่า ถ้าคนดีเชื่อฟังด้วยการยอมมองโลกสวยตามไปด้วยแล้ว จะทำให้แกนนำเสื้อแดง เหลี่ยม จ้าวโลก และพวกยินยอมละทิ้งความอาฆาตพยาบาท ไม่ล้างแค้นคนดีในอนาคตได้อย่างไร
คำพูดของเหลี่ยม จ้าวโลก น่าเชื่อถืออยู่หรือเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ!
ได้แต่หวังว่า คสช.ยังมีมาตรการสุดยอดในการสกัดกั้นไม่ให้นักการเมืองชั่วร้ายหน้าเดิมๆ หวนคืนสู่อำนาจด้วยการใช้เงินทุ่มซื้อเสียง ทุกวันนี้ยังเร่งเขียนกฎต่างๆ ใหม่ เพื่อการปฏิรูป บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ก่อนการเลือกตั้งภายในปีหน้าตามคำประกาศ
จากวันนี้จนถึงวันนั้น จะมีสถานการณ์แปรผัน ทำให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะการเลือกตั้งคือ “การคืนสุขให้นักการเมืองสามานย์” ขณะที่ประชาชนทั่วไปยังไม่ได้ลิ้มรสความสุขแท้จริงด้วยซ้ำ ทุกวันเพียงแต่มีปัญหาความไม่สงบน้อยลงกว่าเดิม
ไม่มีใครยิงปืน เครื่องยิงระเบิด ปาระเบิด ลอบสังหาร การบาดเจ็บล้มตายอย่างที่เคยเป็นมาก่อนรัฐประหาร แต่ด้านโครงสร้างยังไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีการปฏิรูปซึ่งยังต้องใช้เวลากว่าจะเป็นผลสำเร็จ การปฏิรูปไม่ได้เกิดง่ายๆ เหมือนเปลี่ยนกางเกงใน
ความสุขจำแลงแบบแกนๆ เพิ่งมีได้เดือนกว่าๆ ต้องมาผวากับความเป็นไปได้ที่ระบอบบักเหลี่ยมจะหวนคืนสู่อำนาจรัฐ ข้าราชการที่ยังจงรักภักดีบักเหลี่ยมยังอยู่พร้อมหน้ารอนายใหญ่จะใช้เงินกรุยทางให้พลังแค้นได้ “เอาคืนประเทศไทย” มีคนดีเป็นเหยื่อ
ย้ำอีกครั้ง ทุกวันนี้บักเหลี่ยม ครอบครัว เครือข่ายญาติมิตรขี้ข้ายังอยู่สุขสบายดี มาตรการทางกฎหมาย สอบสวนต่างๆ ยังเป็นไปโดยความรวดเร็วระดับหอยทาก ทั้งยังมีข้อให้สงสัยว่าปลาตัวใหญ่จะรอด มีเพียงพวกกระจอกปลายแถวที่ต้องรับโทษอาญา
เป็นการเกี๊ยะเซี้ย อวยกันหรืออย่างไร ชาวบ้านทั่วไปได้แต่มีคำถามที่ไร้คำตอบ! ซ้ำร้าย ถ้าไม่ยอมมองโลกให้สวยตามคำชักชวนให้ปรองดอง อาจเคราะห์ร้ายอีกด้วย ถ้าจะไม่ให้เกิดปัญหาต้องฟังคำเตือนว่าใจเย็นๆ ผู้มีอำนาจกำลังจัดการเป็นขั้นตอน
เกิดมามีมือเท้าเหมือนกัน คนละหนึ่งเสียง แต่มีสิทธิ อำนาจ หัวโขน ต่างกัน!