10 กว่าปีมานี้..ขบวนการล้มเจ้า ทำงานกันเป็นขบวนการทั้งลับและเปิดเผย!
ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ปฏิบัติการล้มเจ้ารุนแรงขึ้น หลังมหาเศรษฐีเหลี่ยมได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่พอใจกันอย่างกว้างขวาง
นอกจากล้มเจ้าแล้ว เหลี่ยมยังทำชั่วอีกมากมาย รวมทั้งการโกงชาติบ้านเมือง จึงถูกประชาชนขับไล่ออกจากตำแหน่งนายกฯ แต่เหลี่ยมก็ใช้เงินกลับมายึดอำนาจรัฐได้ทุกครา
ด้วยกติกาการเมืองที่เอื้อให้ นั่นคือ สมาชิกทั้งสภาฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง สมาชิกสภาฯ เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี และนายกฯ จะต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น นายทุนพรรคจึงใช้ทุกวิธีการ เอาชนะการ “เลือกตั้ง” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะอำนาจรัฐ-คือ-อาวุธในการโกงชาตินั่นเอง!
เหลี่ยมจึงเป็นรัฐบาลศูนย์กลางของเหล่าคนชั่ว ทั้งไทยและต่างชาติมาตลอด เพราะคนชั่วทั้งหลายรู้ว่า เหลี่ยมเป็นผู้นำชาติไทยที่ทำชั่วได้ทุกเรื่อง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง
ถึงแม้เหลี่ยมจะทำชั่วมากสักแค่ไหน แต่รัฐบาลมะกันก็ไม่เคยประณาม และบอยคอตทางการเมือง ใดๆ ต่อรัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมแม้แต่น้อย แถมยังสมคบทางการเมืองกับเหลี่ยม แอบกอบโกยผลประโยชน์จากชาติไทยหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
รัฐบาลทุนสามานย์เหลี่ยม บริหารชาติไทยโดยยึดผลประโยชน์ของตนและนายทุนต่างชาติเป็นสำคัญ เช่น ยกทรัพยากรก๊าซและน้ำมันให้ชาติมหาอำนาจได้สวาปามกำไรกันอย่างมหาศาล โดยได้เงินค่าสัมปทานเข้ารัฐไทยเพียงน้อยนิด
แค่ ปตท.บริษัทเดียว ที่มีนักการเมืองชั่วของไทยกับนายทุนต่างชาติถือหุ้น ก็ได้กำไรต่อปีนับแสนล้านบาท ในขณะที่คนไทยต้องใช้น้ำมันราคาแพงกว่าชาติมะกัน ที่ซื้อและขนน้ำมันไปจากชาติไทยเสียอีก แถมคนไทยยังต้องซื้อสินค้าต่างๆ ราคาแพงลิบลิ่ว เพราะต้นทุนการผลิตที่ใช้ก๊าซและน้ำมันมีราคาสูงเกินจริงนั่นเอง
ทั้งนี้เพราะเหลี่ยมมิได้เข้ามาทำการเมืองเพื่อชาติ แต่เข้ามาเพื่อกอบโกยเงินมหาศาล จากการลงทุนในธุรกิจการเมืองต่างหาก
เฉพาะเงินงบประมาณฯ ของชาติไทยทุกปีกว่า 2.2 ล้านล้านบาท คิดค่าคอมมิชชั่นแค่ 30% ก็เป็นเงินประมาณ 0.66 ล้านล้านบาทต่อปีแล้ว ถ้ารัฐบาลชั่วๆ อยู่ครบ 4 ปี จะได้เงินประมาณ 2.64 ล้านล้านบาทไปสวาปามจนพุงกาง
นั่นเป็นแค่ “เมนูแรก” เท่านั้นนะ ที่นักเลือกตั้งชั่วๆ จะได้ถอนทุนบวกกำไรจากธุรกิจการเมือง
ดังนั้น นักการเมืองไทยที่ขี้โกงทั้งหลาย จึงร่ำรวยกันชั่วพริบตา ดังเหลี่ยมได้เป็นรัฐบาลแค่ 4 ปี ก็ร่ำรวยกว่า 4-5 แสนล้านบาท จนถูกอายัดทรัพย์สกปรกไว้ถึง 1.2 แสนล้านบาท ที่เมืองผู้ดี ตราบจนทุกวันนี้ไงล่ะครับ
นโยบายทุนสามานย์เหลี่ยมกับมะกัน ที่ส่งเสริมให้ผู้คนใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเกินตัว ยึดติดในวัตถุจนไร้สติ แถมยังปล่อยให้การพนันทุกรูปแบบเติบโต โดยเฉพาะผ่านสังคมโซเชียลมีเดีย จนเด็กและเยาวชนติดการพนันงอมแงม คนในสังคมไทยจึงมีหนี้ล้นพ้นตัวกันอย่างมากมาย
สังคมไทยที่ “เห็นเงินเป็นพระเจ้า” ในวันนี้ จึงเสื่อมถอยในด้านคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต!
ถึงขนาดเหลี่ยมใช้เงินชาติอย่างไร้สติ โดยจะกู้เงินถึง 2 ล้านล้านบาท มาผลาญมาโกงมาสร้างรถไฟความเร็วสูงเพื่อหาเสียง ทำให้ชาติต้องใช้หนี้นานกว่า 50 ปี!
นักการเมืองก็เอาแต่โกงชาติและขายชาติ ในขณะที่ประชาชนต้องดิ้นรนกู้เงิน ทั้งในและนอกระบบมาใช้หนี้กันจ้าละหวั่น ทำให้อนาคตของชาติและคนไทยกำลังเดินไปสู่ความหายนะกันแล้ว
นโยบายทุนสามานย์เหลี่ยมกับอเมริกัน จึงสวนทางกับ “เศรษฐกิจพอเพียง” ชนิดตรงกันข้าม รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมจึงไม่เคยสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง
เพราะปรัชญา “พอเพียง” ขัดกับปรัชญา “บริโภคนิยม” เป็นอุปสรรคต่อระบอบทุนนิยมสามานย์ ด้วยปรัชญาพอเพียงทำให้คนไทยรักชาติ รักทรัพยากรชาติ รักความถูกต้องยุติธรรม รัก “ในหลวง” เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเกลียดนักการเมืองชั่วที่เห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้-โกงชาติ-ขายชาติ รวมทั้งเกลียดต่างชาติที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากชาติไทยอย่างอยุติธรรม ฯลฯ
ทุนสามานย์เหลี่ยมกับทุนสามานย์มะกันบางคนจึงต้องสมคบกัน “ล้มเจ้า” ไงล่ะครับ!
เหลี่ยมเคยหลุดปากที่เมือง “ลุงแซม” ว่า อีกไม่นานไทยจะไม่เป็นประชาธิปไตยแบบปัจจุบัน แต่จะเป็นประชาธิปไตยแบบอเมริกา!
ปฏิบัติการ “ล้มเจ้า” โดยขี้ข้าเหลี่ยม เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน และทำชั่วต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้!
การให้ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้แพร่หลายอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชนที่นักการเมืองชั่วซื้อจิตวิญญาณได้ รวมทั้งแพร่อยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งบางเว็บไซต์เหลี่ยมกับมะกันคือผู้ให้เงินสนับสนุน
เหลี่ยมกับทูตมะกันคนนี้ยังเคยเรียกร้อง และกดดันให้ไทยยกเลิกมาตรา 112 อีกด้วย!
นั่นคือ-ความจริงที่คนไทยรู้ และคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ยอมปรองดองกับคนชั่วที่ “ล้มเจ้า” โดยเด็ดขาด นอกจากคนชั่วเหล่านั้นจะกลับใจ ละและเลิกล้มเจ้าด้วยความจริงใจเท่านั้น!!
จัดการพวก “ล้มเจ้า” ต้องเป็นหนึ่งในภารกิจที่ คสช.ต้องใช้อำนาจพิเศษดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วนที่สุด!!!
ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ปฏิบัติการล้มเจ้ารุนแรงขึ้น หลังมหาเศรษฐีเหลี่ยมได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่พอใจกันอย่างกว้างขวาง
นอกจากล้มเจ้าแล้ว เหลี่ยมยังทำชั่วอีกมากมาย รวมทั้งการโกงชาติบ้านเมือง จึงถูกประชาชนขับไล่ออกจากตำแหน่งนายกฯ แต่เหลี่ยมก็ใช้เงินกลับมายึดอำนาจรัฐได้ทุกครา
ด้วยกติกาการเมืองที่เอื้อให้ นั่นคือ สมาชิกทั้งสภาฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง สมาชิกสภาฯ เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี และนายกฯ จะต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น นายทุนพรรคจึงใช้ทุกวิธีการ เอาชนะการ “เลือกตั้ง” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะอำนาจรัฐ-คือ-อาวุธในการโกงชาตินั่นเอง!
เหลี่ยมจึงเป็นรัฐบาลศูนย์กลางของเหล่าคนชั่ว ทั้งไทยและต่างชาติมาตลอด เพราะคนชั่วทั้งหลายรู้ว่า เหลี่ยมเป็นผู้นำชาติไทยที่ทำชั่วได้ทุกเรื่อง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง
ถึงแม้เหลี่ยมจะทำชั่วมากสักแค่ไหน แต่รัฐบาลมะกันก็ไม่เคยประณาม และบอยคอตทางการเมือง ใดๆ ต่อรัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมแม้แต่น้อย แถมยังสมคบทางการเมืองกับเหลี่ยม แอบกอบโกยผลประโยชน์จากชาติไทยหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
รัฐบาลทุนสามานย์เหลี่ยม บริหารชาติไทยโดยยึดผลประโยชน์ของตนและนายทุนต่างชาติเป็นสำคัญ เช่น ยกทรัพยากรก๊าซและน้ำมันให้ชาติมหาอำนาจได้สวาปามกำไรกันอย่างมหาศาล โดยได้เงินค่าสัมปทานเข้ารัฐไทยเพียงน้อยนิด
แค่ ปตท.บริษัทเดียว ที่มีนักการเมืองชั่วของไทยกับนายทุนต่างชาติถือหุ้น ก็ได้กำไรต่อปีนับแสนล้านบาท ในขณะที่คนไทยต้องใช้น้ำมันราคาแพงกว่าชาติมะกัน ที่ซื้อและขนน้ำมันไปจากชาติไทยเสียอีก แถมคนไทยยังต้องซื้อสินค้าต่างๆ ราคาแพงลิบลิ่ว เพราะต้นทุนการผลิตที่ใช้ก๊าซและน้ำมันมีราคาสูงเกินจริงนั่นเอง
ทั้งนี้เพราะเหลี่ยมมิได้เข้ามาทำการเมืองเพื่อชาติ แต่เข้ามาเพื่อกอบโกยเงินมหาศาล จากการลงทุนในธุรกิจการเมืองต่างหาก
เฉพาะเงินงบประมาณฯ ของชาติไทยทุกปีกว่า 2.2 ล้านล้านบาท คิดค่าคอมมิชชั่นแค่ 30% ก็เป็นเงินประมาณ 0.66 ล้านล้านบาทต่อปีแล้ว ถ้ารัฐบาลชั่วๆ อยู่ครบ 4 ปี จะได้เงินประมาณ 2.64 ล้านล้านบาทไปสวาปามจนพุงกาง
นั่นเป็นแค่ “เมนูแรก” เท่านั้นนะ ที่นักเลือกตั้งชั่วๆ จะได้ถอนทุนบวกกำไรจากธุรกิจการเมือง
ดังนั้น นักการเมืองไทยที่ขี้โกงทั้งหลาย จึงร่ำรวยกันชั่วพริบตา ดังเหลี่ยมได้เป็นรัฐบาลแค่ 4 ปี ก็ร่ำรวยกว่า 4-5 แสนล้านบาท จนถูกอายัดทรัพย์สกปรกไว้ถึง 1.2 แสนล้านบาท ที่เมืองผู้ดี ตราบจนทุกวันนี้ไงล่ะครับ
นโยบายทุนสามานย์เหลี่ยมกับมะกัน ที่ส่งเสริมให้ผู้คนใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเกินตัว ยึดติดในวัตถุจนไร้สติ แถมยังปล่อยให้การพนันทุกรูปแบบเติบโต โดยเฉพาะผ่านสังคมโซเชียลมีเดีย จนเด็กและเยาวชนติดการพนันงอมแงม คนในสังคมไทยจึงมีหนี้ล้นพ้นตัวกันอย่างมากมาย
สังคมไทยที่ “เห็นเงินเป็นพระเจ้า” ในวันนี้ จึงเสื่อมถอยในด้านคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต!
ถึงขนาดเหลี่ยมใช้เงินชาติอย่างไร้สติ โดยจะกู้เงินถึง 2 ล้านล้านบาท มาผลาญมาโกงมาสร้างรถไฟความเร็วสูงเพื่อหาเสียง ทำให้ชาติต้องใช้หนี้นานกว่า 50 ปี!
นักการเมืองก็เอาแต่โกงชาติและขายชาติ ในขณะที่ประชาชนต้องดิ้นรนกู้เงิน ทั้งในและนอกระบบมาใช้หนี้กันจ้าละหวั่น ทำให้อนาคตของชาติและคนไทยกำลังเดินไปสู่ความหายนะกันแล้ว
นโยบายทุนสามานย์เหลี่ยมกับอเมริกัน จึงสวนทางกับ “เศรษฐกิจพอเพียง” ชนิดตรงกันข้าม รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมจึงไม่เคยสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง
เพราะปรัชญา “พอเพียง” ขัดกับปรัชญา “บริโภคนิยม” เป็นอุปสรรคต่อระบอบทุนนิยมสามานย์ ด้วยปรัชญาพอเพียงทำให้คนไทยรักชาติ รักทรัพยากรชาติ รักความถูกต้องยุติธรรม รัก “ในหลวง” เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเกลียดนักการเมืองชั่วที่เห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้-โกงชาติ-ขายชาติ รวมทั้งเกลียดต่างชาติที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากชาติไทยอย่างอยุติธรรม ฯลฯ
ทุนสามานย์เหลี่ยมกับทุนสามานย์มะกันบางคนจึงต้องสมคบกัน “ล้มเจ้า” ไงล่ะครับ!
เหลี่ยมเคยหลุดปากที่เมือง “ลุงแซม” ว่า อีกไม่นานไทยจะไม่เป็นประชาธิปไตยแบบปัจจุบัน แต่จะเป็นประชาธิปไตยแบบอเมริกา!
ปฏิบัติการ “ล้มเจ้า” โดยขี้ข้าเหลี่ยม เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน และทำชั่วต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้!
การให้ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้แพร่หลายอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชนที่นักการเมืองชั่วซื้อจิตวิญญาณได้ รวมทั้งแพร่อยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งบางเว็บไซต์เหลี่ยมกับมะกันคือผู้ให้เงินสนับสนุน
เหลี่ยมกับทูตมะกันคนนี้ยังเคยเรียกร้อง และกดดันให้ไทยยกเลิกมาตรา 112 อีกด้วย!
นั่นคือ-ความจริงที่คนไทยรู้ และคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ยอมปรองดองกับคนชั่วที่ “ล้มเจ้า” โดยเด็ดขาด นอกจากคนชั่วเหล่านั้นจะกลับใจ ละและเลิกล้มเจ้าด้วยความจริงใจเท่านั้น!!
จัดการพวก “ล้มเจ้า” ต้องเป็นหนึ่งในภารกิจที่ คสช.ต้องใช้อำนาจพิเศษดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วนที่สุด!!!