วันนี้สังคมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีทัศนคติที่เป็นลบ และเพ่งเล็งสื่อในเครือ “เอเอสทีวี” มากเป็นพิเศษ
เพราะไม่เพียงคำสั่งปิดตายทีวีดาวเทียมเอเอสทีวีเท่านั้น ล่าสุดยังออกประกาศเตือนหนังสือเอเอสทีวีสุดสัปดาห์ อ้างว่าเสนอข้อความอันเป็นเท็จ กระทบต่อความน่าเชื่อถือของ คสช.แต่ไม่ระบุว่า ข้อความจุดไหนที่เป็นเท็จ
ระหว่างเอเอสทีวีกับพล.อ.ประยุทธ์ เกิดความระหองระแหงกันมายาวนาน หรือนับตั้งแต่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เอเอสทีวีเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์แสดงจุดยืน อยู่เคียงข้างประชาชน ร่วมกันขับไล่รัฐบาลทรราช แต่ถูกเพิกเฉย แม้จะมีการเผยแพร่คลิปนายพล “ถั่งเช่า” ซึ่งเปิดโปงแผนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการซื้อผู้นำเหล่าทัพก็ตาม
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจตั้งแต่ปลายปี 2556 ช่วงที่ประชาชนลุกฮือกันทั้งประเทศ ออกมาแสดงพลังไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผู้บริสุทธิ์ 25 ชีวิต คงไม่ต้องเซ่นสังเวยความอำมหิตของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และผู้ชุมนุมอีกเกือบ 1 พันคนคงไม่ต้องบาดเจ็บ
การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไม่มีกระแสต่อต้านจากสื่อในเครือเอเอสทีวีแม้แต่น้อย แต่มีท่าทีสนับสนุนการตัดสินใจของกองทัพด้วยซ้ำ เพราะเป็นทางออกดีที่สุดของประเทศในเวลานั้น
ทหารเข้ามายึดอำนาจ ย่อมดีกว่าปล่อยให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์อยู่ในอำนาจต่อไป เพราะประชาชนจะบาดเจ็บล้มตายมากขึ้น บ้านเมืองจะไร้ขื่อแปร ประเทศจะดำดิ่งสู่หายนะครั้งใหญ่
ถ้าไม่มีข้อจำกัดด้านการชุมนุมตามประกาศ คสช. มวลมหาประชาชนกลุ่ม กปปส.อาจเดินขบวนไปขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ด้วยซ้ำ
ประชาชนฝากความหวังไว้กับ คสช.ไม่น้อย หวังว่า คสช.จะปฏิรูปการเมือง หวังว่า คสช.จะรื้อฟื้นเล่นงานการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง หวังว่าจะเอาผิดกับนักการเมืองลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย หวังว่าข้าราชการที่ทำตัวเป็นขี้ข้าจะต้องถูกลงโทษหนัก
และตระกูลชินวัตรจะถูกอายัดทรัพย์
แต่ผลงานการแก้ปัญหาใหญ่ๆ คสช.ทำได้น่าผิดหวัง เพราะนักการเมืองตัวร้ายๆ ไม่ถูกลงทัณฑ์แม้แต่คนเดียว แถมนางสาวยิ่งลักษณ์ถูกปล่อยตัวให้เดินทางออกนอกประเทศ ร่วมฉลองวันเกิดกับพ.ต.ท.ทักษิณที่ฝรั่งเศสอย่างมีความสุข ย่ำยีหัวใจประชาชนที่เจ็บปวดจากตระกูลชินวัตร
ผลงานของ คสช.ไม่ใช่ไม่มี แต่สามารถสร้างผลงานที่โดนใจประชาชนหลายเรื่อง ไม่ว่าการแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคา 80 บาท การปราบปรามผู้มีอิทธิพลวินรถตู้ รถมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ การไล่ล่ากลุ่มที่ก่อความรุนแรง โดยใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่ประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
แม้มีอำนาจเต็มมือ แต่กลับไม่สามารถแก้ราคาสลากกินแบ่งฯ ให้ขายตามราคาได้ การจัดระเบียบวินรถรับจ้าง กลับไม่สามารถสาวไปถึงผู้มีอิทธิพลที่เรียกเก็บส่วยได้ และคดีใช้อาวุธสงครามก่อความรุนแรงนับสิบคดี จับแต่ปลาซิวปลาสร้อย โดยไม่มีการขยายผลถึงผู้บงการแม้แต่คดีเดียว
ถ้าจะพูดกันอย่างไม่เกรงใจแล้ว ต้องบอกว่าประชาชนเริ่มไม่แน่ใจว่า คสช.จะแก้ปัญหาของประเทศได้จริง ไม่แน่ใจว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนได้อย่างยั่งยืน
เพราะไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปล่อยให้นักการเมืองเลวๆ ลอยนวล ไม่มีลงโทษเป็นตัวอย่าง เพื่อให้นักการเมืองที่กัดแทะประเทศเกิดความเข็ดหลาบ
ประชาชนอยากเห็น คสช.แก้ปัญหาสำเร็จ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นวีรบุรุษ เพราะเหนื่อยล้าเต็มทีที่จะต้องลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลทรราชอีก
“เอเอสทีวี” มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากประชาชน ไม่ได้มองทหารเป็นศัตรู ไม่เห็นพล.อ.ประยุทธ์เป็นคู่กรณีที่ต้องจองล้างจองผลาญ และเอาใจช่วยให้ปฏิบัติภารกิจคืนความสุขได้สำเร็จด้วย
การปิดทีวีดาวเทียมเอเอสทีวีแม้จะไม่ป็นธรรม เมื่อเทียบกับการอนุญาตให้วอยซ์ทีวีของนายพานทองแท้ ชินวัตรออกอากาศได้ แต่เครือเอเอสทีวีก็กัดฟันทน ดิ้นรนปากกัดตีนถีบหาเงินเดือนมาจ่ายพนักงานนับร้อยนับพันชีวิต
และแม้มวลชนที่ติดตามทีวีดาวเทียมเอเอสทีวีจะรู้สึกอึดอัด เพราะสื่อที่นิยมชมชอบถูกปิดกั้น จนอยากจะเดินขบวนไปร้องถาม คสช.แต่เอเอสทีวีก็ไม่นำไปเป็นเงื่อนไข เพื่อกดดัน คสช.
แต่การส่งเสียงคำราม ประกาศใช้อำนาจเด็ดขาดจัดการกับหนังสือเอเอสทีวีสุดสัปดาห์นั้น เครือเอเอสทีวีไม่อาจยอมรับได้ เพราะข้อหาเสนอข้อมูลเท็จนั้น เป็นการเหวี่ยงแหเนื่องจากไม่มีการระบุว่า เนื้อหาส่วนไหนที่เป็นเท็จ
พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่า เอเอสทีวีสุดสัปดาห์ ทำลายความน่าเชื่อถือของ คสช.แต่ข้อกล่าวหาของพล.อ.ประยุทธ์ กำลังทำลายความน่าเชื่อถือของเอเอสทีวีสุดสัปดาห์โดยตรง
เอเอสทีวีสุดสัปดาห์เสนอข้อมูลส่วนไหนที่เป็นเท็จ พล.อ.ประยุทธ์ต้องระบุมาให้ชัดเจน เพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง
การตั้งข้อกล่าวหาลอยๆ คงต้องเห็นใจเอเอสทีวีสุดสัปดาห์ เพราะไม่รู้จะแก้ไขตรงไหนให้ถูกใจพล.อ.ประยุทธ์
ทัศนคติที่ไม่ดีต่อกันระหว่างเอเอสทีวีกับพล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเกิดขึ้นเลย เพราะเอเอสทีวีเป็นสื่อที่ชูธง โค่นล้มระบอบทักษิณมายาวนาน ต่อต้านนักการเมืองชั่ว และรณรงค์ปฏิรูปการเมืองอย่างหนักแน่น
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ต้องการคืนความสุขให้ประชาชน จำเป็นต้องกวาดล้างนักการเมืองชั่วๆ ให้หมดไป ต้องแก้ปัญหาต่างๆ ชนิดขุดรากถอนโคน ซึ่งจุดมุ่งหมายในการทำงานไม่แตกต่างจากเอเอสทีวีเท่าใดนัก จึงควรเป็นแนวร่วมกันด้วยซ้ำ
แต่ภาพที่ออกมาขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทีเป็นคู่กรณีขอเอเอสทีวี และกำลังทำให้คู่กรณีตัวจริงของ คสช.ไม่ว่าจะเป็นมวลสมาชิกพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง คนในตระกูลชินวัตรหรือข้าราชการเหล่าขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณชอบใจ
เพราะแทนที่พล.ประยุทธ์จะเร่งไล่ล่ากำราบปราบปรามกลุ่มคนที่ร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในยุคมืดมากว่า 13 ปี กลับมาเสียเวลาจ้องกินเลือดกินเนื้อกับเอเอสทีวี
เริ่มมีกลุ่มคนที่รู้สึกสังหรณ์ใจแล้วว่า กลุ่มคนที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน คสช.เป็นกลุ่มแรก คงไม่พ้นมวลชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นหัวหอก
ชนวนเหตุการณ์เดินขบวนต่อต้าน คสช.เกิดจากการปิดหูปิดตาเอเอสทีวีนี่แหละ
เพราะไม่เพียงคำสั่งปิดตายทีวีดาวเทียมเอเอสทีวีเท่านั้น ล่าสุดยังออกประกาศเตือนหนังสือเอเอสทีวีสุดสัปดาห์ อ้างว่าเสนอข้อความอันเป็นเท็จ กระทบต่อความน่าเชื่อถือของ คสช.แต่ไม่ระบุว่า ข้อความจุดไหนที่เป็นเท็จ
ระหว่างเอเอสทีวีกับพล.อ.ประยุทธ์ เกิดความระหองระแหงกันมายาวนาน หรือนับตั้งแต่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เอเอสทีวีเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์แสดงจุดยืน อยู่เคียงข้างประชาชน ร่วมกันขับไล่รัฐบาลทรราช แต่ถูกเพิกเฉย แม้จะมีการเผยแพร่คลิปนายพล “ถั่งเช่า” ซึ่งเปิดโปงแผนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการซื้อผู้นำเหล่าทัพก็ตาม
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจตั้งแต่ปลายปี 2556 ช่วงที่ประชาชนลุกฮือกันทั้งประเทศ ออกมาแสดงพลังไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผู้บริสุทธิ์ 25 ชีวิต คงไม่ต้องเซ่นสังเวยความอำมหิตของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และผู้ชุมนุมอีกเกือบ 1 พันคนคงไม่ต้องบาดเจ็บ
การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไม่มีกระแสต่อต้านจากสื่อในเครือเอเอสทีวีแม้แต่น้อย แต่มีท่าทีสนับสนุนการตัดสินใจของกองทัพด้วยซ้ำ เพราะเป็นทางออกดีที่สุดของประเทศในเวลานั้น
ทหารเข้ามายึดอำนาจ ย่อมดีกว่าปล่อยให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์อยู่ในอำนาจต่อไป เพราะประชาชนจะบาดเจ็บล้มตายมากขึ้น บ้านเมืองจะไร้ขื่อแปร ประเทศจะดำดิ่งสู่หายนะครั้งใหญ่
ถ้าไม่มีข้อจำกัดด้านการชุมนุมตามประกาศ คสช. มวลมหาประชาชนกลุ่ม กปปส.อาจเดินขบวนไปขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ด้วยซ้ำ
ประชาชนฝากความหวังไว้กับ คสช.ไม่น้อย หวังว่า คสช.จะปฏิรูปการเมือง หวังว่า คสช.จะรื้อฟื้นเล่นงานการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง หวังว่าจะเอาผิดกับนักการเมืองลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย หวังว่าข้าราชการที่ทำตัวเป็นขี้ข้าจะต้องถูกลงโทษหนัก
และตระกูลชินวัตรจะถูกอายัดทรัพย์
แต่ผลงานการแก้ปัญหาใหญ่ๆ คสช.ทำได้น่าผิดหวัง เพราะนักการเมืองตัวร้ายๆ ไม่ถูกลงทัณฑ์แม้แต่คนเดียว แถมนางสาวยิ่งลักษณ์ถูกปล่อยตัวให้เดินทางออกนอกประเทศ ร่วมฉลองวันเกิดกับพ.ต.ท.ทักษิณที่ฝรั่งเศสอย่างมีความสุข ย่ำยีหัวใจประชาชนที่เจ็บปวดจากตระกูลชินวัตร
ผลงานของ คสช.ไม่ใช่ไม่มี แต่สามารถสร้างผลงานที่โดนใจประชาชนหลายเรื่อง ไม่ว่าการแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคา 80 บาท การปราบปรามผู้มีอิทธิพลวินรถตู้ รถมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ การไล่ล่ากลุ่มที่ก่อความรุนแรง โดยใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่ประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
แม้มีอำนาจเต็มมือ แต่กลับไม่สามารถแก้ราคาสลากกินแบ่งฯ ให้ขายตามราคาได้ การจัดระเบียบวินรถรับจ้าง กลับไม่สามารถสาวไปถึงผู้มีอิทธิพลที่เรียกเก็บส่วยได้ และคดีใช้อาวุธสงครามก่อความรุนแรงนับสิบคดี จับแต่ปลาซิวปลาสร้อย โดยไม่มีการขยายผลถึงผู้บงการแม้แต่คดีเดียว
ถ้าจะพูดกันอย่างไม่เกรงใจแล้ว ต้องบอกว่าประชาชนเริ่มไม่แน่ใจว่า คสช.จะแก้ปัญหาของประเทศได้จริง ไม่แน่ใจว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนได้อย่างยั่งยืน
เพราะไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปล่อยให้นักการเมืองเลวๆ ลอยนวล ไม่มีลงโทษเป็นตัวอย่าง เพื่อให้นักการเมืองที่กัดแทะประเทศเกิดความเข็ดหลาบ
ประชาชนอยากเห็น คสช.แก้ปัญหาสำเร็จ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นวีรบุรุษ เพราะเหนื่อยล้าเต็มทีที่จะต้องลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลทรราชอีก
“เอเอสทีวี” มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากประชาชน ไม่ได้มองทหารเป็นศัตรู ไม่เห็นพล.อ.ประยุทธ์เป็นคู่กรณีที่ต้องจองล้างจองผลาญ และเอาใจช่วยให้ปฏิบัติภารกิจคืนความสุขได้สำเร็จด้วย
การปิดทีวีดาวเทียมเอเอสทีวีแม้จะไม่ป็นธรรม เมื่อเทียบกับการอนุญาตให้วอยซ์ทีวีของนายพานทองแท้ ชินวัตรออกอากาศได้ แต่เครือเอเอสทีวีก็กัดฟันทน ดิ้นรนปากกัดตีนถีบหาเงินเดือนมาจ่ายพนักงานนับร้อยนับพันชีวิต
และแม้มวลชนที่ติดตามทีวีดาวเทียมเอเอสทีวีจะรู้สึกอึดอัด เพราะสื่อที่นิยมชมชอบถูกปิดกั้น จนอยากจะเดินขบวนไปร้องถาม คสช.แต่เอเอสทีวีก็ไม่นำไปเป็นเงื่อนไข เพื่อกดดัน คสช.
แต่การส่งเสียงคำราม ประกาศใช้อำนาจเด็ดขาดจัดการกับหนังสือเอเอสทีวีสุดสัปดาห์นั้น เครือเอเอสทีวีไม่อาจยอมรับได้ เพราะข้อหาเสนอข้อมูลเท็จนั้น เป็นการเหวี่ยงแหเนื่องจากไม่มีการระบุว่า เนื้อหาส่วนไหนที่เป็นเท็จ
พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่า เอเอสทีวีสุดสัปดาห์ ทำลายความน่าเชื่อถือของ คสช.แต่ข้อกล่าวหาของพล.อ.ประยุทธ์ กำลังทำลายความน่าเชื่อถือของเอเอสทีวีสุดสัปดาห์โดยตรง
เอเอสทีวีสุดสัปดาห์เสนอข้อมูลส่วนไหนที่เป็นเท็จ พล.อ.ประยุทธ์ต้องระบุมาให้ชัดเจน เพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง
การตั้งข้อกล่าวหาลอยๆ คงต้องเห็นใจเอเอสทีวีสุดสัปดาห์ เพราะไม่รู้จะแก้ไขตรงไหนให้ถูกใจพล.อ.ประยุทธ์
ทัศนคติที่ไม่ดีต่อกันระหว่างเอเอสทีวีกับพล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเกิดขึ้นเลย เพราะเอเอสทีวีเป็นสื่อที่ชูธง โค่นล้มระบอบทักษิณมายาวนาน ต่อต้านนักการเมืองชั่ว และรณรงค์ปฏิรูปการเมืองอย่างหนักแน่น
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ต้องการคืนความสุขให้ประชาชน จำเป็นต้องกวาดล้างนักการเมืองชั่วๆ ให้หมดไป ต้องแก้ปัญหาต่างๆ ชนิดขุดรากถอนโคน ซึ่งจุดมุ่งหมายในการทำงานไม่แตกต่างจากเอเอสทีวีเท่าใดนัก จึงควรเป็นแนวร่วมกันด้วยซ้ำ
แต่ภาพที่ออกมาขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทีเป็นคู่กรณีขอเอเอสทีวี และกำลังทำให้คู่กรณีตัวจริงของ คสช.ไม่ว่าจะเป็นมวลสมาชิกพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง คนในตระกูลชินวัตรหรือข้าราชการเหล่าขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณชอบใจ
เพราะแทนที่พล.ประยุทธ์จะเร่งไล่ล่ากำราบปราบปรามกลุ่มคนที่ร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในยุคมืดมากว่า 13 ปี กลับมาเสียเวลาจ้องกินเลือดกินเนื้อกับเอเอสทีวี
เริ่มมีกลุ่มคนที่รู้สึกสังหรณ์ใจแล้วว่า กลุ่มคนที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน คสช.เป็นกลุ่มแรก คงไม่พ้นมวลชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นหัวหอก
ชนวนเหตุการณ์เดินขบวนต่อต้าน คสช.เกิดจากการปิดหูปิดตาเอเอสทีวีนี่แหละ