พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงที่อยู่ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายทหารที่ถูกตั้งความคาดหวังไว้สูงมาก
นายทหารคนนี้ จะเป็นผู้จัดการกับกลุ่มบุคคลที่จาบจ้างสถาบัน จะเป็นผู้ที่กำราบระบอบทักษิณ และจะยืนเคียงข้างประชาชน
แต่วันนี้ไม่หลงเหลือความหวังใดกับพล.อ.ประยุทธ์แล้ว เพราะตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ท่าทีและจุดยืนเปลี่ยนไปมาก
การจาบจ้วงสถาบันยังดำเนินต่อไป ทั้งในทางลับและเปิดเผย ระบอบทักษิณเติบโตแผ่ขยายอำนาจในสังคมไทยหนักหน่วงขึ้น ประเทศกำลังก้าวเดินสู่หายนะ เพราะการทุจริตคอร์รัปชัน ประชาชนถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ แต่พล.อ.ประยุทธ์เฉย
คำประกาศของ ผบ.ทบคนนี้คือ จุดยืนของความเป็นกลาง โดยอ้างว่า บนความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน กองทัพไม่สามารถเข้าข้างฝ่ายใดได้
ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ดูเหมือนดี แต่ก็เป็นวิธีของการเอาตัวรอดมากกว่า
วิกฤตทางการเมืองขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง และไม่ได้เกิดจากความเห็นต่าง แต่เกิดจากคนที่ “เห็น” ปัญหากับคนที่ “ไม่เห็น” หรือ “แกล้งไม่เห็น”ปัญหา
ประชาชนทุกคนเลือกข้างกันหมดแล้ว เลือกที่จะอยู่ฝ่าย “เห็น” หรือฝ่าย “ไม่เห็น”
ไม่มีใครยืนอยู่ตรงกลางได้ และคนที่อ้างว่าเลือกความเป็นกลาง มีแต่พวกเอาตัวรอดเท่านั้น
ประชาชนนับล้านๆ คนที่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะ “เห็น” แล้วว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังทำลายชาติ กำลังนำสังคมไทยไปสู่กลียุค กำลังสวมคราบประชาธิปไตยเพื่อก้าวไปสู่การรวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ
ประชาชนส่วนใหญ่ “เห็น” แล้วว่า ระบอบทักษิณเป็นภัยใหญ่หลวงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย และเป็นศัตรูตัวร้ายของคนไทย
การจาบจ้างสถาบันแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยไม่มีรัฐบาลชุดใดเข้ากำราบปราบปรามอย่างจริงจัง
นักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ติดคุกติดตารางนับสิบคน ล้วนเป็นคนกลุ่มเสื้อแดง มวลชนจัดตั้งของระบอบทักษิณทั้งสิ้น
การเลือกตั้งที่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การเลือกตั้งที่โกงกันในทุกรูปแบบ จะเป็นระบอบประชาประชาธิปไตยที่ยอมรับกันได้หรือ
รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งโดยการซื้อเสียง จะอ้างอย่างเต็มปากได้อย่างไรว่า เป็นรัฐบาลที่มาตามครรลองของประชาธิปไตย
พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่เห็น” หรือว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน “ไม่เห็น” การจัดตั้งกลุ่มอันธพาลเสื้อแดง ซึ่งทำตัวอยู่หนือกฎหมาย เป็นอันตรายต่อความมั่นคง
“ไม่เห็น” หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้อำนาจมืดคุกคามประชาชน ใช้กลไกรัฐ โดยเฉพาะตำรวจเป็นเครื่องมือในการกำจัดฝ่ายตรงข้าม
“ไม่เห็น” หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ แม้กระทั่งการยัดเยียดความผิดให้ทหาร ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้สึกเลยหรือว่า กองทัพกำลังถูกแทรกซึมจากระบอบทักษิณ และถ้าไม่ตีกรอบป้องกัน สักวันหนึ่ง สถานภาพของกองทัพอาจไม่แตกต่างจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน โดยมีฐานะเป็นองค์กร “ขี้ข้า” รับใช้ระบอบทักษิณ
และผบ.เหล่าทัพทั้งหลาย ในอนาคตอาจทำหน้าที่เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยงหรือชงเหล้าให้พ.ต.ท.ทักษิณ
ในฐานะ ผบ.ทบ.ไม่สำนึกเลยบ้างหรือว่า ศักด์ศรีของกองทัพที่สั่งสมกันมานับร้อยปีกำลังถูกย่ำยี เกียรติภูมิของชายชาติทหารทุกคนถูกหมิ่นโดยซึ่งหน้า ด้วยคลิปนายพล “ถั่งเช่า”
พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่รู้ไม่เห็น” จริงๆ หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์คือทรราชในคราบประชาธิปไตยที่กำลังบ่อนทำลายรากฐานความมั่นคงของชาติ
ไม่มีใครเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์นำทหารออกมาปฏิวัติ ไม่มีใครเรียกร้องให้แสดงความกล้าหาญสมชายชาติทหารเหมือนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.คนก่อน ที่พาผู้นำเหล่าทัพประกาศจุดยืน ขอให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ลาออก เพื่อความสงบของบ้านเมือง
สิ่งที่สังคมเรียกหาคือ สำนึกความรับผิดชอบต่อวิกฤตประเทศ ในฐานะข้าราชการที่กินเงินเดือนภาษีคนหนึ่ง
สิ่งที่สังคมต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์แสดงออกคือ จุดยืนของประชาชนคนหนึ่งที่ต่อต้านนักการเมืองชั่วๆ ที่กำลังนำประเทศไปสู่ความล่มสลาย
แทบทุกกลุ่มอาชีพแล้วที่ลุกฮือขึ้นมาประกาศต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการตัวเล็กในหลายกระทรวงที่ออกมาเป่านกหวีดแสดงสัญลักษณ์ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
มีแต่กองทัพเท่านั้นที่เฉย เหลือแต่ผบ.ทบ.เท่านั้นที่อ้าง “ความเป็นกลาง” ทั้งที่สถานการณ์การเมืองขณะนี้ “ความเป็นกลาง” ไม่มีอยู่จริง มีแต่คนที่เลือกข้างแล้วเท่านั้น
ไม่เลือกยืนข้างประชาชนที่กำลังเดินหน้าปฏิรูปการเมือง ก็ต้องเลือกที่จะเป็น “ขี้ข้า” ระบอบทักษิณ
การติดยึดกับตำแหน่ง ผบ.ทบ. การฝันถึงหลักประกันชีวิตอันสุขสงบในวัยเกษียณ เป็นเงื่อนไขทำให้พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าประกาศจุดยืนเลือกข้างใช่หรือไม่
การรักษาความเป็นกลาง เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเอาตัวรอดใช่หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้หรือว่า การเอาตัวรอดวันนี้ จะทำให้กองทัพต้องตกเป็นขี้ข้าของระบอบทักษิณในวันหน้า
อนาคต ถ้ากองทัพเสื่อมสลาย หมดศักดิ์ศรีและเกียรติยศ ต้องก้มหน้าทำตามที่ตระกูลชินวัตรจะชี้นิ้ว ผู้นำเหล่าทัพทุกคนต้องสำนึกความผิดที่ทำในวันนี้จนวันตาย
ทหารทุกคนจะสาปแช่งผู้นำเหล่าทัพจนวันตาย
นายทหารคนนี้ จะเป็นผู้จัดการกับกลุ่มบุคคลที่จาบจ้างสถาบัน จะเป็นผู้ที่กำราบระบอบทักษิณ และจะยืนเคียงข้างประชาชน
แต่วันนี้ไม่หลงเหลือความหวังใดกับพล.อ.ประยุทธ์แล้ว เพราะตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ท่าทีและจุดยืนเปลี่ยนไปมาก
การจาบจ้วงสถาบันยังดำเนินต่อไป ทั้งในทางลับและเปิดเผย ระบอบทักษิณเติบโตแผ่ขยายอำนาจในสังคมไทยหนักหน่วงขึ้น ประเทศกำลังก้าวเดินสู่หายนะ เพราะการทุจริตคอร์รัปชัน ประชาชนถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ แต่พล.อ.ประยุทธ์เฉย
คำประกาศของ ผบ.ทบคนนี้คือ จุดยืนของความเป็นกลาง โดยอ้างว่า บนความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน กองทัพไม่สามารถเข้าข้างฝ่ายใดได้
ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ดูเหมือนดี แต่ก็เป็นวิธีของการเอาตัวรอดมากกว่า
วิกฤตทางการเมืองขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง และไม่ได้เกิดจากความเห็นต่าง แต่เกิดจากคนที่ “เห็น” ปัญหากับคนที่ “ไม่เห็น” หรือ “แกล้งไม่เห็น”ปัญหา
ประชาชนทุกคนเลือกข้างกันหมดแล้ว เลือกที่จะอยู่ฝ่าย “เห็น” หรือฝ่าย “ไม่เห็น”
ไม่มีใครยืนอยู่ตรงกลางได้ และคนที่อ้างว่าเลือกความเป็นกลาง มีแต่พวกเอาตัวรอดเท่านั้น
ประชาชนนับล้านๆ คนที่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะ “เห็น” แล้วว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังทำลายชาติ กำลังนำสังคมไทยไปสู่กลียุค กำลังสวมคราบประชาธิปไตยเพื่อก้าวไปสู่การรวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ
ประชาชนส่วนใหญ่ “เห็น” แล้วว่า ระบอบทักษิณเป็นภัยใหญ่หลวงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย และเป็นศัตรูตัวร้ายของคนไทย
การจาบจ้างสถาบันแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยไม่มีรัฐบาลชุดใดเข้ากำราบปราบปรามอย่างจริงจัง
นักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ติดคุกติดตารางนับสิบคน ล้วนเป็นคนกลุ่มเสื้อแดง มวลชนจัดตั้งของระบอบทักษิณทั้งสิ้น
การเลือกตั้งที่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การเลือกตั้งที่โกงกันในทุกรูปแบบ จะเป็นระบอบประชาประชาธิปไตยที่ยอมรับกันได้หรือ
รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งโดยการซื้อเสียง จะอ้างอย่างเต็มปากได้อย่างไรว่า เป็นรัฐบาลที่มาตามครรลองของประชาธิปไตย
พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่เห็น” หรือว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน “ไม่เห็น” การจัดตั้งกลุ่มอันธพาลเสื้อแดง ซึ่งทำตัวอยู่หนือกฎหมาย เป็นอันตรายต่อความมั่นคง
“ไม่เห็น” หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้อำนาจมืดคุกคามประชาชน ใช้กลไกรัฐ โดยเฉพาะตำรวจเป็นเครื่องมือในการกำจัดฝ่ายตรงข้าม
“ไม่เห็น” หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ แม้กระทั่งการยัดเยียดความผิดให้ทหาร ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้สึกเลยหรือว่า กองทัพกำลังถูกแทรกซึมจากระบอบทักษิณ และถ้าไม่ตีกรอบป้องกัน สักวันหนึ่ง สถานภาพของกองทัพอาจไม่แตกต่างจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน โดยมีฐานะเป็นองค์กร “ขี้ข้า” รับใช้ระบอบทักษิณ
และผบ.เหล่าทัพทั้งหลาย ในอนาคตอาจทำหน้าที่เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยงหรือชงเหล้าให้พ.ต.ท.ทักษิณ
ในฐานะ ผบ.ทบ.ไม่สำนึกเลยบ้างหรือว่า ศักด์ศรีของกองทัพที่สั่งสมกันมานับร้อยปีกำลังถูกย่ำยี เกียรติภูมิของชายชาติทหารทุกคนถูกหมิ่นโดยซึ่งหน้า ด้วยคลิปนายพล “ถั่งเช่า”
พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่รู้ไม่เห็น” จริงๆ หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์คือทรราชในคราบประชาธิปไตยที่กำลังบ่อนทำลายรากฐานความมั่นคงของชาติ
ไม่มีใครเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์นำทหารออกมาปฏิวัติ ไม่มีใครเรียกร้องให้แสดงความกล้าหาญสมชายชาติทหารเหมือนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.คนก่อน ที่พาผู้นำเหล่าทัพประกาศจุดยืน ขอให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ลาออก เพื่อความสงบของบ้านเมือง
สิ่งที่สังคมเรียกหาคือ สำนึกความรับผิดชอบต่อวิกฤตประเทศ ในฐานะข้าราชการที่กินเงินเดือนภาษีคนหนึ่ง
สิ่งที่สังคมต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์แสดงออกคือ จุดยืนของประชาชนคนหนึ่งที่ต่อต้านนักการเมืองชั่วๆ ที่กำลังนำประเทศไปสู่ความล่มสลาย
แทบทุกกลุ่มอาชีพแล้วที่ลุกฮือขึ้นมาประกาศต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการตัวเล็กในหลายกระทรวงที่ออกมาเป่านกหวีดแสดงสัญลักษณ์ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
มีแต่กองทัพเท่านั้นที่เฉย เหลือแต่ผบ.ทบ.เท่านั้นที่อ้าง “ความเป็นกลาง” ทั้งที่สถานการณ์การเมืองขณะนี้ “ความเป็นกลาง” ไม่มีอยู่จริง มีแต่คนที่เลือกข้างแล้วเท่านั้น
ไม่เลือกยืนข้างประชาชนที่กำลังเดินหน้าปฏิรูปการเมือง ก็ต้องเลือกที่จะเป็น “ขี้ข้า” ระบอบทักษิณ
การติดยึดกับตำแหน่ง ผบ.ทบ. การฝันถึงหลักประกันชีวิตอันสุขสงบในวัยเกษียณ เป็นเงื่อนไขทำให้พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าประกาศจุดยืนเลือกข้างใช่หรือไม่
การรักษาความเป็นกลาง เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเอาตัวรอดใช่หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้หรือว่า การเอาตัวรอดวันนี้ จะทำให้กองทัพต้องตกเป็นขี้ข้าของระบอบทักษิณในวันหน้า
อนาคต ถ้ากองทัพเสื่อมสลาย หมดศักดิ์ศรีและเกียรติยศ ต้องก้มหน้าทำตามที่ตระกูลชินวัตรจะชี้นิ้ว ผู้นำเหล่าทัพทุกคนต้องสำนึกความผิดที่ทำในวันนี้จนวันตาย
ทหารทุกคนจะสาปแช่งผู้นำเหล่าทัพจนวันตาย
