00 ก่อนอื่นต้องยอมรับแบบหน้าไม่อายกันเลยว่า คาดการณ์ "ความรู้สึก"และความ "ตื่นรู้" ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ยิ่งมา "ยิ่งแรง" ไม่มีตก ไม่มีเบื่อ ไม่มีท้อเป็นอันขาด เป็นการ"คาดผิด"อย่างสิ้นเชิง ตอนแรกยังเชื่อว่า "มวลมหาประชาชน" วันที่ 24 พ.ย. ถือว่าเยอะมากแล้ว เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่เมื่อมาเจอกับวันที่ 9 ธ.ค.และล่าสุดวันที่ 22 ธ.ค.ยิ่งออกมา "มืดฟ้ามัวดิน" จำนวนเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน ทำให้นาทีนี้มีความสุขใจ และต้องบอกว่า "การปฏิรูป"ในประเทศไทยได้เกิดขึ้นแล้ว
00 ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็ได้เห็นแล้วว่า "ระบอบทักษิณ" ได้จบสิ้นแล้ว ไม่มีทางขยายเติบโตได้มากกว่านี้อีกแล้ว การซื้อเสียง การทุจริตโดยใช้นโยบายประชานิยมนำหน้า ทำไม่ได้ หรือไม่สะดวกอีกต่อไป เพราะนี่คือการตื่นรู้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลุกลามออกไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงหลัก อย่างภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่สำคัญแม้แต่เชียงใหม่ ที่ถือว่าเป็นบ้านเกิดของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังสั่นสะเทือนอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง
00 ปรากฏการณ์ของ "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ เที่ยวนี้ ยังสะเทือนไปถึง "สื่อ" และวงการ "นักวิชาการ" อีกด้วย เพราะการตื่นรู้คราวนี้ยังทำให้ประชาชนพร้อมใจกัน"ปฏิเสธสื่อ" ที่เรียกว่า "สื่อหลัก" อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะคราวนี้พวกสื่อทีวี และสื่อ"หนังสือพิมพ์ขี้ข้า" พากันรับใช้รัฐบาลทรราช ปิดหูปิดตา แต่ไม่ได้ผล เพราะในโลกยุคใหม่มี "โซเชียลเน็ตเวิร์ก" ชาวบ้านสามารถเป็นสื่อ และผลิตสื่อกันได้เองแล้ว มีทั้งภาพและเสียง ออนไลน์ แชร์กันอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว การแสดงความคิดเห็น"แหลมคม" มากกว่าพวกนักวิชาการ หรือสื่อหลายสำนัก ทำให้บรรดานักวิชาการหลายคน และสื่อพวกนั้น"ดูกระจอก" ในสายตาชาวบ้านกันแบบไร้ความหมาย นอกจากนี้ยังมี "สื่อโทรทัศน์ดาวเทียม" มาเติมเต็ม ทุกอย่างจึงไม่ถูกปิดกั้นเหมือนในอดีตอีกต่อไป และอย่าได้แปลกใจที่ระดมคนกันออกมากี่ครั้ง ก็มีแต่ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ
00 ถึงได้บอกว่านี่คือกระแสปฏิรูปที่ "ตกผลึก"ไม่ใช่เกิดขึ้นฉาบฉวยแบบม็อบเด็กๆ แบบพวกม็อบนิสิตนักศึกษาในยุค 14 ตุลา16 แต่คราวนี้ไปไกลกว่า ลึกซึ้งกว่า และสู้กับระบอบทักษิณ ที่เป็น"เผด็จการแฝง" และสุดสามานย์กว่า ดังนั้นการต่อรู้กับระบบที่ชั่วร้าย"เล่ห์เหลี่ยมจัด"แบบนี้ มันก็ต้องใช้การ "ตื่นรู้" เท่านั้นถึงจะกำหราบลงได้ และนาทีนี้ "มองข้าม" ไปได้เลยว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะลาออกจากรักษาการนายกฯ หรือไม่ และการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 จะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว สำหรับคนอย่าง ยิ่งลักษณ์ รวมถึงใครก็ตามในครอบครัวชินวัตร จะไม่มีทางเดินถนนได้อย่างปกติ ไม่มีใครยอมรับ ไปที่ไหนจะมีแต่เสียงก่นด่า อย่าว่าแต่จะบริหารบ้านเมืองเลย แค่เดินไปส่งลูกไปโรงเรียนยังทำไม่ได้เลย นี่แหละ ถึงได้บอกว่า "มันทรมาน" เจ็บปวดที่สุด ส่วนการเลือกตั้งก็เช่นเดียวกัน หากยังดึงดันกันอยู่ต่อไป ก็ยิ่งเสียหาย เพราะแม้จะเลือกตั้งได้ แต่ก็รับรองว่า เปิดสภาตั้งรัฐบาลไม่ได้ และประชาชนจะไม่ยอมให้ "นักการเมืองชั่ว" ตั้งรัฐบาลอย่างเด็ดขาด จนกว่าจะมีการปฏิรูปเสียก่อน และการปฏิรูปดังกล่าวนั้น จะต้องไม่มีนักการเมืองมา "เสียบ" เป็นอันขาด ต้องรอไปจนกว่า ประชาชนเขียนกรอบกติกา "ขีดเส้นให้เดิน" เท่านั้น ดังนั้นความหมายจึงคนละเรื่องกับที่ ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้เขียนโพย แล้วให้ ยิ่งลักษณ์ มาท่องว่าการตั้งสภาปฏิรูปโดยตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้าร่วม ไม่ใช่แบบนี้ และไม่มีนักการเมืองคนไหนเข้ามาร่วมเป็นอันขาด ให้รอฟังผลอย่างเดียว และถ้ารู้สึกว่า "เข้มงวด" อึดอัด ทนไม่ไหว ก็เชิญไปหากินทางอื่น !!
00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่เลี่ยงไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว ก็คือ "ทหารถั่งเช่า" เพราะ "ทางเริ่มแคบ" เข้ามาทุกขณะ และเชื่อว่าอีกไม่นานมวลมหาประชาชน ก็จะเดินไป"เค้นคอ" ถาม ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะ "รับใช้" ย้ำว่า จะรับใช้ใคร ระหว่าง มหาประชาชนกับ รัฐบาลทรราช ที่ชาวบ้านสำแดงพลังให้เห็นทุกวันว่า ไม่มีความหมายแล้ว หมดสภาพไปแล้ว "ต้องตอบ" ถ้าไม่ตอบก็แสดงว่า "ไม่ได้อยู่ข้างประชาชน" ก็ช่วยไม่ได้ ที่ถึงเวลา"ต้องขับไล่" ให้พ้นไปแล้วหา "นายทหารคนอื่น" เข้ามาแทน เพราะอยู่ไปก็เปลืองงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งก็รวมไปถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพคนอื่นด้วย ถึงเวลาชัดเจนแล้ว อย่ามัวอ้าง "เป็นกลาง" แบบซื่อบื้อ เป็นอันขาด
00 จะว่าไปแล้ว ทักษิณ ชินวัตร นี่มัน"โคตรเห็นแก่ตัว" จริงๆ ที่ยังดันทุรังส่งชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวตัวเอง ลงสมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง หวังกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ ทั้งที่รู้อยู่ว่าเธอ "ไม่มีสติปัญญา" ชาวบ้านเขาจับได้ไล่ทันแล้วว่า "โง่" ก็ยังส่งลงมาทำร้ายประเทศไทยไม่เลิก สร้างความอัปยศอดสูให้กับเกียรติภูมิประเทศ ทำลายศักดิ์ศรีตำแหน่งนายกฯของไทย อย่างป่นปี้ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้จบๆ กันไป !!
00 ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็ได้เห็นแล้วว่า "ระบอบทักษิณ" ได้จบสิ้นแล้ว ไม่มีทางขยายเติบโตได้มากกว่านี้อีกแล้ว การซื้อเสียง การทุจริตโดยใช้นโยบายประชานิยมนำหน้า ทำไม่ได้ หรือไม่สะดวกอีกต่อไป เพราะนี่คือการตื่นรู้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลุกลามออกไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงหลัก อย่างภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่สำคัญแม้แต่เชียงใหม่ ที่ถือว่าเป็นบ้านเกิดของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังสั่นสะเทือนอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง
00 ปรากฏการณ์ของ "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ เที่ยวนี้ ยังสะเทือนไปถึง "สื่อ" และวงการ "นักวิชาการ" อีกด้วย เพราะการตื่นรู้คราวนี้ยังทำให้ประชาชนพร้อมใจกัน"ปฏิเสธสื่อ" ที่เรียกว่า "สื่อหลัก" อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะคราวนี้พวกสื่อทีวี และสื่อ"หนังสือพิมพ์ขี้ข้า" พากันรับใช้รัฐบาลทรราช ปิดหูปิดตา แต่ไม่ได้ผล เพราะในโลกยุคใหม่มี "โซเชียลเน็ตเวิร์ก" ชาวบ้านสามารถเป็นสื่อ และผลิตสื่อกันได้เองแล้ว มีทั้งภาพและเสียง ออนไลน์ แชร์กันอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว การแสดงความคิดเห็น"แหลมคม" มากกว่าพวกนักวิชาการ หรือสื่อหลายสำนัก ทำให้บรรดานักวิชาการหลายคน และสื่อพวกนั้น"ดูกระจอก" ในสายตาชาวบ้านกันแบบไร้ความหมาย นอกจากนี้ยังมี "สื่อโทรทัศน์ดาวเทียม" มาเติมเต็ม ทุกอย่างจึงไม่ถูกปิดกั้นเหมือนในอดีตอีกต่อไป และอย่าได้แปลกใจที่ระดมคนกันออกมากี่ครั้ง ก็มีแต่ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ
00 ถึงได้บอกว่านี่คือกระแสปฏิรูปที่ "ตกผลึก"ไม่ใช่เกิดขึ้นฉาบฉวยแบบม็อบเด็กๆ แบบพวกม็อบนิสิตนักศึกษาในยุค 14 ตุลา16 แต่คราวนี้ไปไกลกว่า ลึกซึ้งกว่า และสู้กับระบอบทักษิณ ที่เป็น"เผด็จการแฝง" และสุดสามานย์กว่า ดังนั้นการต่อรู้กับระบบที่ชั่วร้าย"เล่ห์เหลี่ยมจัด"แบบนี้ มันก็ต้องใช้การ "ตื่นรู้" เท่านั้นถึงจะกำหราบลงได้ และนาทีนี้ "มองข้าม" ไปได้เลยว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะลาออกจากรักษาการนายกฯ หรือไม่ และการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 จะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว สำหรับคนอย่าง ยิ่งลักษณ์ รวมถึงใครก็ตามในครอบครัวชินวัตร จะไม่มีทางเดินถนนได้อย่างปกติ ไม่มีใครยอมรับ ไปที่ไหนจะมีแต่เสียงก่นด่า อย่าว่าแต่จะบริหารบ้านเมืองเลย แค่เดินไปส่งลูกไปโรงเรียนยังทำไม่ได้เลย นี่แหละ ถึงได้บอกว่า "มันทรมาน" เจ็บปวดที่สุด ส่วนการเลือกตั้งก็เช่นเดียวกัน หากยังดึงดันกันอยู่ต่อไป ก็ยิ่งเสียหาย เพราะแม้จะเลือกตั้งได้ แต่ก็รับรองว่า เปิดสภาตั้งรัฐบาลไม่ได้ และประชาชนจะไม่ยอมให้ "นักการเมืองชั่ว" ตั้งรัฐบาลอย่างเด็ดขาด จนกว่าจะมีการปฏิรูปเสียก่อน และการปฏิรูปดังกล่าวนั้น จะต้องไม่มีนักการเมืองมา "เสียบ" เป็นอันขาด ต้องรอไปจนกว่า ประชาชนเขียนกรอบกติกา "ขีดเส้นให้เดิน" เท่านั้น ดังนั้นความหมายจึงคนละเรื่องกับที่ ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้เขียนโพย แล้วให้ ยิ่งลักษณ์ มาท่องว่าการตั้งสภาปฏิรูปโดยตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้าร่วม ไม่ใช่แบบนี้ และไม่มีนักการเมืองคนไหนเข้ามาร่วมเป็นอันขาด ให้รอฟังผลอย่างเดียว และถ้ารู้สึกว่า "เข้มงวด" อึดอัด ทนไม่ไหว ก็เชิญไปหากินทางอื่น !!
00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่เลี่ยงไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว ก็คือ "ทหารถั่งเช่า" เพราะ "ทางเริ่มแคบ" เข้ามาทุกขณะ และเชื่อว่าอีกไม่นานมวลมหาประชาชน ก็จะเดินไป"เค้นคอ" ถาม ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะ "รับใช้" ย้ำว่า จะรับใช้ใคร ระหว่าง มหาประชาชนกับ รัฐบาลทรราช ที่ชาวบ้านสำแดงพลังให้เห็นทุกวันว่า ไม่มีความหมายแล้ว หมดสภาพไปแล้ว "ต้องตอบ" ถ้าไม่ตอบก็แสดงว่า "ไม่ได้อยู่ข้างประชาชน" ก็ช่วยไม่ได้ ที่ถึงเวลา"ต้องขับไล่" ให้พ้นไปแล้วหา "นายทหารคนอื่น" เข้ามาแทน เพราะอยู่ไปก็เปลืองงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งก็รวมไปถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพคนอื่นด้วย ถึงเวลาชัดเจนแล้ว อย่ามัวอ้าง "เป็นกลาง" แบบซื่อบื้อ เป็นอันขาด
00 จะว่าไปแล้ว ทักษิณ ชินวัตร นี่มัน"โคตรเห็นแก่ตัว" จริงๆ ที่ยังดันทุรังส่งชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวตัวเอง ลงสมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง หวังกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ ทั้งที่รู้อยู่ว่าเธอ "ไม่มีสติปัญญา" ชาวบ้านเขาจับได้ไล่ทันแล้วว่า "โง่" ก็ยังส่งลงมาทำร้ายประเทศไทยไม่เลิก สร้างความอัปยศอดสูให้กับเกียรติภูมิประเทศ ทำลายศักดิ์ศรีตำแหน่งนายกฯของไทย อย่างป่นปี้ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้จบๆ กันไป !!