xs
xsm
sm
md
lg

ติดพนัน-เสพโซเชียล จ่อเข้าข่ายโรคจิตเวช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - วัยทำงานป่วยสุขภาพจิตมากขึ้น พบแนวโน้มเสพติดการพนันออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ชี้สัญญาณเตือนใช้สื่อออนไลน์นานเกิน 3 ชั่วโมง โดยไม่พัก ระบุติดจนไม่ทำหน้าที่ตนเองเข้าขั้นเป็นโรค WHO จ่อประกาศเป็นโรคทางจิตเวชภายใน 1-2 ปี

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประชากรในวัยทำงานมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาภัยแล้ง ความเครียดจากหนี้สิน และความรัก ซึ่งอาการที่พบอันดับ 1 คือวิตกกังวล และซึมเศร้า ร้อยละ 4 ซึมเศร้า รองลงมาคือ ปัญหาติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จัด ทำให้มีปัญหาทะเลาะวิวาทในสถานประกอบการ

ขณะเดียวกัน ยังพบเทรนด์ใหม่มีการเสพติดการพนันออนไลน์ เสพติดโซเชียลมีเดีย หรือโรคเสพติดพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดในการทำงาน แต่หาทางออกไม่ได้เลยใช้เวลาอยู่กับสิ่งเหล่านี้จนเกิดการเสพติด สูญเสียความรับผิดชอบในการทำงาน เสียการรับผิดชอบในครอบครัว เป็นต้น

สำหรับวิธีสังเกตพฤติกรรมเสพติดสื่อหรือไม่นั้น พิจารณาจากการใช้สื่อออนไลน์ติดต่อกันเป็นเวลานาน 3 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ซึ่งถือเป็นอาการเริ่มต้น แต่เข้าข่ายเป็นโรคหรือไม่ ต้องดูจากการสูญเสียการทำหน้าที่ เช่น ไม่รับผิดชอบต่องาน ไม่ไปทำงาน หรือพ่อ แม่ ไม่ทำหน้าที่ในการดูแลบุตร

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกเตรียมที่จะบรรจุเรื่องของการเสพติดสื่อออนไลน์ให้เป็น 1 ในคำวินิจฉัยทางจิตเวช คาดว่าจะประกาศอยู่ในระบบการวินิจฉัยใหม่ที่เป็นเกณฑ์ให้แต่ละประเทศใช้ได้ภายใน 1-2 ปี ซึ่งหลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศใช้แล้ว กรมสุขภาพจิตก็จะมีการสำรวจปัญหาสุขภาพจิตแรงงานไทยอีกครั้ง เพื่อระบุความรุนแรงโรคการเสพติดพฤติกรรม ว่าอยู่ในระดับใด

"สุขภาพจิตในสถานประกอบการเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้กรมสุขภาพจิตร่วมกับสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกันจัดทำโครงการความสุข 8 ประการ สร้างสุขด้วยสติ เน้นการสื่อสารภายในที่ทำงาน ขณะที่ผู้ที่เริ่มมีปัญหาต้องรู้จัดการแผนชีวิต เช่น ออกกำลังกาย ฝึกการผ่อนคลาย ฝึกสมาธิ ถ้าเป็นมากก็ต้องได้รับการปรึกษานักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ ซึ่งปัจจุบันในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป จะมีคลินิกสุขภาพจิตมีบุคลากรเหล่านี้ทุกแห่ง ส่วนโรงพยาบาลชุมชนก็มีเกือบจะครบทุกแห่งแล้ว" นพ.ยงยุทธ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น