xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

คสช.ติดกับโลกล้อมประเทศหวดอย่างเดียวอุดปากไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ขึ้นกันเป็นดอกเห็ดกับอีเวนต์ขุดบ่อล่อปลา ไปๆ มาๆ ชักจะสัมพันธ์กันหมด ไม่ว่าจะเป็น“เสี่ยไก่”วัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกรวบเข้าค่ายทหารยังไม่รู้ชะตาจะได้เสรีภาพวันไหน หลังปล่อยบทยั่วประสาท คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นหมูไม่กลัวปังตอ ต่อเนื่องมาคิวนักวิชาการหลายสถาบัน สวมเสื้อโหวตโน แถลงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และล่าสุด“จ่านิว”สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ออกมาสวมชุดขาวจังก้า ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ท้าทาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีโทษสูงถึง 10 ปี

แม้จะมาต่างกรรม ต่างวาระ แต่มาในเวลาไล่เลี่ยกัน สอดประสานในธงเดียว คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญโดยสันติอหิงสา แบบรู้ทั้งรู้ว่า ถูกทหารจ้องตาเขม็ง ก็ยังเปรี้ยวออกมาให้จับ เสมือนหนึ่งเป็นการจงใจให้ถูกจับ เพื่อเรียกร้องให้คนในสังคมรับรู้ ลงทุนไม่ต้องเยอะ แต่กระแสที่ได้คุ้มค่า เรื่องของเรื่องเพราะรู้ว่า ทหารไม่กล้าทำอะไร นอกจากจับเข้าค่ายไปปรับทัศนคติ หรืออบรมหลักสูตร เป็นเวลา 7 วัน หรือเต็มที่สุดๆ ก็แค่โดนขึ้นศาลทหาร

แต่สุดท้ายปลายทางของทหารก็ได้แค่นั้น เพราะยาแรงของทหารทำได้แค่ คดีกระทบความมั่นคง จะรุกคืบยัดคดีหนักๆกว่านี้ เป็นเรื่องยาก ดาบอาญาสิทธิ์อย่าง มาตรา 44 เลยเริ่มชักจะดื้อยาเข้าไปทุกทีๆ หลังจากนี้ต้องรอดู“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กับ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สองศรีพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ จะแก้เกมอย่างไร เพราะแค่เริ่มต้นฝ่ายตรงข้ามก็แก้เกมกฎเหล็กกันได้เสียแล้ว

แล้วดูทีท่าไม่น่าจะจบแค่นี้ สำหรับศึกประชามติ คงจะมีการขยับลุกลามบานปลายไปเรื่อยๆ ตามยุทธศาสตร์ที่มีการเตรียมการแก้เกมคสช.กันมาอย่างดี โดยเฉพาะ “เสี่ยไก่”หรือ “จ่านิว”ที่ส่งสัญญาณชัด พ้นจากค่ายหรือจากการควบคุมตัวไปได้ จะออกไปเต้นกระตั๊วแทงเสือ ยั่วประสาทฝ่ายผู้มีอำนาจต่อ โดยเอาเรื่องร่างรัฐธรรมนูญเป็นธีมหลักของงาน ที่ตีกิน ดิสเครดิตรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ได้เป็นพักใหญ่

โดยเฉพาะมุมเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่ คสช.สั่งห้ามกระดุกกระดิก แม้แต่เปล่งเสียงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ มีสิทธิ์ถูกลากตัวเข้าค่ายทหารทันควัน ที่ถูกมองกันว่าทหารโอเวอร์แอ็กติ้งเกินไป ทั้งที่เรื่องดังกล่าวควรจะต้องเปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเต็มที่ แต่นี่จะจับมัดตราสังข์ ให้รับและพูดได้แต่ข้อดีอย่างเดียว ประเด็นนี้อย่างไรก็เรียกแขกได้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนบางส่วนในสังคม หรือพวกเซนซีทีฟ อย่างองค์กรระหว่างประเทศ ที่รอขย้ำซ้ำทันทีที่เปิดแผลนี้

เชื่อหัวไอ้เรือง! ถ้าคสช. ยังใช้กฎเหล็กแบบนี้ มันจะมีคนอย่าง“เสี่ยไก่”และ“จ่านิว”ขึ้นอีกเป็นพืด คสช.ได้ไล่กวดจับกันรายวันไม่หมด วันนี้ยังมีแค่กทม. แต่วันข้างหน้า อาจจะลุกลามไปต่างจังหวัด เป็นกระแสจนทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อไหร่ ก็มีผลต่อการลงประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคม แน่ๆ โดยเฉพาะในแง่ไม่รับ จะมีมากกว่า จากเดิมที่ประชาชนไม่ค่อยสนใจในเนื้อหาเท่าไหร่ แต่เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น จะหันมาใส่ใจทันที ตามนิสัยคนไทย คนถูกกระทำย่อมน่าสงสารเสมอ เรียกคะแนนได้เป็นเทน้ำเทท่า 

  ยิ่งถ้ากระแสติดในช่วงปลายก่อนจะลงประชามติ โอกาสร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะแท้งซ้ำรอยศิษย์ก้นกุฏิ “ดร.ปื๊ด”บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2558 ก็มีสูง เผลอๆอาจไม่ได้ถูกคว่ำเพราะประชาชนไม่เห็นชอบ แต่จะถูกแป๊ะล้มกระดาน ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมก่อน เพราะปล่อยสถานการณ์ให้ถึงจุดคว่ำไม่ได้ จะกลายเป็นเข้าบาทาฝั่งตรงข้ามทันที

ต่อให้มีมุกมัดมืดชก ไม่รับต้องหนีเสือปะจระเข้ แต่จะทำได้จริงหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าสถานการณ์เดินไปสู่จุดที่ประชาชนโหวตไม่เห็นชอบจริงๆ เพราะความชอบธรรม ที่ คสช.จะไปทำอะไรที่มันสุดโต่งได้เหมือนที่แล้วมาจะลดลงน้อยลง ขณะเดียวกัน ฝ่าย“นายใหญ่”ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งจะได้ใจ เพราะตีกินได้ว่า ประชาชนที่ไม่เห็นชอบ คือฝ่ายตัวเอง หรือฝ่ายที่ไม่เอา คสช. กระบองอาญาสิทธิ์ มาตรา 44 ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้จะคุมสถานการณ์ได้อยู่อีกหรือไม่

นี่คือบันไดขั้นแรก ถ้าคิดจะล้ม คสช. ลำพังจะนำม็อบออกมาเคลื่อนเลย ทำไม่ได้อยู่แล้วในสถานการณ์อย่างนี้ แต่ถ้ามีแรงกดจากการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญได้ ความชอบธรรมในการขับเคลื่อนจะมีมากขึ้น อย่างน้อยๆก็กวักมือเรียกองค์กรระหว่างประเทศบางแห่งที่ตัวเองเอาล็อบบี้ยิสต์ไปฝังไว้ ให้ออกมารับลูก แล้วร่วมกันกดดัน คสช. ตาม“ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ”ที่ใช้กันมาแต่ดั้งแต่เดิม ตั้งแต่ไทยรักไทย เริ่มชักธงรบกับอำมาตย์ใหม่ๆ จนมาถึงยุคนี้ ที่ก็ใช้กันอยู่เป็นประจำ

อย่างกรณีของ วัฒนา-จ่านิว-นักวิชาการบางกลุ่ม ที่ออกโรงต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากหมุดหมายในการร้องแรกแหกกระเชอให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาจุ้นแบบจงใจ หรือการจงใจให้ทหารจับ เพื่อโหมประเด็นสิทธิมนุษยชน อ่อยให้เหล่าองค์กรสิทธิมนุษยชน กระเหี้ยนกระหือรือเรียกร้องให้ทหารหยุดคุกคามแล้ว เบื้องลึกเบื้องหลังยังน่าสนใจว่า จะเข้าอีหรอบรู้เห็นเป็นใจ แบ่งบทกันเล่นหรือเปล่า ทั้งไทยทั้งเทศ

เพราะอย่างที่รู้กัน “เสี่ยไก่”ก็เป็นมือประสานสิบทิศเก่า คอยดีลระหว่าง“นายใหญ่”กับฝ่ายอำมาตย์มานานหลายปี เป็นผู้มากคอนเนกชั่นคนหนึ่ง เครือข่ายต่างประเทศรู้จักไม่น้อย ขณะที่“จ่านิว”แม้วันนี้ใครจะมองว่า ใสบริสุทธิ์ตามประสานักศึกษาผู้มากอุดมการณ์ แต่ลึกๆ กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ ก็ได้รับทุนสนับสนุนจากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือ “USAID”เช่นเดียวกับนักวิชาการ เอ็นจีโอ ต่างๆ ที่ได้รับทุนสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ

การออกมาวิพากษ์วิจารณ์แบบชวนให้ทหารของขึ้นเพื่อจับกุมตัว การเดินทางไปยื่นหนังสือถึงสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และสถานทูตสหรัฐอเมริกาทันที หรือภาพทูตประเทศต่างๆ คอยสังเกตการณ์ตอน“เสี่ยไก่”มอบตัว เหมือนมีการซักซ้อม และเตรียมการกันไว้เป็นดิบดี

ดังนั้น จากนี้เป็นหน้าที่ของ คสช. ที่ต้องคิดหนักว่าจะแก้เกมกันอย่างไร ต้องทบทวนว่า ไม้แข็งที่ตั้งใจว่าจะเอาไว้อุดปากเพื่อดันทุรังให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปให้ได้ มันเป็นการกดทับที่ได้ผลจริงหรือไม่ หรือยิ่งเป็นการเปิดช่องให้อีกฝ่ายเดินเกมได้ง่ายขึ้น รวมถึงพรากแนวร่วมจากตัวเองไปอยู่อีกฝั่งได้

 นักการเมืองอย่างไรก็เจ้าเล่ห์กว่าทหาร ยาแรงใช้ได้แค่ครั้งคราวเท่านั้น เผลอๆถ้าคสช.ปล่อยให้จัดๆไป พวกอีเวนต์เล็กๆ เหล่านี้ ข่าวอาจไม่ดังเท่าไปสั่งห้ามก็ได้ !!!



กำลังโหลดความคิดเห็น