ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ลุ้นกันใจหายใจคว่ำว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะอยู่ได้ถึงชั้นประชามติหรือไม่ หรือจะลงเอยแบบเดียวกับศิษย์ก้นกุฏิ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้ชิมลางรสชาติการทำประชามติแม้สักอึก แต่ต้องมีอันเป็นไปตั้งแต่ชั้นสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เอาเป็นว่า งานนี้ทีมซือแป๋ 21 คนรอดตัว ไม่ต้องมานั่งกระอักเลือด มีรอยมีดปักคาอยู่ข้างหลัง
บรรยากาศต่อจากนี้ ตื่นเต้นเร้าใจแน่ เพราะมันเป็นการตัดสินอนาคตประเทศครั้งสำคัญ รวมถึงชะตากรรมพรรคการเมือง และนักการเมืองอีกหลายต่อหลายคน
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่เสียประโยชน์จากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากกว่าใครเพื่อน ชนิดถ้าผ่านไปได้แทบจะไม่มีที่ยืนในสภา หรือเข้ามาก็เป็นเพียงเป็ดง่อยตัวเล็กๆ ที่ถูกลิขิตชีวิตให้เดินตามกรอบที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดไว้ในกติกาสูงสุดของประเทศ
จึงไม่ประหลาดใจนัก สำหรับแถลงการณ์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาตั้งแต่ไก่โห่ เพราะจะว่าไปมันเห็นชัดกันตั้งแต่ก่อนร่างรัฐธรรมนูญจะเสร็จด้วยซ้ำ รับรู้กันอยู่เต็มอกอยู่แล้วว่า จะให้ใครหน้าไหนมายกร่าง จุดมุ่งหมายคือ บอนไซทำลายให้แตกกระเจิง ยิ่งหนนี้มีซือแป๋มีชัย เป็นหัวขบวน ชะตากรรมพวกตัวจะหนักหน่วงยิ่งกว่าบวรศักดิ์ ให้ดูจารึกวีรกรรมเมื่อพฤษภาคมปี 35 เป็นมรณานุสติ
พอพรรคเพื่อไทยประกาศชัดแบบนี้ ภาพการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ “ฉบับหน้าแหลมฟันดำ”เมื่อปี 2550 ลอยกลับเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งมันมีผลต่อการลงประชามติของประชาชนแน่ เพราะที่รอบแล้ว แพ้เพียงเกือบๆ 4 ล้านเสียง ไม่ได้ขาดลอย ที่สำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผ่านในตอนนั้น เป็นเพราะเหลี่ยมคูของเหล่าซือแป๋ยุค 50 ที่ใช้วลี รับๆ ไปก่อนแล้วค่อยแก้ทีหลัง
แต่สุดท้ายรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวกลายเป็นของร้อนที่ใครจะแตะต้องนั้นลำบาก พรรคเพื่อไทยพยายามกี่รอบต่อกี่รอบไม่เคยสำเร็จ
หนนี้ไม่มีมุกดังกล่าวแล้ว แต่เปลี่ยนร่างเป็นเวอร์ชั่น “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. นั่นคือ อย่างไรก็มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นกลางปี 60 แน่ ซึ่งในแง่ของประชาชน การพูดลักษณะนี้มีผลต่อจิตวิทยา เพราะทำให้เบี่ยงเบนความสนใจให้ทุกคนพุ่งเป้าไปที่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และไม่ได้ใส่ใจเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญสักเท่าไหร่ เผลอๆ บางรายพูดถึงหน้าตานายกฯ และรัฐบาลชุดหน้ากันแล้วว่า จะเป็นอย่างไร
ให้ดูปฏิกิริยาของพรรคเพื่อไทยเองก็ทราบจุดนี้ดีว่ามันมีผลต่อการตัดสินใจ ถึงได้ย้ำในแถลงการณ์ของพรรคในลักษณะของการให้ประชาชนอดทนอดกลั้น อย่าเพิ่งคิดแต่จะเลือกตั้งจนหน้ามืดตามัว เพราะต่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋มีชัย จะผ่านหรือไม่ผ่าน อย่างไรการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นในปี 60 ตามที่ “บิ๊กตู่”สัญญาเป็นประชาคม ซึ่งก็แสดงให้เห็นเหมือนกันว่า พรรคเพื่อไทยก็หวั่นๆ ประชาชนจะไขว้เขว
แต่จะทำให้ประชาชนเข้าใจถ่องแท้ทั้งหมดเป็นเรื่องยาก เพราะขนาดพรรคเพื่อไทยในวันนี้ แม้บรรดาแกนนำของพรรค จะยืนหยัดในการล้มร่างรัฐธรรมนูญ แต่ส.ส.ในพื้นที่ตอนนี้คงไม่คิดเช่นนั้นทุกคน อดอยากปากแห้งมานานวัน กระเป๋าแบนกันมาร่วม 2 ปี บ่นๆ กันเสียงดัง นาทีนี้ขอแค่มีเลือกตั้ง ไม่ตกงานน่าจะพอด้วยซ้ำไป
ดังนั้น อะไรๆก็ยังไม่แน่ วันนี้เร็วไปที่จะพูดว่าใครจะชนะในศึกประชามติ ตัวพรรคเพื่อไทยเองต้องมีการชั่งกันอีกรอบก่อนวันกากบาท แถลงการณ์ที่ออกมาเป็นแค่ความคิดของแกนนำ ต้องทำตามเนื้อผ้า ในฐานะที่ต้องรักษาภาพพรรคตรงข้ามฝ่ายเผด็จการทหาร
นั่นเป็นเพราะการที่รัฐบาลอุบไต๋ไม่ยอมเปิดเผยไพ่ใบสุดท้ายในมือ ว่าเป็นอะไร ไม่ยอมบอกว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีอันเป็นไปแล้วจะทำอย่างไรต่อ แถมยังจะรู้ทีหลังหลังทราบผลอย่างเป็นทางการแล้ว มันเลยทำให้อย่าว่าแต่พรรคเพื่อไทยหวาดระแวงเลย พรรคอื่นก็โลเล ดูปฏิกิริยาของหล่อใหญ่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บี้เช้าบี้เย็นให้ คสช.คลายความลับออกมา ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเอาเปรียบประชาชน เพราะการซุกซ่อนทางออกเอาไว้ ทำให้การตัดสินใจของแต่ละพรรคไม่นิ่ง กลัวว่า ถ้าใจแข็งไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อาจได้สิ่งที่เลวร้ายกว่าเดิม ชนิดที่ตัวเองไม่มีสิทธิเลือกได้ เหมือนหนีเสือปะจระเข้
ยิ่ง“บิ๊กตู่”ประกาศกร้าวเอาไว้แล้ว อย่างไรเลือกตั้งปี 60 โอกาสถูกมัดมือชกเป็นไปได้สูง ซึ่งก็เหมือนกับที่ ส.ส.บางคนคิด ชั่วโมงนี้ถ้ารับร่างยังพอจะเห็นว่าจะได้อะไร แต่ถ้าไม่รับร่าง ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่คสช.ยัดให้จะเป็นทุ่นระเบิดหรือเปล่า
อีกสิ่งที่สำคัญที่จะเข้ามามีส่วนต่อผลคะแนน หนีไม่พ้นหลักสูตรอบรมนักการเมือง 7 วัน ที่ “บิ๊กหมู”พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคสช. ไปเนรมิตมาชงให้คสช. ขู่ฟ่อกันเสียงดัง ค่ายทหารที่เปิดคอร์สนี้มีทั่วประเทศ แม้กระทั่งพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เหมือนเป็นการเตรียมการมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไว้เป็นเครื่องมืออุดปากนักการเมืองขี้จ้อ คราวนี้ใครจะเคลื่อนไหวรณรงค์โหวตคว่ำ ต้องดูหน้าดูหลังให้ดี
แต่ว่าไปมันก็เกินไปหน่อย ไม่ปล่อยให้วิพากษ์วิจารณ์ มันจะถูกคนนินทาหมาดูถูกเอาได้เหมือนกันว่า ใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อให้ประชามติผ่าน แล้วที่ต้องจับตาอีกอย่าง คำถามพ่วงประชามติไปๆ มาๆ ภาพพอใจร่างรัฐธรรมนูญของคสช. ตุปัดตุเป๋จะเป็นภาพลวงตาเข้าให้ หลังจากที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เห็นชอบชงคำถาม ให้ ส.ว.มีสิทธิ์ร่วมโหวตนายกฯได้
เข้าอีหรอบนี้ แนวโน้มสูงว่าจะมีหวยล็อก ใบสั่งกันอีกสักหนในฐานะที่สนช. เป็นมือเป็นไม้มาหลายงาน