รองนายกฯ แจง กม.อุดช่องว่างฟอกเงินพอสมควรแล้ว ยกดีกว่าหลายชาติ ต้องดูก่อนปมปานามาเปเปอร์ถูกหรือผิด แย้มอาจไปลงทุนต่างประเทศส่อไม่ผิด ย้ำคนที่จะเคาะคำถามพ่วงประชามติคือ สนช. ปรับอาจจัดเรียงประโยคให้เข้าใจง่ายขึ้น แจงบัตรลงคะแนนเสียแยกเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง ไม่ถือว่าเสียทั้งใบ
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ระบุว่ายังไม่สามารถเอาผิดต่อคนไทยที่มีชื่อพัวพันการฟอกเงินจากการเผยแพร่ของเอกสารปานามา เปเปอร์ จะมีการเสนอให้ออกกฎหมายใหม่เพื่ออุดช่องว่างกฎหมายปัจจุบันที่ไม่สามารถเอาผิดต่อบุคคลเหล่านี้ได้หรือไม่ว่า ไม่ใช่เรื่องช่องว่าง เพราะความจริงเรื่องช่องว่างก็อุดไว้พอสมควรแล้ว
“ความจริงประเทศไทยถือว่ามีการป้องกันเกี่ยวกับการฟอกเงินได้ดีมาก และดีกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำ แต่ส่วนที่เล็ดลอดจนเป็นเหมือนช่องว่างนั้นเป็นสิ่งที่คิดกันมาตั้งแต่อดีตแล้วว่ามันไม่สามารถและไม่จำเป็นที่ต้องตามไปดูอย่างนั้นมากกว่า วันนี้ยังไม่มีอะไรมากจนกว่าจะเกิดความชัดเจนขึ้นมา ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องตามไปเอาผิด ต้องดูก่อนว่าที่เขาทำถูกหรือผิด เพราะบางทีอาจเป็นการไปลงทุนในต่างประเทศเหมือนที่รัฐมนตรีคลังพูด และไม่อยากนำเงินเข้าประเทศ เพราะจะมีปัญหาเรื่องภาษี จึงพักเงินไว้ในต่างประเทศที่ไม่มีการเก็บภาษี ซึ่งใครๆ ก็อยากไปพักตรงนั้น จึงไม่ได้ถือว่าเป็นการหนีภาษี อาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้” นายวิษณุกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไม่ผิดกฎหมาย รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่ผิด และคิดกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ควรจะเอาผิด ถ้าวันนี้คิดว่าควรจะเอาผิดก็ควรคิดกันใหม่อีกแบบหนึ่ง และต้องคิดว่าผลกระทบสุดท้ายจะคุ้มหรือไม่
นายวิษณุยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าคำถามพ่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอให้รัฐสภาสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรก มีข้อความยาวไปจึงควรปรับปรุงคำถามว่า ตามปกติต้องยึดถือตามที่ สนช.ตั้งมา ตอนนี้ตนยังไม่เห็นคำถามของ สนช. เห็นแต่ที่มีการเสนอผ่านสื่อ หากจะปรับปรุงคำถามทำได้เพียงการจัดเรียงรูปประโยคให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่แทรกเนื้อหาอื่นหรือตัดทอนไม่ได้ เรื่องคำถามพ่วงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กกต.เองก็คงทำไม่ถูก ถ้าจะทำคงต้องให้ สนช.ดำเนินการ ถ้า กกต.จะนำเรื่องดังกล่าวมาหารือกับตนในวันที่ 11 เม.ย. สามารถทำได้ แต่สุดท้ายคนที่จะเคาะคือ สนช. ส่วนบัตรลงคะแนนประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงนั้นจะใช้ใบเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ใช้ตัวอักษรคนละสี หากมีการทำบัตรเสียส่วนใดส่วนหนึ่ง ไม่ถือว่าบัตรใบนั้นเสียทั้ง 2 ส่วน เพราะได้ตกลงกันแล้วถือว่าแยกส่วนกัน อย่างไรก็ตาม หากร่างรัฐรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่านประชามติ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีเวลาหลังจากนั้นอีก 1 เดือน เพื่อปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง แล้วจึงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจทาน หากไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มเติมสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ทันที
