“ประวิตร” เป็นประธานพิธีสถาปนากลาโหม 129 ปี หวังกำลังพลตั้งใจทำงานเพราะ ปชช.คาดหวัง ย้ำแผนงานทำให้เกิดความเชื่อมั่น แจงไม่ได้ซื้ออาวุธแบบเปะปะ ย้ำเสียงแข็งปี 60 เลือกตั้ง ชี้กติกาต้องดี ไม่อยากให้ชาติกลับถอยหลัง โต้ไม่มีใบสั่ง คสช.เหตุ สนช.เห็นชอบคำถามพ่วง ส.ว.เลือกนายกฯ ไม่ตอบเห็นด้วยหรือไม่
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีงานคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหมครบรอบ 129 ปี โดย พล.อ.ประวิตรนำคณะข้าราชการระดับสูงกระทรวงกลาโหม อาทิ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ร.อ.อนุทัย รัตตะรังสี รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.พอพล มณีรินทร์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม กระทำพิธีถวายราชสักการะและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งจัดพิธีสงฆ์ จากนั้น พล.อ.ปรีชาเป็นประธานมอบโล่ให้แก่ราชการดีเด่นและอาคารที่พักอาศัยดีเด่นของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมประจำปี 2559 ด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในวันนี้เป็นวันสถาปนากระทรวงกลาโหมที่ถือเป็นวันสำคัญของกองทัพไทย เป็นกระทรวงที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมาเป็นระยะเวลานาน ปีนี้เป็นปีที่ 129 ได้สร้างคุณประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ประเทศชาติมามาก ตนขอขอบคุณกำลังพลกระทรวงกลาโหมทุกคนและครอบครัวที่เป็นกำลังใจให้แก่กำลังพลทุกคน ขอให้ทุกคนทำงานให้แก่ประเทศชาติ และสถาบันฯ และประชาชน โดยท้ายที่สุดคือการทำให้กระทรวงกลาโหมมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป เป็นที่เชื่อมั่นให้กับประชาชน หวังว่ากำลังพลทุกคนคงตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมเพราะประชาชนคาดหวังให้กำลังพลของกระทรวงกลาโหม ทำงานอย่างเข้มแข็งและประสบความสำเร็จ ซึ่งเวลาที่เหลือก่อนจะไปสู่การเลือกตั้งในปี 60 กระทรวงกลาโหม และ เหล่าทัพก็ได้วางแผนงานพัฒนาในระยะ 5-10, 15-20 ปีเพื่อให้ภาพรวมของกระทวงเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน โดยเฉพาะการจัดหายุทโธปกรณ์เข้าประจำการก็ไม่ได้ซื้ออย่างเปะปะ ถ้าจะซื้อทดแทนก็ต้องดูให้ดีว่าจะจัดหาอย่างไรให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพในดูแลประเทศชาติต่อไปในอนาคต สมกับภาษีของประชาชนที่ต้องเสีย ขอให้เชื่อมั่นว่ามีความตั้งใจทำงานให้ส่วนรวม
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์มาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนพูดคุยกับอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทยในงานรดน้ำดำหัวสืบสานประเพณีไทยของพรรคเพื่อไทยให้เตรียมพร้อมเลือกตั้งว่า ในปี 2560 ก็ต้องเลือกตั้งตามโรดแมป ตนคิดว่าทุกพรรคการเมืองก็เตรียมการเลือกตั้งเพราะอยากเลือกตั้ง แต่เขาก็ต้องชอบกติกาด้วยซึ่งกติกาก็ต้องดี ทั้งนี้ ก็มีอยู่หลายอย่าง ในระยะเปลี่ยนผ่านนั้นทุกคนก็ต้องยอมรับกัน เพราะไม่อยากให้สิ่งที่ทำมาหลายอย่างแล้วกลับไปเป็นแบบเดิมซึ่งคงไม่ไหว เพราะประเทศชาติเดินมาช้าแล้ว ตั้งแต่ปี 2547 มาก็เสียหายมากแล้ว ตอนนี้เรากำลังตั้งหลักได้และกำลังเดินหน้าต่อไป ไม่อยากที่จะถอยหลังกลับมา ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ยอมรับกันในภาพรวม โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้า คสช.รับผิดชอบอยู่ ก็ต้องการทำให้ประเทศชาติเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางรากฐานทางความมั่น เศรษฐกิจ และสังคม
เมื่อถามว่า เริ่มมีการพูดว่าหากประชามติร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำจะไม่มีการเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตรตอบทันทีว่า “ไม่มี ไม่มีอย่างนั้น ก็บอกแล้วว่าต้องมีเลือกตั้ง ผมขี้เกียจพูดแล้ว พูดแค่ว่าเลือกตั้งปี 60 ก็พอ และขอให้จบ ผู้สื่อข่าวก็ช่วยบอกพวกที่ปลุกระดมไปว่า เลือกตั้งปี 60 แน่นอน ส่วนกรณีที่มติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบคำถามพ่วงประชามติให้ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้นก็ให้ไปถาม ส.ว. จะมาถามตนได้อย่างไร เพราะตนไม่รู้ แล้วแต่เขารัฐธรรมนูญเขียนไว้ และให้ สนช.ดำเนินการอย่างไร เมื่อถามต่อว่าฝ่ายต้านมองว่าเป็นใบสั่ง คสช. พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า เขาคิดไปเอง ใครจะมายอมให้ตนสั่ง และจะไปสั่งคนตั้ง 200 คนได้อย่างไร ที่คิดกันก็อยากให้บ้านเมืองเจริญ
พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญยังไม่มีการลงประชามติเลย ดังนั้น การที่เขาตั้งคำถามคือการติงรัฐธรรมนูญว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป ถ้าประชาชนเห็นอย่างนี้ คนเขียนรัฐธรรมนูญจะคิดอย่างไร อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญจะผ่านการลงประชามติหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน ส่วนตนจะเห็นด้วยกับการให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในใจ ไม่ขอตอบ เพราะเป็นสิทธิของตน เมื่อถามว่า นักการเมืองคนใดมีความหวังจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ได้เลือกใคร ทุกคนเป็นได้ทั้งหมด ขอให้ไปดูกันเอง