ผู้จัดการรายวัน360-"อาคม"พอใจปรับโฉมรถเมล์เก่าต้นแบบ 3 คัน เตรียมนำวิ่งทดสอบ ผอ.ขสมก.เผยมีรถเก่า671คันเข้าคิวปรับโฉมลงทุนคันละ 8 แสน-1.6 ล. ถูกกว่าซื้อใหม่ โดยยืดอายุใช้งานอีก 15 ปี คาดเสร็จหมดใน1ปี พร้อมจัดมาตรการคุมเข้มบริการสาย 8 วัดผลใน 3 เดือน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินการและติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงสภาพรถโดยสารต้นแบบขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ณ อู่พระราม 9 ว่า ตามแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. ได้เสนอแผนปรับปรุงรถโดยสารเก่า จำนวน 671 คัน มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงรถร้อนและรถแอร์ประมาณ คันละ 8 แสน-1.6 ล้านบาท โดยสามารถยืดอายุการใช้งานรถได้ประมาณ 15 ปี ซึ่งจากการปรับปรุงสภาพรถโดยสารต้นแบบจากรถเก่าเป็นรถใหม่ขณะนี้ จำนวน 3 คัน (รถร้อน 2 คัน รถแอร์ 1 คัน) มีการปรับปรุงเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ซ่อมแซมตัวถังรถ พร้อมทั้งติดตั้งระบบ GPS และกล้อง CCTV เพิ่มเติม และจะติดตั้งระบบตั๋วร่วม E-Ticket เพื่อทดลองใช้ต่อไป
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า การปรับปรุงรถเก่าใช้งบประมาณเฉลี่ยประมาณคันละ 1.5 ล้านบาท หากจัดซื้อรถใหม่จะใช้งบมากกว่าคันละ 3 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามแผนงานจะแบ่งการปรับปรุงรถเก่าเป็น 2 ล็อต โดยล็อตแรก 671 คัน เป็นรถร้อนประมาณ 521 คัน รถปรับอากาศ 150 คันโดยจะทยอยนำรถเข้าปรับปรุงชุดละ 60 คัน ครบทั้ง 671 คันใน 1 ปี และล็อตที่ 2 จะนำรถเก่ามาปรับุงอีกประมาณ 500 คัน
นอกจากนี้ นายสุระชัย ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาการให้บริการของรถเอกชนร่วมบริการ สาย 8 ซึ่งมีสถิติถูกร้องเรียนในปี 2557 จำนวน 106 ครั้ง และปี 2558 จำนวน 83 ครั้ง ว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ สาย 8 ทั้ง 4 สัญญาแล้ว พบว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาการร้องเรียน มาจากปัจจัย 3 เรื่อง ได้แก่ ผู้บริหารหรือหัวหน้าชุดขาดการดูแลพนักงานขาดการอบรมกฎระเบียบ และเน้นธุรกิจมากกว่าความปลอดภัยของผู้โดยสาร จึงกำหนดมาตรการระยะสั้น ให้ผู้ประกอบการทำบัญชีรถ พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารประจำรถแต่ละคันโดยห้ามเปลี่ยนเพื่อง่ายต่อการติดตามตรวจสอบ และต้องศึกษาคนและสภาพตัวรถมีปัญหาถ้ามีไม่ควรออกมาทำงาน ต้องกำกับดูแล ตรวจสอบ โดยให้เวลา 3 เดือน หากบริการยังไม่ดีขึ้นขสมก. จะพิจารณาการต่อสัญญาเข้าร่วมเดินรถต่อไป
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินการและติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงสภาพรถโดยสารต้นแบบขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ณ อู่พระราม 9 ว่า ตามแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. ได้เสนอแผนปรับปรุงรถโดยสารเก่า จำนวน 671 คัน มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงรถร้อนและรถแอร์ประมาณ คันละ 8 แสน-1.6 ล้านบาท โดยสามารถยืดอายุการใช้งานรถได้ประมาณ 15 ปี ซึ่งจากการปรับปรุงสภาพรถโดยสารต้นแบบจากรถเก่าเป็นรถใหม่ขณะนี้ จำนวน 3 คัน (รถร้อน 2 คัน รถแอร์ 1 คัน) มีการปรับปรุงเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ซ่อมแซมตัวถังรถ พร้อมทั้งติดตั้งระบบ GPS และกล้อง CCTV เพิ่มเติม และจะติดตั้งระบบตั๋วร่วม E-Ticket เพื่อทดลองใช้ต่อไป
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า การปรับปรุงรถเก่าใช้งบประมาณเฉลี่ยประมาณคันละ 1.5 ล้านบาท หากจัดซื้อรถใหม่จะใช้งบมากกว่าคันละ 3 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามแผนงานจะแบ่งการปรับปรุงรถเก่าเป็น 2 ล็อต โดยล็อตแรก 671 คัน เป็นรถร้อนประมาณ 521 คัน รถปรับอากาศ 150 คันโดยจะทยอยนำรถเข้าปรับปรุงชุดละ 60 คัน ครบทั้ง 671 คันใน 1 ปี และล็อตที่ 2 จะนำรถเก่ามาปรับุงอีกประมาณ 500 คัน
นอกจากนี้ นายสุระชัย ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาการให้บริการของรถเอกชนร่วมบริการ สาย 8 ซึ่งมีสถิติถูกร้องเรียนในปี 2557 จำนวน 106 ครั้ง และปี 2558 จำนวน 83 ครั้ง ว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ สาย 8 ทั้ง 4 สัญญาแล้ว พบว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาการร้องเรียน มาจากปัจจัย 3 เรื่อง ได้แก่ ผู้บริหารหรือหัวหน้าชุดขาดการดูแลพนักงานขาดการอบรมกฎระเบียบ และเน้นธุรกิจมากกว่าความปลอดภัยของผู้โดยสาร จึงกำหนดมาตรการระยะสั้น ให้ผู้ประกอบการทำบัญชีรถ พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารประจำรถแต่ละคันโดยห้ามเปลี่ยนเพื่อง่ายต่อการติดตามตรวจสอบ และต้องศึกษาคนและสภาพตัวรถมีปัญหาถ้ามีไม่ควรออกมาทำงาน ต้องกำกับดูแล ตรวจสอบ โดยให้เวลา 3 เดือน หากบริการยังไม่ดีขึ้นขสมก. จะพิจารณาการต่อสัญญาเข้าร่วมเดินรถต่อไป