xs
xsm
sm
md
lg

ยังเชื่อว่าจะ ‘เอาอยู่’ หรือ…

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

คุณท่านและคณะจะเชื่อ ชอบ หรือไม่ชอบก็ตามกับกระแส “เบื่อหน่าย” กับสภาวะผลงานด้อยระดับมาตรฐานความคาดหวังของประชาชนในรัฐบาลคุณท่านหลังจากอยู่มาเกือบ 2 ปี และในความรู้สึก “ไม่หวังอีกแล้ว” เริ่มถูกแทรกโดยอารมณ์ “ไม่พอใจ” เพิ่มทุกวัน จนอาจใกล้ถึง “ฟางเส้นสุดท้าย” อย่างที่ว่าไว้สัปดาห์ก่อนและลามจนถึงขั้น “เอาไม่อยู่”

อารมณ์ความคาดหวังสูงของประชาชนว่าคณะรัฐประหาร มีหัวหน้าส่งเสียงคำรามน่าสะพรึงกลัวจะแสดงฝีมือเด็ดขาดปราบนักการเมืองกังฉิน ขบวนการบ่อนทำลายบ้านเมือง กลุ่มพยายามล้มเจ้า เปลี่ยนระบอบการปกครอง และจัดการปฏิรูปให้บ้านนี้เมืองนี้มีระบบกลไกถูกต้อง มีอนาคตสดใส กลายเป็นความผิดหวังรุนแรงในพวกรักชาติ

จากความหวัง ความชื่นชอบ กำลังกลายเป็นความไม่พอใจ ความแค้น เพราะเห็นว่าเป็นการเสียเวลา เสียของ นอกจากไม่ดีขึ้นแล้ว ยังสูญเสียสิทธิต่างๆ ในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งยังมีกฎหมายควบคุมการชุมนุม เปิดช่องให้รัฐบาลทำอะไรผิดฝาผิดช่อง เช่น ส่งเสริมเศรษฐกิจในรูปแบบทุนใหญ่กินรวบ ละเลยกฎหมายสิ่งแวดล้อม

ทุกวันนี้เริ่มมีเสียงเปรยๆ จากหลายกลุ่มเคยเคลื่อนไหวขับไล่นักการเมืองชั่วร้ายว่าชาวบ้านซึ่งเคยหวังว่ารัฐบาลคุณท่านจะจัดการขบวนการเหลี่ยมอย่างจริงจัง อายัดหรือยึดทรัพย์พวกนักการเมืองกังฉิน ทำให้บ้านเมืองเสียหายจากโครงการจำนำข้าวกำมะลอมากกว่า 7-8 แสนล้านบาท แต่กลับถูกขบวนการเหลี่ยมเล่นเกมซ่อนกลจนเกือบเสียราคา

สมุนบริวาร ขี้ข้าเหลี่ยม เลิกแกล้งตาย ออกมาท้าทายอำนาจและเรียกร้องให้เร่งคืนประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งซื้อเสียง รัฐบาลคุณท่านทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากเรียกตัวไปปรับทัศนคติ แต่ต้องระวังแรงกดดันจากประชาคมนานาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ โดยวิญญูชนคนรู้ทันได้แต่มองด้วยความสมเพชเวทนาชะตากรรมของบ้านเมือง

ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ท่าทีความไม่จริงใจในการจัดรูปแบบกระบวนการประชาธิปไตย ความสงสัยว่าจะมีการสืบทอดยาวอำนาจของกลุ่มแฝงอยู่ในรัฐบาลคุณท่าน และนักประสานผลประโยชน์กับขบวนการเหลี่ยม ทำให้ชาวบ้านระดับวิญญูชนคนรู้ทันมองออกว่ารัฐบาลของคุณท่านไม่น่าไว้ใจ ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป

คุณท่านและพวกยังดูเหมือนว่าดูเบากับกระแสความรู้สึกไม่พอใจของวิญญูชนคนรู้ทัน มั่นใจว่าอำนาจกองทัพและกฎหมายควบคุมการชุมนุม มาตรา 44 จะเป็นอาวุธสำคัญไม่ให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการอยู่ยาว จนถึงอาจรวมตัวออกมาขับไล่ นั่นเท่ากับว่าเป็นความลำพองในอำนาจซึ่งไม่เคยจีรังยั่งยืน ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม

ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอำนาจเผด็จการ ทรราชทุกรูปแบบมักมีจุดจบไม่สวยเมื่อประชาชนคนรักชาติบ้านเมืองทนไม่ได้กับพฤติกรรมสวนกับความต้องการของสังคมซึ่งต้องการระบอบการเมืองสะอาด ยิ่งมีการโกงกินคำโต อหังการอย่างไม่เกรงใจชาวบ้าน ก็ยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดกระแสความไม่พอใจ พลังอะไรก็ต้านพลังประชาชนไม่ได้

คุณท่านได้ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองบ้านเรา พฤติกรรม ผลงานนักรัฐประหารรุ่นพี่ตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา คงเห็นได้ชัดว่าล้วนเป็นความล้มเหลว เข้ามาทำท่าดี มีคำหวานเป่าหูปั่นหัวประชาชน ผลสุดท้ายล้วนเป็นเสือหิวรัฐประหารแล้วรวยทุกรุ่น ไม่เคยปรากฏว่ามีนักรัฐประหารคนไหนยากจน เว้นแต่ต้องหนีไปตายต่างประเทศอย่างน่าอนาถ

ความเคลื่อนไหวของขบวนการเหลี่ยมในรูปแบบต่างๆ ทั้งใต้ดิน บนดิน แบบแยกกันตีเพื่อเป้าหมายร่วมกัน และกระแสความไม่พอใจของวิญญูชนคนรู้ทันได้สร้างความรู้สึกว่าหลังจากการเลือกตั้ง จะเป็นเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ น่าจะก่อให้เกิดวิกฤตอีกรอบ เพราะขบวนการเหลี่ยมมีทั้งมวลชนเสื้อแดง กลุ่มถืออาวุธ นักบวชนอกรีต นักซื้อเสียง

ล่าสุดผู้เฒ่าจิ๋ว นักตกปลาในบ่อน้ำขุ่น ได้เปิดหน้าอ้างว่าได้ก่อตั้ง “กองกำลังที่ 3” มีทั้งชาวไทยใหม่ ไทยภูเขา เครือข่ายอดีตคอมมิวนิสต์ และปลุก “ไทยเฉย” ให้คึกคักโดยใช้เงินทุนไม่ปรากฏแหล่งที่มาเป็นตัวกระตุ้น แต่คนรู้ทันรู้ว่าเงินทุนเคลื่อนไหวน่าจะมาจากไหน เดาไม่ยาก เพราะคนควักกระเป๋าย่อมต้องเป็นพวกที่ต้องการให้คณะคุณท่านออกไป

เดือนก่อนผู้เฒ่าจิ๋วไปป้อนคำหวานให้ชุมชนห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย มีหัวหน้าชนเผ่าอาข่าและนักการเมืองท้องถิ่นต้อนรับขับสู้ พร้อมจัดหาที่ดิน สปก. 200 ไร่สร้างธรรมสถานเป็นฉากบังหน้าเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และนี่เป็นส่วนหนึ่งของ “กองกำลังที่ 3” แน่นอน จะมีพลังมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับการปลุกระดมและระบบท่อน้ำเลี้ยงต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เป็นไปอยู่ขณะนี้ คุณท่านและพวกน่าจะรับรู้จากเครือข่ายข่าวกรองและการซุ่มมองของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่รู้ไปก็เท่านั้น ในยุคนี้จะใช้อำนาจมืดเหมือนเผด็จการทรราชรุ่นก่อนๆ คงเผชิญกับกระแสต่อต้าน บอยคอตโดยประชาคมโลก ยกเว้นมหาอำนาจบางกลุ่มซึ่งต้องการมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลเพื่อตักตวงกอบโกยผลประโยชน์

สภาวะที่อาจเกิดขึ้นคือความแตกแยก และการเป็นปฏิปักษ์โดยกลุ่มต่างๆ มีกลุ่มคนดี ขบวนการเหลี่ยม กลุ่มกุมอำนาจโดยอาวุธ กลุ่มนายทุนผลประโยชน์ รวมทั้งกลุ่มการเมืองต่างๆ ทั้งเร้นลับและเปิดเผย นักบวชผยอง ล้วนเป็นผลของการ “เสียของ” อย่างที่ชาวบ้านเรียกว่า “เยี่ยวไม่สุด” และผลงานประเมินโดยโพลต่างๆ อยู่ในอาการน่าเป็นห่วง

ทุกวันนี้ใช้การแต่งรัฐธรรมนูญเป็นข้ออ้างเพื่อคงอยู่ แต่การเลือกตั้งเร็ววัน น่าจะไม่ใช่ความต้องการของคณะคุณท่านซึ่งออกอาการเหมือนเสพติดอำนาจ หรือเป็นเพราะนั่งอยู่บนหลังเสือขณะที่ไร้ฐานประชาชนค้ำจุนอำนาจ นอกจากไม่ได้ใจชาวบ้านคนรู้ทันแล้ว ยังออกมาตรการต่างๆ เพื่อแปลกแยกตัวเองออกห่างทุกวัน แบบนี้ยังคิดว่าจะ “เอาอยู่” หรือ
กำลังโหลดความคิดเห็น