xs
xsm
sm
md
lg

ปาหี่รอบนี้ราคาแพง

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ปิดฉากแรกไปแล้วสำหรับเกมยื้ออำนาจในวงจรการเมืองน้ำเน่าขาดจิตวิญญาณ สำนึกในความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง นี่เป็นพิธีกรรมจำเป็นประกอบบทหลักของการแย่งชิงเดิมพันเพื่อผลประโยชน์

    เป็นแบบนี้มานานตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มมีประชาธิปไตยกำมะลอ โดยคณะทหารซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น “คณะราษฎร์” อย่างปราศจากความละอาย ในการอ้างชื่อประชาชนในเกมชุบมือเปิบ

    เป็นการเริ่มต้นของพิธีกรรมเพื่อถ่ายทอดมรดกบาป สร้างอุบาทว์กรรมของระบอบการเมืองโดยใช้อำนาจเพื่อการรักษาเครือข่ายผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มี “ประชาธิปไตย” การเลือกตั้งตัวแทนประชาชนเป็นฉากบังหน้า โดยเนื้อแท้คือการแสวงหาความมั่งคั่งจากการทุจริต

    มีคำพูดโก้หรูว่า “อำนาจอธิปไตย” เป็นของปวงชน แต่โดยเนื้อแท้ประชาชนถูกซื้ออำนาจโดย “ผู้อาสา” เข้าไปบริหารจัดการงานของรัฐ แต่สภาพแท้จริงคือ “ผู้ลงทุนในอำนาจการเมือง”

    พิธีกรรมเพิ่งจบไปหมาดๆ เป็นอีกลีลาหนึ่งของเกมการเมือง รูปแบบต่างจากฉากก่อนๆ มีคณะนักแต่งรัฐธรรมนูญ 36 คนรับงานร่างสิ่งที่เรียกว่าเป็นบทบัญญัติกฎหมายสูงสุดของประเทศ

    ใช้งบประมาณมากกว่า 400 ล้านบาท สำหรับอายุ 9 เดือน 18 วันของสภาปฏิรูป ซึ่งไม่ได้ทำงานปฏิรูปแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพียงงานร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ผ่านและสิ้นสภาพไปอย่างไร้ผลงาน

    เป็นความล้มเหลวของพิธีกรรมเพื่อการเมืองซึ่งขาดสปิริตและมโนสำนึกเหมือนเดิม

    จากเสียง “105 เห็นชอบ” และ “135 ไม่เห็นชอบ” นั้นน่าจะมีคำถาม “พวกสูทำอะไรกันอยู่” เล่นเกมชิงบ้านชิงเมืองกันอยู่หรือ ไม่เกรงใจคนจ่ายเงินภาษีหรืออย่างไร

    “พวกสูไม่รู้สึกอายประชาชนบ้างหรือ” เสียเงิน เสียเวลา เสียหน้ามั้ย

    และพวกสูประกาศว่ามีวุฒิภาวะ ความคิดอิสระ ไม่มีใครสั่งได้

    อย่างน้อยมี 1 ราย ชื่อ “สิระ เจนจาคะ” เอาเงินเดือนรายได้ 1.7 ล้านบาทจากการเป็น สปช.มาคืนให้สภาฯ เมื่อสภาฯ ไม่มีระเบียบการรับเงินคืน จึงจะเอาไปบริจาคให้องค์กรการกุศล

    ร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกฉีกทิ้งไป “ดี” หรือ “เสียหาย” อย่างไร? นั่นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่าเป็นใคร สถานภาพเช่นไร ขึ้นอยู่กับสภาวะส่วนได้ส่วนเสียของแต่ละคนด้วย

    เอาเป็นว่าไม่ดีทั้งหมด ไม่เลวร้ายทั้งหมด รับก็ไม่ดี ไม่รับก็ไม่ดี ทำใจลำบาก

    ถ้าเปรียบเทียบคือ มองซ้ายเป็นข้าวบูด มองขวาเป็นข้าวดิบ หิวแค่ไหนก็ไม่ยอมกิน กินข้าวบูดจะท้องเสีย กินข้าวดิบก็ท้องขึ้น ร่างกายมีปัญหาแน่นอน แต่ยังมีคนเลือกกินข้าวดิบ และข้าวบูด

    เป็นอย่างที่ผมได้พูดมาโดยตลอดว่า “เขาร่างมาเพื่อไม่ให้ผ่าน” เจตนาแท้จริงของผู้มีอำนาจจะต้องการหวังผลสิ่งใดนั้น เจ้าตัวหรือหมู่คณะย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ใครสั่งให้ล้มนั้นดูเหมือนรู้ๆ กันอยู่

    ที่เห็นชัดคือ ไม่มีใครในกลุ่มผู้กุมอำนาจดีใจหรือเสียใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านพวกคุณท่านก็อยู่ต่อไป ถือว่ายื้อ ทอดยาวอำนาจ ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะเรียกอย่างไร

    เพียงแต่ว่าถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน ผู้กุมอำนาจสามารถยื้ออยู่ต่อได้ 5 ปีจนถึง 10 ปี ถ้าประชาชนยอมเพราะมีผลงานในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการปฏิรูปตามคำอ้าง

    ถ้าไม่ผ่าน อายุตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวก็จะทำให้อยู่ได้ยาวเกือบ 4 ปี

    คุณท่านและคณะมั่นใจว่ารัฐบาลไม่เผชิญขบวนการขับไล่เด็ดขาด มีทั้งกองทัพตำรวจ ทหาร กฎหมายคุมม็อบ โทษหนัก แกนนำมวลชนทุกรุ่นมีคดีติดตัว ชนักปักหลังเสี่ยงติดคุกทั้งนั้น

    อยู่ในสภาวะมั่นคงแบบนี้ คุณท่านและคณะมั่นใจสุดๆ มีพลังน่าเกรงขามอุ้ม

    ถ้าให้ผ่าน จะมีปัญหายุ่งเหยิงเหมือนเปิดหม้ออาคมขังผี ทั้งผีร้าย ผีดีจะออกมาเคลื่อนไหว เข้าทางขบวนการเหลี่ยมซึ่งแค้นจัดเพราะเป็น “นาย” ใหม่เอี่ยมถอดด้าม พวกขี้ข้าสะอื้นกันทั่วหน้า

    เมื่อไม่จำเป็นต้องมีประชามติ บรรดาขี้ข้าคุณเหลี่ยมก็ไร้ช่องทางเคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม อาจมีเสียงแซว คสช.ให้เจ้านายเห็นความจงรักภักดีบ้าง เผื่อได้โอกาสเปิดก๊อกท่อน้ำเลี้ยงยามปลอดการเมือง

    เมื่อยังไม่กังวลเรื่องประชามติ รัฐบาลคุณท่านก็มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องรากหญ้าซึ่งได้รากเลือดจนแทบอยู่ในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอก อกไหม้ไส้ขม จมลึกอยู่ในบ่อหนีสินสิ้นสุขทุกข์ท่วมหัว

    รัฐบาลมีหนทางง่ายๆ จะได้ใจประชาชน ได้เงินใช้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพียงแค่สอดส่องดูแลงบประมาณทุกบาทไม่ให้รั่วไหล เปิดทางให้ใครโกงเท่านั้น ก็ประสบความสำเร็จอย่างงาม

    สุภาษิตสอนใจของชาวยิวบอกว่า “A Penny You Save is a Penny You Earn”

    ว่าแบบไทยๆ คือ “ไม่ใช้จ่ายเงิน 1 บาท เท่ากับมีรายได้ 1 บาท” นั่นเอง

    ดังนั้น การปฏิรูปแทบไม่จำเป็นด้วยซ้ำ ถ้ารัฐบาลของคุณท่านกำจัดการทุจริต คอร์รัปชันได้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นต้นตอของความอุบาทว์ทั้งหมด ถ้าทุกองค์กรปราศจากคอร์รัปชัน หรือมีน้อยจนเกือบไม่มี ความทะเยอะทะยานต้องการเงินโดยวิธีทุจริตก็ไม่เกิดขึ้น

    คุณท่านได้ประกาศเสียงขึงขังว่าจะปราบปรามการทุจริต ต้องแสดงให้ปรากฏชัด น่าเชื่อถือ แม้ชาวบ้านจะได้พูดจาเชิงหมิ่นว่า ไปหาหนทางไต่บันไดขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าน่าจะง่ายกว่ากันเยอะ

    จากนี้ไป คุณท่านจะตั้งคณะนักแต่งรัฐธรรมนูญชุดใหม่ เขียนให้เสร็จภายใน 6 เดือน แล้วส่งให้ประชาชนตัดสิน ถ้าไม่ผ่านก็ตั้งคณะใหม่ ร่างให้ได้ แม้อาจมีแววว่าจะเสร็จก่อนชาติหน้ายามบ่าย

    คราวนี้จะไม่มี สปช.มาเป็นตัวขัดหรือตัวเสริม จะมีสภาขับเคลื่อนปฏิรูปมาประกอบฉากใหม่

    ย้อนกลับไปดูการลงคะแนน สปช.หลายคนน่าจะไม่ได้อ่านร่างด้วยซ้ำ คงทำกันแบบไทยๆ ว่า “พวกเราจะเอาอย่างไร” “ท่านบอกมาว่าไง” และมีหลายคนไม่คุ้นกับการใช้ไมค์ในห้องประชุม

    คงเป็นพวกไม่เคยแสดงความคิดเห็น มีแต่ใช้สิทธิรอรับเงินเดือน นั่งหาวเรอช่วงประชุม

    ในสภาฯ อะไรก็ตามทุกยุค จะมีนักรับการแต่งตั้งเสมอ แลกกับการเสียปัจจัยก้อนใหญ่ พวกนี้ไม่อภิปราย รอสร้างเครือข่ายกับกลุ่มผลประโยชน์ คอยดูแลเลี้ยงดูสมุนผู้มีอำนาจให้เชื่อมต่อ

    จากนี้ไป สถานการณ์อาจเริ่มเขม็งเกลียว เมื่อขบวนการเหลี่ยมเห็นว่าอาจว่างงานยาว คงจ้องหากิจกรรมใหม่ ร่างรัฐธรรมนูญก็ว่าไป เกมกวนเมือง ระเบิดเมือง จะมีเยอะมั้ย ต้องอดใจรอชม
กำลังโหลดความคิดเห็น