“เจ้าสัวสรยุทธ”จาก “กรรมกรข่าว” สู่ ‘นักเล่าข่าวพันล้าน’

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ก่อนเข้าสู่สนาม(เล่า)ข่าวทางหน้าจอโทรทัศน์ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการเล่าข่าวคนดัง เริ่มต้นด้วยการเป็น ‘นักข่าวสายการเมือง’ หนังสือพิมพ์ในเครือเดอะ เนชั่น เมื่อปี 2531 ก่อนเติบโตในสายงานด้วยลีลาเฉพาะตัว ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจ นั่งแท่นเป็น ประธานกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด (ผลิตรายการโทรทัศน์) และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด (รับจัดงานและกิจกรรมต่างๆ)

ย้อนกลับไป 2 ปีแรกในสนามข่าว เขาได้รับมอบหมายให้ทำข่าวสายรัฐสภา จากนั้นในปี 2535 เข้าตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าข่าวการเมือง ประจำกองบรรณาธิการ ต่อมาปี 2537 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าข่าวการเมือง และปี 2540 ดำรงตำแหน่งบรรณาธิการข่าว จัดรายการวิเคราะห์ข่าว ซึ่งถือเป็นช่วงแจ้งเกิดในฐานะ ‘นักวิเคราะห์ข่าวทางโทรทัศน์’ ทางช่องไอทีวี ในนาม เวทีไอทีวี, ฟังความรอบข้าง, ไอทีวี ทอล์ก

ตามด้วยรายการทาง สถานีข่าว 24 ชั่วโมง ของเนชั่น แชนแนล ที่ สุรยุทธ เผยสไตล์การเล่าข่าวด้วยความโดดเด่นและจัดจ้าน สร้างความรู้สึกคึกคักแก่ท่านผู้ชม ซึ่งจะเห็นชัดจากรายการเก็บตกจากเนชั่น, รายการคม ชัด ลึก, ก๊วนกวนข่าว เป็นต้น หลังจากนั้นเขาขึ้นดำรงตำแหน่ง รองบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออก

ชื่อเสียงของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ เมื่อครั้งเข้าร่วมงานกับทาง ช่อง 9 ในรายการ คุยคุ้ยข่าว และ รายการ ถึงลูกถึงคน ก่อนจะย้ายมาร่วมงานกับทาง ช่อง 3 จนเข้าสู่ยุคทองเป็นของนักเล่าข่าวผู้มีชื่อเสียง จัดรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์

วิเคราะห์กันว่าความนิยมของอดีตคนข่าวเนชั่นผู้นี้ เกิดขึ้นจากความสามารถในการตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองคนรุ่นใหม่วัยทำงานในช่วงเวลานั้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการเสพข้อมูลข่าวสารที่มีการประมวลผลที่ง่ายต่อการรับรู้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ สรยุทธ ได้ทำหน้าที่ ‘เล่าข่าว’ ย่อยประเด็นจากข่าวกระแสที่หลากหลายป้อนสู่ผู้บริโภค มีความเป็นนักการตลาด สามารถสร้างตัวตนและดึงดูดผู้ชมได้

นำข่าวพาดหัวข่าวทางหนังสือพิมพ์ มานั่งอ่านในรายการโทรทัศน์ เรียกว่าเล่าข่าว (News Talk) บวกกับลีลาการจัดรายการที่มีเอกลักษณ์หาตัวจับยาก กลายเป็นเสน่ห์ครองใจผู้ชมให้ต้องกดรีโมตเปิดดู ช่อง 3 ซึ่งเป็นการปลุกกระแสรายการเล่าผ่านหน้าจอโทรทัศน์ช่องฟรีทีวี

ประมาณช่วงปี 2547 เป็นต้นมา ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ กลายเป็น ‘นักข่าวเซเลบ’ มีการนำชีวิตของเขาไปดัดแปลงสร้างเป็นละครทางโทรทัศน์ รวมทั้งคลอดผลงานหนังสือด้วยกันหลายเล่ม ยกตัวอย่างเรื่อง กรรมกรข่าว (มีทั้งหมด 3 เล่ม) ว่าด้วยเรื่องชีวิตและประสบการณ์ในสนามข่าว ได้รับความสนใจจากผู้อ่านอย่างมาก ทะยานสู่ Best seller มีการตีพิมพ์ซ้ำหลายต่อหลายครั้ง และปรากฏหลักฐานว่าเขาเป็น ‘ลูกรัก ช่อง 3’ ผ่านคำนิยมของนายใหญ่ ประวิทย์ มาลีนนท์ ที่กล่าวไว้ว่า

“คุณสรยุทธมาช่วยจุดกระแส จากที่เราไม่เคยคิดจะแข่งขันกับใครด้านข่าว มาวันนี้เราสามารถแข่งได้ดีขึ้น คุณสรยุทธจึงเป็นตำนานของฝ่ายข่าวช่อง 3 ด้วย”

เขายังกลายเป็นนักข่าวรุ่นพี่ที่นักศึกษาภาควารสารศาตร์หลากหลายมหาวิทยาลัยปรารถนาเจริญรอยตาม ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รวมทั้งรางวัลในสายวิชาชีพอีกจำนวนหนึ่ง

ในอดีต สรยุทธ ยังเป็นคอลัมนิสต์ผู้มีผลงานโดดเด่นซึ่งปัจจุบันได้วางมือไปแล้ว อาทิ คอลัมน์คุยนอกสนาม นิตยสารแพรว , คอลัมน์ คุยคุ้ยข่าว ในหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก รวมทั้งงานหนังสือเล่มที่กล่าวในข้างต้น ก่อนที่จะพลิกผันเข้าสู่ธุรกิจขายข่าวอย่างเต็มรูปแบบ

ธุรกิจปัจจุบันของ สรยุทธ อดีตกรรมกรข่าวที่กำลังได้รับผลจากกรณีกรรมโกงข่าว นั่งแท่นเป็น ประธานกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด (ผลิตรายการโทรทัศน์) และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด (รับจัดงานและกิจกรรม)

อ้างอิงจาก สำนักข่าวอิศรา เปิดเผยรายงานว่า สรยุทธ สุทัศนะจินดา เจ้าสัวข่าวเจ้าของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด มีรายได้ในรอบ 8 ปี มูลค่ามากกว่า 2,600 ล้านบาท

บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2546 ทุน 1 ล้านบาท สรยุทธ ถือหุ้น 79.99 เปอร์เซ็นต์

บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท สรยุทธ ถือหุ้น 99.98 เปอร์เซ็นต์

รวมผลประกอบการตั้งแต่ ปีที่ก่อตั้งจนกระทั่งสิ้นปี 2554 ทั้งหมด 8 ปี ทั้ง 2 บริษัทมีรายได้รวม 2,624,570,323.10 บาท กำไรสุทธิ 1,047,275,753.81 บาท สินทรัพย์ปี 2554 รวม 273,839,213 บาท