xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ชำแหละเบื้องหลัง “นกแอร์เละเทะ” ที่ "พาทีเลอะเทอะ” รู้อยู่แก่ใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ดูฝีไม้ลายมือในการบริหารวิกฤตของ นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ ในภาวะวิกฤตนักบินประท้วงจนต้องยกเลิก 9 เที่ยวบิน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว รู้เลยว่านกแอร์มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเรื่องอุบัติเหตุ แต่เป็นปัญหาสะสมที่ปะทุขึ้นเมื่อถึงขีดสุด และเป็นภาพสะท้อนถึงฝีมือและวุฒิภาวะทางอารมณ์ของซีอีโอนกแอร์ได้เป็นอย่างดี

เหตุการณ์ครั้งนี้ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา ซีอีโอของนกแอร์กลับลอยแพผู้โดยสารไม่รีบแก้ปัญหาให้ทันท่วงที มิหนำซ้ำยังปล่อยให้อารมณ์พลุ่งพล่านครอบงำ จิตใจเที่ยวไปโพสต์ข้อความ “คนที่ทุบหม้อข้าวตัวเองแต่ใช้คนอื่นให้ไปตาย แบบนี้อย่าให้เห็นนะ หน้าตัวเมียสุดๆ ไปใส่กระโปรงไป” เรียกว่าใส่อารมณ์กับกลุ่มนักบินที่ประท้วงเต็มเหนี่ยว

ซีอีโอของนกแอร์ ยังให้สัมภาษณ์สื่อในหลายวาระหลายโอกาส แต่เนื้อหาสาระสำคัญ คือการโยนความผิดให้กับกลุ่มนักบินที่ประท้วง ชนิดที่เรียกว่าสาดโคลนกันเลยทีเดียว

".... ต้องบอกว่าปัญหาของคนพวกนี้คือ นักบินที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ เพราะฉะนั้นยิ่งมาทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ยิ่งไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้องค์กรเสียหาย เหมือนกับทุบหม้อข้าวตัวเอง และจงใจให้เกิดเหตุในวันอาทิตย์ที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ทุกเที่ยวบิน บุคคลเช่นนี้ถือเป็นผู้ที่จงใจทำร้ายบริษัท

เมื่อถามว่า จะมีนักบินนกแอร์ลาออกอีกจำนวนมาก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ ตอบว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะบุคคลพวกนี้เป็นพวกที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ที่ทางบริษัท Audit อยู่แล้ว ยิ่งมาก่อเหตุการณ์ดังกล่าวอีก คงไม่มีใครรับคนเหล่านี้เข้าทำงานอยู่แล้ว ....

นายพาที ยังหาแพะรับบาปโดยออกคำสั่งเลิกจ้าง นายศานิต คงเพชร ผู้จัดการแผนกรักษามาตรฐานการบินและนักบินผู้ควบคุมอากาศยาน ฐานจงใจกระทำผิดร้ายแรงต่อบริษัท โดยไม่มีการจ่ายเงินค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น และสั่งพักงานพนักงานระดับบริหารฝ่ายการบิน 2 คน (รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน, นักบินผู้ควบคุมอากาศยาน, ผู้อำนวยการแผนกมาตรฐานการบินและนิรภัยการบิน เป็นเวลา 7 วันทำการ โดยให้มีผลทันที นับตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 - วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559พร้อมสั่งสอบสวนพนักงานระดับผู้บริหารอีก 7 คน ตั้งแต่ระดับรองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบิน, ผู้อำนวยการแผนกมาตรฐานการบิน เป็นต้น

ออกอาการฟาดงวงฟาดงาขนาดนี้จึงเจอเข้าให้ เพราะผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้เสียหายและไม่อยู่ในวังวนการเมืองภายในภายนอกของนกแอร์ ไม่ได้เป็นคนปัญญาอ่อนพอที่จะไม่รู้จักแยกแยะถึงต้นสายปลายเหตุ เอาแต่โทษนักบินแต่ข้างเดียวอย่างที่ซีอีโอนกแอร์เกรี้ยวกราด เพราะนั่นมันปลายเหตุ

นายอัครพงษ์ ค่ำคูณ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้โดยสารนกแอร์ที่ถูกลอยแพและได้รับความเสียหาย จึงจัดไปดอกหนึ่ง “ผมบอกเลยว่า ผมไม่โทษนักบิน และผมไม่เชื่อว่าคนที่เป็นนักบินซึ่งต้องใช้ความเป็นมืออาชีพมาก จะทำอะไรที่ไร้ความรับผิดชอบต่อวิชาชีพแบบนั้นได้ เท่าที่เคยเห็นมา กรณีนักบินจะประท้วง ก็จะแจ้งก่อนล่วงหน้า ไม่ใช่หยุดบิน หรืองอนกะทันหันก่อนเครื่องขึ้นไม่กี่นาที หรือถ้าป่วยไข้ไม่สบายก็เป็นหน้าที่ของบริษัทจะจัดหานักบินแทน ดังนั้น การสรุปว่า พวกนักบินฉกฉวยโอกาสเอาผู้โดยสารเป็นตัวประกันจึงเป็นกล่าวร้ายนักบิน และเป็นการทำลายองค์กรการบินโดยรวม กรณีนกแอร์นั้น เมื่อเป็นปัญหาภายในของบริษัทเอง คนที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดคือ CEO NokAir”

"สังคมต้องหยุดโยนบาปหรือกล่าวโทษ แต่เฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อยที่ทำงานให้องค์กร ต้องโทษคนใหญ่ๆ โตๆ ที่ทำอะไรก็ได้ เพื่อรักษาหน้าตาของตนเอง แก้ตัวให้ดูดี ไร้ความรับผิดชอบ.... ถูกต้องแล้วที่หากนักบินไม่ได้มาตรฐานก็ห้ามบิน ยิ่งถ้าไม่เข้าหลักเกณฑ์ของเอียซ่าก็ต้องปรับปรุง แต่กรณีนกแอร์นั้น…ทั้งๆ ที่รู้ว่านักบินบางส่วนไม่ผ่านประเมิน บริษัทยังจะให้เขาเอาเครื่องขึ้นบินอีก แต่แล้วพอนักบินไม่ยอมบินกลับไปโทษนักบิน ตรรกะของผู้บริหารสูงสุดเป็นแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน??? CEO NokAir ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่โทษที่นักบินไม่ยอมบิน… คุณล่ะคิดยังไง???

นายศานิต คงเพชร อดีตผู้จัดการแผนกรักษามาตรฐานการบิน และนักบินผู้ควบคุมอากาศยานสายการบินนกแอร์ที่ถูกไล่ออก ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการชั่วโมงทำกิน ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โต้ซีอีโอนกแอร์ ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย สืบเนื่องจากฝ่ายบริหารกับฝ่ายการบินไม่ได้ประสานงานให้ลงตัวกัน และปฏิเสธในเรื่องที่ผู้บริหารระบุว่านักบินไม่ผ่านมาตรฐานเอียซา เพราะเอียซาตรวจองค์กร ไม่ได้ตรวจบุคคล อีกทั้งยังไม่ได้เป็นการประท้วง เนื่องจากหากนักบินประท้วงจริงต้องยกเลิกทั้ง 120 ไฟลต์ ไม่ใช่แค่ 9 ไฟลต์

เหตุผลของการยกเลิกไฟลต์ น่าจะมาจากการขาดแคลนนักบิน เพราะโดยภาพรวมสายการบินทั้งโลกขาดแคลนนักบินอยู่แล้ว เช่นเดียวกับนกแอร์ เพราะที่ผ่านมานักบินไหลออกจำนวนมาก จากเรื่องค่าตอบแทนส่วนหนึ่ง เพราะค่าตอบแทนของนกแอร์ต่ำสุดในบรรดาสายการบิน และอีกส่วนเป็นความอึดอัดใจ ขณะที่ไฟลต์บินเท่าเดิม ทำให้นักบินต้องบินถี่มากขึ้น แต่กฎของการบินใน 1 เดือน บินได้ 80 ชั่วโมง จึงไม่สามารถบินได้อีกและจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบิน ขณะที่นักบินสำรองที่เตรียมไว้ก็ไม่เพียงพอ

ตามติดมาอีกดอกจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เรียกนายพาที มาว่ากล่าวตักเตือน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกเมื่อมีการทำผิดเงื่อนไข หากเกิดซ้ำครั้งที่ 2 จะพักใช้ใบอนุญาต และหากเกิดซ้ำครั้งที่ 3 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต

นายอาคม ยังสั่งให้ซีอีโอนกแอร์ ทำแผนแก้ปัญหาระยะสั้นมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รายงานกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 หลังจากเหตุการณ์นักบินหยุดบินที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่า ไม่มีผู้บริหารนกแอร์ที่มีอำนาจในการตัดสินใจแก้ปัญหาได้ทันท่วงที พร้อมกับสั่งให้ทุกสายการบินส่งแผนแก้ปัญหาฉุกเฉินหรือแผนเผชิญเหตุในทุกกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินรวมถึงเหตุสุดวิสัย รวมทั้งมาตรการการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสาร และต้องสำรองนักบินไว้หากเกิดเหตุฉุกเฉินนักบินไม่สามารถทำการบินได้

“.....เหตุการณ์วันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.นั้นซีอีโอนกแอร์ ต้องลงไปในพื้นที่ทันที หากไปไม่ได้ ก็ต้องมีผู้บริหารที่ได้รับมอบอำนาจในการตัดสินใจได้ แต่ไม่มีกลายเป็นความสับสนอลหม่าน ผู้โดยสารไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร มีโรงแรม มีอาหารให้หรือไม่ ซึ่งนกแอร์ต้องแก้ไขเรื่องนี้” นายอาคม กล่าวย้ำ

นอกจากนั้น ยังสั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ตรวจสอบการปฏิบัติงานของนักบินแต่ละสายการบินว่ามีการบินเกินชั่วโมงบินหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามาตรฐานความปลอดภัยที่ไทยต้องปฏิบัติตามองค์กรการบินระหว่างประเทศ (ไอเคโอ)

นายอาคม ระบุว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมการบินที่ขาดแคลนนักบินในปัจจุบันต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็น คือ 1.ไม่อยากให้ใช้นักบินกับการทำตำแหน่งบริหารไปร่วมกัน เพราะจะกระทบกับเวลาการทำงาน ดังนั้นจึงอยากให้แยกออกจากกันอย่างชัดเจน และ 2. เรื่องของจำนวนชั่วโมงบินที่พบว่าปัจจุบันหลายสายการบินมีการใช้นักบินทำการบินเกินชั่วโมงกำหนด ขณะนี้ทุกสายการบินจะต้องส่งรายงานบันทึกการบินของนักบินในสังกัดให้กับกพท. เพื่อตรวจสอบชั่วโมงบินอย่างต่อเนื่อง หากตรวจเจอนักบินของสายการบินใดทำการบินเกินกำหนดจะสั่งพักงานทันที

เจอเข้าไปหลายดอก นายพาที ซึ่งหลีกหนีความจริงไม่พ้น ต้องออกมายอมรับข้อบกพร่อง "ขอยอมรับว่าเหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์ 14 กุมภาพันธ์ที่เกิดความผิดพลาด เนื่องจากเป็นวันวาเลนไทน์ ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อทราบเรื่องเร่งกลับมา ซึ่งรถติดมาก และประเด็นสำคัญคือ ไม่ได้ให้อำนาจคนที่สนามบินให้ตัดสินใจในการแก้ปัญหาได้ทันเวลา และจะเป็นเรื่องที่ต้องทำการแก้ไข หลังจากนี้จะต้องให้อำนาจคนที่อยู่ที่สนามบินตัดสินใจได้ กรณีมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อตอบสนองให้ผู้โดยสารเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

กรณีนักบินของนกแอร์ไม่พอนั้น นายพาที ยอมรับว่า กัปตันและนักบินผู้ช่วยของนกแอร์ถูกสายการบินอื่นดึงไป อาจจะเป็นเรื่องของรายได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกนักบินเพิ่มประมาณ 20-30 คน จะทยอยเข้ามาช่วงเดือนมี.ค.- เม.ย.นี้ เป็นเรื่องที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยที่ผ่านมาเมื่อนักบินลดลงได้มีการปรับลดเที่ยวบินลงประมาณ10-15% เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนนักบิน

ส่วนปัญหาการบินของนักบินที่มีชั่วโมงบินสูงเกินมาตรฐานเมื่อเทียบกับเวลาพักผ่อน นายพาที ก็ยอมรับว่าตรวจพบปัญหาจริง

เป็นคำยอมรับที่ตอกย้ำเหตุผลของนายศานิต ที่ว่านกแอร์ขาดแคลนนักบิน มีปัญหา สมองไหล เพราะค่าตอบแทนต่ำกว่าคู่แข่ง และให้นักบินบินมากเกินมาตรฐานจริง

ทว่าถึงจะมีข้อบกพร่องในการบริหารจนเกิดปัญหาขึ้นมากมาย แต่อย่ามาเรียกร้องให้นายพาที แสดงความรับผิดชอบ เพราะนายพาทีสะกดคำนี้ไม่เป็น

"ไม่จำเป็น เนื่องจากบริษัทจ้างผมมาเพื่อมาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่พอมีปัญหาก็ลาออก ยอมรับว่าปีนี้ นกแอร์มีแต่เรื่องวุ่นๆ และหนักๆ ก่อนหน้านี้ก็มีปัญหาเรื่องสายพานลำเลียงไม่ทำงาน พอมาเดือนนี้ก็มีปัญหาเรื่องนักบินไม่ขึ้นทำการบิน สงสัยปีนี้นกแอร์จะเป็นปีชง เพราะผู้บริหารทั้ง 3 คนนกแอร์ เกิดปีขาล เร็วๆ นี้จะชวนกันไปทำบุญ"

เลอะเทอะและลื่นเป็นปลาไหลขนาดนี้ น่าเป็นห่วงอนาคตของนกแอร์เป็นอย่างยิ่ง และไม่น่าแปลกใจที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ จะออกอาการ "เครียดโว้ย"

จะไม่ให้เครียดได้อย่างไร ขณะที่ใครๆ วิ่งวุ่นแก้ปัญหากันตีนขวิด นายพาทีกลับลัลล้าหนีไปถ่ายแบบโฆษณา ไม่มาร่วมประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ที่เรียกประชุมด่วน 14 สายการบินในวันถัดมาหลังเกิดปัญหาขึ้น

สังคมได้รับรู้พฤติกรรมของนายพาที จากถ้อยแถลงของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้ให้นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รายงานเหตุการณ์ระงับการบินของสายการบินนกแอร์ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 ต่อที่ประชุม

ในตอนหนึ่งของการรายงาน นายออมสิน ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม ได้เรียก 14 สายการบินมาหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้อีก แต่ปรากฏว่ามีสายการบินนกแอร์ เพียงแห่งเดียวที่ไม่มาร่วมประชุมและไม่มีการส่งตัวแทนมา โดยทราบมาว่านายพาที สารสิน ซีอีโอสายการบินนกแอร์ ติดถ่ายโฆษณาที่หัวหิน

พล.ต.สรรเสริญ ยังแถลงว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า รัฐบาลรับไม่ได้กับกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก จากนั้น พล.อ.ประวิตร จึงได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม เรียกผู้บริหารสายการบินนกแอร์ มาตักเตือนให้ชัดเจน ถ้าจากนี้ไปยังพบว่ากระทำผิดอีกจะต้องถูกพักใบอนุญาตทำการบิน และหากเกิดเหตุอีกเป็นครั้งที่ 3 จะต้องถูกยกเลิกใบอนุญาตทันที และให้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติกับทุกสายการบินด้วย

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า รัฐบาลได้แสดงจุดยืนว่า ไม่สามารถละเลยกับสิ่งที่เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและประชาชนได้ เมื่อเกิดเหตุในลักษณะนี้ ซีอีโอหรือผู้บริหารต้องออกมารับผิดชอบตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสายการบินไหน กรณีนี้มีแค่เจ้าหน้าที่ในระดับที่ต่ำลงมาเข้าไปแก้ปัญหาคงจะไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง ดังนั้นอย่าหนีปัญหา และต้องกล้าเผชิญหน้า

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงกับทุกสายการบินว่า สายการบินต่างๆ ต้องทำ 3 เรื่อง คือ 1.ต้องจัดทำแผนฉุกเฉิน และแผนบริหารความเสี่ยงหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก มาให้กระทรวงคมนาคมภายใน 1 เดือน 2.ทุกสายการบินต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่ชัดเจนมากขึ้น 3.ทุกสายการบินต้องร่วมมือกันในกรณีเกิดเหตุขึ้นจะต้องเข้ามาช่วยเหลือกันทันที

ผลข้างเคียงจากนักบินนกแอร์ประท้วง ทำเอาสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ และดูท่าอนาคตของนายพาที ที่นกแอร์ นับจากนี้คงสดใสได้ยากยิ่ง



กำลังโหลดความคิดเห็น