"แจ็ค-วัชระ" เปิดข้อความสุดท้าย พ.ต.ท.จันทร์ก่อนหายตัว “ผบ.ไม่ชอบ พงส. เอาทหารมารุม” สงสัย "บิ๊กตู่" เคยบอกยังไม่แตะปฏิรูป ตร. แต่กลับชิงลงมือตัดหน้ารัฐบาลใหม่ คาใจอำนาจลึกลับ ไม่ทบทวนอาจมี พงส.ตายเพิ่ม ด้าน ตร.ชั้นผู้ใหญ่ยันไม่ใช่ฆาตกรรม สั่งเช็กวงจรปิดหาผู้ต้องสงสัย รอผลถูกวางยาหรือไม่
วานนี้ (14 ก.พ.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล และ เลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ พร้อมกับนำข้อความที่แชทผ่านไลน์กับ พ.ต.ท.จันทร์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.เวลา 12.19 -12.54 น. หลังจากได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการยุบเลิกตำแหน่ง และเงินประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 2 วัน ก่อนเสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.พ. 59 จำนวน 3 ข้อความโดยข้อความสุดท้ายมีเนื้อหาระบุว่า “ผบ.ไม่ชอบ พงส. เอาทหารมารุม” มาแจกจ่ายต่อสื่อมวลชน
พร้อมขยายความว่า เป็นการระบุถึง ผบ.ตร. ว่าไม่ชอบพนักงานสอบสวนที่เคลื่อนไหวคัดค้านเรื่องนี้ และต่อด้วยคำว่าเอาทหารมารุม ซึ่งตนไม่ทราบว่าหมายความว่าอย่างไร แต่จะนำหลักฐานชิ้นนี้ไปมอบให้กับผู้รับผิดชอบต่อไป เพราะระยะเวลาก่อนที่จะพบว่า พ.ต.ท.จันทร์ เสียชีวิตนั้น ได้ขาดการติดต่อกับครอบครัวและคนใกล้ชิด แม้ว่าจะมีการชันสูตรว่าเป็นการผูกคอตายแต่ก็ยังมีข้อสงสัยหลายประการว่า อาจไม่ใช่การฆ่าตัวตาย ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช อดีต ผบ.ตร. เชื่อว่า ถูกซ้อมทรมานก่อนตาย โดยตั้งข้อสังเกตหลายประการ พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดผู้ใหญ่ในสตช. จึงเร่งสรุปว่า พ.ต.ท.จันทร์ ผูกคอตายทั้งๆ ที่เพื่อนสนิทต่างก็ไม่เชื่อในเรื่องนี้ หากยังไม่มีการทำความกระจ่าง จะเกิดวิกฤตศรัทธาต่อสตช.ได้ ทั้งนี้ ตนได้ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ และจะยื่นถึงพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เพื่อให้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ให้ ดีเอสไอ.เป็นผู้รับผิดชอบ และให้มีการตรวจชันสูตรศพอีกครั้งหนึ่ง
นายวัชระกล่าวว่า อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ จะผลักดันเจตนารมณ์ของ พ.ต.ท.จันทร์ ในการแยกพนักงานสอบสวนออกจากสตช. ต่อไป และตนเชื่อว่าการเสียชีวิตครั้งนี้ มีเงื่อนงำ คสช.ต้องสร้างความอบอุ่น ความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่ เพราะคนระดับพ.ต.ท.ยังถูกอุ้มไปฆ่า และนำศพมาแขวนไว้หลังบ้านเช่นนี้ ซึ่งที่ผ่านมาในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยเกิดกรณีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร จึงขอเรียกร้องให้ สตช. ขอพระราชทานเพลิงศพให้ พ.ต.ท.จันทร์ด้วย เพราะไม่ใช่การฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า การที่รักษาการ ผบ.ชน. ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า กรณีนี้อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์จากโรงเรียนกวดวิชาเพื่อสอบเข้าพนักงานสอบสวนนั้น ไม่สมกับเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เพราะจากเหตุดังกล่าวไม่ถึงขั้นที่จะทำให้พ.ต.ท.จันทร์เสียชีวิต แต่สาเหตุน่าจะมาจากการยื่นหนังสือให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. มากกว่า จึงขอให้ทบทวน ยกเลิกตามที่ พ.ต.ท.จันทร์ ได้เรียกร้องด้วย แต่สิ่งที่ได้รับคือพวงหรีดจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมกับ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรี แทน
"ผมเชื่อว่าอาจมีอำนาจลึกลับบางอย่างอยู่เบื้องหลังคดีนี้ ถ้าจะมีการปฏิรูป จะต้องไม่มีการอุ้มฆ่า จึงขอให้ ดีเอสไอ.รับเป็นคดีพิเศษ เพราะถ้าอยู่ภายใต้สตช. เนื่องจากไม่มีความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่"
ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.ภรภัทร เพ็ชรพยาบาล พงส. ผทค.สภ.บางปู ประธานสมาพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ประกาศยุติบทบาทเลิกเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ก็เพราะถูกบีบคั้นจากสถานการณ์ที่ พ.ต.ท.จันทร์ ถูกฆ่า และนำมาแขวนคอเป็นตัวอย่าง ทำให้พนักงานสอบสวนเกิดความกลัว อย่างไรก็ตาม แม้ประธานสหพันธ์จะขอยุติบทบาทไป ก็ไม่กระทบต่อการเคลื่อนไหวของพนักงานสอบสวน ภาคประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะผลักดันเรื่องการแยกพนักงานสอบสวนออกจากสตช.ต่อไป แต่จากคำสั่ง คสช. ที่ยุบพนักงานสอบสวนสะท้อนว่า การปฏิรูปตำรวจจะไม่มีการแยกพนักงานสอบสวนออกจาก สตช.ตามข้อเรียกร้องของประชาชน อีกทั้งการรีบเร่งดำเนินการเรื่องนี้ยังสวนทางกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุว่า จะให้เป็นหน้าที่รัฐบาลสมัยหน้า แต่กลับออกคำสั่งยุบพนักงานสอบสวน ซี่งกระทบต่อพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ
"การเสียชีวิตของพ.ต.ท.จันทร์ นอกจากกระทบขวัญ กำลังใจ ของพนักงานสอบสวนแล้ว ยังกระทบต่อประชาชนด้วย หาก ดีเอสไอ.ไม่มีการรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ก็จะมีข้อสงสัยตามมาว่า เหตุใดไม่ทำทั้งที่มีหน้าที่รับดำเนินการเรื่องสำคัญที่ สตช.ทำไม่ได้ และเห็นว่าถ้าไม่มีการทบทวนคำสั่งคสช.ที่มีปัญหา อาจมีพนักงานสอบสวนฆ่าตัวตายเพิ่มขี้นอีก โดยในขณะนี้มีพนักงานสอบสวนที่เสียชีวิตอันเกี่ยวเนื่องกับกรณีนี้แล้วถึง 2 คน คือก่อนหน้านี้ มีกรณีที่ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้อง ยิงตัวตายเนื่องจากเครียดในการทำงานสอบสวน และอาจจะมีรายอื่นๆ ตามมาอีก” นายวัชระ กล่าว
***ตร.เชื่อไม่ได้ถูกใครทำร้ายจนตาย
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ.10) โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล จะผูกคอตนเองเสียชีวิตนั้น ระบุว่า ให้พนักงานสอบสวน สน.แสมดำ พื้นที่เกิดเหตุรับผิดชอบและตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย แต่จากการพูดคุยกับ ผบก.น.9 และทราบผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ศิริราช ยืนยันว่า ผู้ตายไม่ได้ถูกใครทำร้าย ซึ่งในบ้านของ พ.ต.ท.จันทร์ เลี้ยงสุนัขไว้มากกว่า 1 ตัว หากมีคนนอกเข้ามาทำร้าย สุนัขที่เลี้ยงไว้ก็ต้องเห่า ผู้ที่อยู่ในบ้านต้องได้ยิน
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 ตั้งคณะกรรมการสืบสวน พร้อมทั้งสอบพยานแวดล้อมและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้วงเวลาเกิดเหตุว่ามีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาในบริเวณบ้านหรือไม่ จากการตรวจสอบยังไม่พบสิ่งผิดปกติ สอดคล้องกับคำให้การภรรยาของผู้ตายที่ระบุว่า ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.จันทร์ เพราะหากมีใครเข้ามาในบ้านสุนัขที่เลี้ยงไว้จะต้องเห่า ภรรยาผู้ตายต้องได้ยินและตื่นมาดูแน่นอน
สำหรับบาดแผลที่เกิดขึ้นตามบริเวณแขน ขา และตามลำตัว นั้น แพทย์ที่ชันสูตรศพระบุว่า เกิดจากการแปลสภาพของศพที่เสียชีวิตแล้ว เกินกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป เลือดไหลลงสู่ที่ต่ำทำให้ผิวหนังปริออกได้ ส่วนลักษณะใบหน้าและที่ริมฝีปากบวม เนื่องจากสาเหตุจากการผูกคอตายทั่วไป จึงเกิดอาการฟันกัดลิ้น เมื่อเกิน8ชม.ก็จะบวมออกมาและฟันทุกซี่อยู่ครบ ริมฝีปากไม่มีการถูกทำร้าย จากการตรวจร่างกายภายนอกทั้งหมดไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย การฟกช้ำ สภาพอวัยวะภายในปกติไม่มีกระดูกหัก ไม่มีรอยฟกช้ำตามร่างกายที่เกิดก่อนการเสียชีวิต ทั้งนี้ลงความเห็นสาเหตุการตายเบื้องต้น ขาดอากาศจากรอยกดรัดบริเวณคอ อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิษวิทยา โดยจะรายงานผลให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
“หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจดังกล่าว ตนขอฝากถึงพนักงานสอบสวนและตำรวจทุกนายในกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า อยากให้ทุกท่านทำงานโดยสุจริต ทำงานเพื่อประเทศชาติ เป็นที่พึ่งของประชาชน ตนขอให้กำลังใจและขอยืนเคียงข้างทุกคนเป็นตำรวจที่ดีและให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว.