อาจจะเป็นเธอคนนี้!! "หญิงหน่อย" คนที่ใช่ สเปก "ทักษิณ" ตรงใจ "ประวิตร"

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กระแสวิพากษ์ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกของ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ กุมบังเหียนคุมเข้มประดิษฐ์ทุกตัวอักษร เป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน

โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองที่ดูเหมือนจะตั้งป้อมไม่เอาด้วย ทั้งขั้ว “เพื่อไทย-นปช.” ที่ค้านหัวชนฝา หรือฝั่ง “ประชาธิปัตย์” รวมไปถึงพรรคปลาซิวปลาสร้อย ก็ไม่ได้ปลาบปลื้มไปไปทุกประเด็นตัวอักษร แต่ก็ “อยู่เป็น” โดยการออกลูกกั๊ก คว่ำหรือหนุนขอคิดอีกทีในโค้งสุดท้าย หรือบางฝ่ายบางคนที่เคยเย้วๆเชียร์ “รัฐบาลทหาร” ก็หันกลับมาร่วมถล่มด้วย

ในขณะที่กระแส “แอนตี้ร่างมีชัย” ขยายวงกว้าง คำชี้แจงของ กรธ. คนในรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แทนที่จะช่วยเบรกลดแรงต้าน ผลกลับเป็นตรงข้าม โดยเฉพาะ “คำขู่” ที่ออกไปในเชิงหมายหัวคนที่ตั้งธงคว่ำรัฐธรรมนูญ

เรียกว่าฝ่ายรัฐบาล คสช.ยิ่งโต้ ก็ยิ่งโหมกระแสให้หนักข้อยิ่งขึ้น

เป็นจังหวะเดียวกับที่มีคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร บิ๊กบอสแห่งเพื่อไทย-นปช. ด่ากราดทั้งร่างรัฐธรรมนูญ “ห่วยแตก” พาประเทศถอยหลังลงคลอง ฟาดหางไปถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยว่าเป็น “ผู้นำบ้าอำนาจ” หลุดออกมาชิงพื้นที่ข่าวในช่วงที่ คสช.เมาหมัด และกำลังง่วนกับการวางงานตีกรอบจัดการกับ “ฝ่ายต้าน” ก่อนที่จะถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

แน่นอนว่าเมื่อ “ทักษิณ” ผู้เป็นศัตรูหมายเลขที่ 1 ของรัฐบาล คสช.ออกโรง ทุกคนต้องเงี่ยหูฟัง

“นายใหญ่” ชักธงรบ-ลูกน้องผิดคิว

ตามรายงานข่าวระบุว่า “ทักษิณ” ได้โฟนอินเข้ามาในระหว่าง “งานเลี้ยงตรุษจีน” ของบรรดาอดีต ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ในเขตกรุงเทพมหานคร ของพรรคเพื่อไทย หรือที่เคยถูกขนานนามว่า “วังนครบาล” ที่บ้านพักย่านลาดปลาเค้า ของ “หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

รายงานข่าวยังอ้างด้วยว่า นอกเหนือจากการทักทายบรรดาลูกพรรคแล้ว “ทักษิณ” ได้พูดถึงสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ.ว่า เป็นรัฐธรรมนูญทำให้บ้านเมืองถอยหลังเข้าคลอง ล้าหลังไปถึง 20 ปี โดยไม่ลืมที่จะโจมตี “ของแสลง” อย่างการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป

นอกจากนี้ยังโจมตี “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.อย่างรุนแรง ในทำนองว่าเป็น “ผู้นำบ้าอำนาจ ขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ”

ท่าทีของ “นายใหญ่” ที่ต่อต้านร้างรัฐธรรมนูญของ คสช. และกระทบกระเทียบไปถึง “ผู้นำ คสช.” ถือว่าเป็นทิศทางเดียวกับแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย และความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดง ถือเป็นแรงส่งให้ “ลูกหาบ” ทั้งเพื่อไทย-นปช.รู้ว่า มาถูกทางแล้ว

แต่ให้หลังวันเดียวก็เป็น “เดอะป็อป” น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ลูกรักเบอร์หนึ่งของ “เจ๊หน่อย” ที่เคยถูกดันขึ้นชั้นรัฐมนตรี ออกมา “แก้ต่าง” ว่า ข่าวที่หลุดออกไปเกินเลยจากความเป็นจริง มี “บางคน” ใส่สีตีไข่ เพียงเพื่อเอาใจนักข่าวเท่านั้นโดยยอมรับว่าในวันนั้นมีการกริ๊งกร๊างไปหา “ทักษิณ” จากโทรศัพท์ “หญิงหน่อย” จริง แต่ก็เป็นการพูดคุยสั้นๆ อวยพรซึ่งกันและกัน แสดงความห่วงใยบ้านเมือง

“เดอะป๊อป” เน้นด้วยว่า “นายใหญ่” ไม่ได้กล่าวตำหนิใครเลย ตอบสั้นๆ เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญว่า จะทำให้บ้านเมืองถอยหลังลงคลองมากกว่าจะปฏิรูปประเทศ สรุปแล้ว “อนุดิษฐ์” พยายามบอกว่าบทสนทนาคืนนั้นไม่มีคำว่า “ห่วยแตก” หรือไปว่าใคร “บ้าอำนาจ” อย่างที่เป็นข่าว

ในทางการเมืองลักษณะนี้ถือเป็น “มุกตื้นๆ” คนหนึ่งออกมาด่า คนหนึ่งออกมาปฏิเสธ ยิ่งเป็นการพูดในที่ลับแบบนี้ ก็เท่ากับ “หลอกด่าฟรี” เพราะทุกคำที่อ้างว่า “ทักษิณ” พูดก็ถูกนำเสนอผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ว่อนไปในสังคมออนไลน์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ข่าวว่าล่าสุด “อนุดิษฐ์” เจอเฉ่งยับ โทษฐานที่ออกมา “แก้ข่าว” ทั้งที่ใจจริง “ทักษิณ” แฮปปี้มากที่ข่าวหลุดออกไป จนสามารถชิงพื้นที่สื่อได้ยกแผง ขณะที่ “อนุดิษฐ์” ก็คงหวังดีกับ “เจ้าของบ้าน” ไม่อยากให้เป็นประเด็นพาดพิงมาถึง แต่ไม่ได้หยั่งรู้ถึงใจ “นายใหญ่”

งานนี้จึงน่าจะคอนเฟิร์มได้เลยว่า “ทักษิณ” พูดจริง-คิดจริง

อาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะโฟนอินเข้ามา เป็นทางกรุงเทพฯที่ต่อสายไป แต่ “ทักษิณ” ก็น่าจะจับทางได้ว่า ข่าวนี้น่าจะปิดไม่อยู่ รั่วออกไปแน่ๆ หรือกระทั่ง“ตั้งใจ” ให้หลุด แค่สั่งบางคนในงานปล่อยออกมา เลยใช้จังหวะนี้ปูพรมถล่มทั้ง “ร่างมีชัย” ไปจนถึง “บิ๊กตู่”

เป็นอาณัติสัญญาณให้ “ลูกหาบ” เตรียมชักธงรบ ศึกแรกแน่นอนโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ

“แม้ว”ออกแอคชั่น “บิ๊ก คสช.” มีสะดุ้ง

ถ้อยคำบทสนทนาของ “ทักษิณ” ที่หลุดออกมา ไม่ได้น่าสนใจแค่เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ หรือการโจมตีผู้นำรัฐบาล แต่ท่อนท้ายของการสนทนาที่ปล่อยออกมาต่างหากที่น่าสนใจ

รายงานข่าวบอก “ทักษิณ” พูดประมาณว่า ให้ทุกคนเตรียมพร้อม สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่จะกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง

ซึ่งตามโรดแมป คสช.กว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วที่สุดก็เดือนกรกฎาคม 2560 หรือหากยืดไปตามโรดแมปในร่างรัฐธรรมนูญ ก็เลยเถิดไปถึงเดือนธันวาคม2560 ไม่น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า “เร็วๆนี้” ที่หลุดออกมาจากวงงานเลี้ยงที่บ้าน “หญิงหน่อย”

ฟังแล้วก็ต้องคิดลึกๆว่า “ทักษิณ” ได้รับสัญญาณทางไหนมา ถึงกล้าบอกว่า จะมีเลือกตั้งเร็วๆนี้ ที่สำคัญหากมีเลือกตั้งจริง อำนาจของ คสช.แม้จะยังอยู่ในฐานะ “ฝ่ายคุมอำนาจ” แต่ก็ต้องมีการปรับทิศปรับทางให้ล้อไปตามสถานการณ์ไม่มากก็น้อย เพื่อลดโทนข้อกล่าวหา “เผด็จการ” ในตอนนี้

เมื่อ “ทักษิณ” พูดถึงเรื่องเลือกตั้งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็ขย่ม “บิ๊ก คสช.” ขาสั่นได้เหมือนกัน

แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ จะทำท่า “ยักไหล่” ไม่สนใจ บอกเป็นแค่ความคิดของคนๆหนึ่ง แต่ท่าทีคนของ คสช.กลับไม่เป็นอย่างนั้น ทั้งทีมโฆษก คสช.ที่เปลี่ยนหน้าจาก “เดอะต๊อด” พ.อ.วินธัย สุวารี มาเป็น พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ คสช. ที่ออกมาย้ำภาพ “ทักษิณ” ว่าอยู่ในสถานะผู้ต้องโทษที่ไม่ยอมมารับโทษ ดังนั้นคนไทยไม่ควรรับฟัง

ขณะที่ วิษณุ เครืองาม มือกฎหมายของ คสช.ไม่ได้ให้น้ำหนักเรื่องการเลือกตั้งเร็วๆนี้ โดยยืนยันว่ามีการเลือกตั้งแน่นอน แต่เป็นในปี 2560 ตามโรดแมป หรือ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็พูดในลักษณะว่า “ทักษิณ” วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่เข้าใจ

ที่ชัดๆเลยคงเป็น “บิ๊กตู่” ที่ยังอารมณ์ค้างไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาร่วมสัปดาห์ หลังจากที่ระเบิดอารมณ์ไปเมื่อวันประชุมคณะรัฐมนตรี อังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ ยิ่งมีประเด็น “ทักษิณ” แทรกเข้ามา จึง “ดึงสโตรก” ตีกรรเชียงเลี่ยงนักข่าวต่อไป เพราะรู้ว่าหากเปิดโอกาสให้ไมค์จ่อปาก ต้องเจอคำถามเรื่องคอมเมนต์ “ทักษิณ” แน่นอน

“บิ๊กตู่” ก็คงรู้ตัวว่าหากเปิดปากเรื่องนี้ ก็ยิ่งเข้าทาง “คนแดนไกล” เข้าไปอีก

“หญิงหน่อย” อาจจะเป็นเธอคนนี้

ที่ผ่านมาชื่อของ "หญิงหน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถูกพูดถึงทั้งในวงลับ-ไม่ลับหลายวง ในฐานะ “โซ่ข้อกลาง” ของกลุ่มอำนาจเก่า-ใหม่

ชื่อเสียงของ “เจ้าแม่นครบาล” ในระยะหลังอาจหนักไปสายทำบุญ โดยเฉพาะโปรเจ็กต์ “พระพุทธเจ้าน้อย” ที่ดันจนติดลมบน มีโอกาสขอคอมเมนต์การเมืองคราใด “หญิงหน่อย” ก็มักตั้งการ์ดสูงว่า ทุกวันนี้มุ่งแต่ทำบุญกัทำนุบำรุงพุทธศาสนา ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง แต่ก็รู้กันดีถึงคอนเนคชันสายแข็ง ไต่อยู่บนเส้นลวดแห่งอำนาจอย่างสม่ำเสมอ

ในยุค คสช.ก็เป็น “บิ๊กป้อม” ที่ “หญิงหน่อย” ให้ความเคารพ และต่อสายคุยได้ตลอดเวลา

ไม่นานมานี้ในงานแต่งงานลูกชาย "เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ตอนนั้นเป็นที่ปรึกษา คสช.ยังไม่ได้เข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” ที่ขึ้นอวยพรบ่าว-สาว นอกจากจะชม “พ่อเจ้าบ่าว” ออกไมค์แล้ว อีกคนที่เอ่ยชื่ออย่างชัดเจนก็คือ “หญิงหน่อย” จนมีข่าวว่า จะดึงมาร่วม ครม.คสช.พร้อมกับ “เฮียกวง” แต่ก็เป็น “ฝ่ายหญิง” ที่ขอบายเอง ให้เหตุผลสวยๆว่า “ขอเข้ามาตามกติกาประชาธิปไตย” ปิดทางการเข้าร่วม “รัฐบาลทหาร”

คำปฏิเสธครั้งนั้นไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์กับ “ขุนทหาร” เสียหาย เพราะจากนั้นก็ยังแนบแน่นกันเช่นเดิม “หญิงหน่อย” ไปปรากฏตัวในวงงานเลี้ยง-งานสังสรรค์ที่มี "บิ๊กทหาร" ร่วมอยู่ด้วยโดยตลอด แถมยังได้รับการจัดวางให้นั่งสนทนาโต๊ะเดียวกับ “บิ๊ก คสช.” อีกหลายครั้ง

ในทางกลับกัน งานเลี้ยงตรุษจีนที่ “หญิงหน่อย” เปิดบ้านในซอยลาดปลาเค้า 60 กินข้าวสังสรรค์กับลูกทีม กทม.พรรคเพื่อไทย เนื้อข่าวโฟนอินของ"นายใหญ่” นอกเหนือจากเรื่องรัฐธรรมนูญ กับการโจมตีผู้นำรัฐบาลแล้ว ประโยคแรกของข่าวดังกล่าวเป็นคำชื่นชม “สุดารัตน์” ที่ว่า “ทีม กทม.มีหัวหน้าทีมผู้หญิงเก่ง มีความสามารถ” อีกต่างหาก

ขับรัศมี “เจ๊หน่อย” ให้โดดเด่นขึ้นไปอีก

และการพูดคุยข้ามแดนผ่านโทรศัพท์ส่วนตัวของ “สุดารัตน์” จนอาจตีความได้ว่า มีการกริ๊งกร๊างคุยกันเป็นปกติกับ “ทักษิณ” และต่อสายกันได้ตลอดเวลาในระนาบเดียวกับที่ “สุดารัตน์” ต่อสายหา “บิ๊กป้อม”

แต่หากมองมุมในแง่ลบ ข่าวที่ปล่อยออกมาเหมือนต้องการเจาะยาง "หญิงหน่อย" วาดภาพว่ายังเป็นสายตรง "ทักษิณ" เพื่อสร้างความหวาดระแวงให้กับทาง "บิ๊กป้อม-ขุนทหาร" ซึ่งอาจจะมองได้ แต่มองในมุมกลับส่วนตัว “สุดารัตน์” ก็ไม่เคยทำอะไรขุ่นเคืองรัฐบาลทหาร คสช. ยิ่ง “เด็กในสังกัด” ก็อยู่ในโอวาทไม่เคยทำตัวเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล คสช.เช่นกัน ดูจากท่าทีของ “อนุดิษฐ์” ลูกรักเบอร์หนึ่งที่ลุกลี้ลุกลนออกมาแก้ข่าวได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ “ทักษิณ” เองแม้จะชัดเจนว่าไม่พอใจที่ถูก คสช.มาปล้นอำนาจจาก “รัฐบาลน้องสาว” ไป แต่ตามเกมแล้วก็ต้องแตะกลุ่มอำนาจใหม่ไว้ โดยสถานะแล้ว “หญิงหน่อย” ก็ทำหน้าที่นี้ได้แนบเนียนที่สุด

ก่อนหน้านี้ก็มีการส่ง “ข้อความ” ในทางลับจาก “บิ๊ก คสช.” ไปถึงฝั่งเพื่อไทยว่า พร้อมให้มีการเลือกตั้งแล้ว แต่ยังมี “บางคน” ที่แตะเบรกไว้ จนเป็นที่มาของเกมคว่ำร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เมื่อปีกลาย แนบท้ายข้อความยังบอกเป็นนัยๆให้พรรคเพื่อไทยเตรียมแต่งตัวเข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่ต้องวางตัว “แคนดิเดตนายกฯ” ให้ตรงสเปกเสียก่อนด้วย

ในขณะเดียวกัน มีคนช่างสังเกตท่าทีของ "บิ๊กป้อม" ที่ร่วมงานกับบรรดา "องคมนตรี" ในระยะหลังช่างอ่อนน้อมเสียเหลือเกิน ไม่เบ่งกล้ามเป็น “ป๋าป้อม” จนถูกหมั่นไส้เหมือนสมัย คสช.เข้ามามีอำนาจใหม่ๆ

มีการพูดกันว่าเกมที่ “เซียนการเมือง” เคยระแวงว่า "นายกฯคนนอก" ในรัฐธรรมนูญใหม่จะเปิดทางให้ "บิ๊กป้อม" เดินเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจเปลี่ยนไปแล้ว คงประเมินแล้วว่าได้ไม่คุ้มเสีย หากดึงดันจะนั่งเก้าอี้นายกฯ ชะตากรรมคงไม่พ้นซ้ำรอย “นักรัฐประหารรุ่นพี่” เมื่อปี 2535

แล้วถ้าเป้าหมาย "บิ๊กป้อม" ไม่ใช่ตำแหน่งผู้นำประเทศจริง ก็น่าสนใจว่าแล้วใครจะเป็น “คนที่ใช่” ยิ่งหาก “ขุนทหาร” ไม่อยากเหนื่อยฝืนกระแสและยอมรับความจริงว่า ไม่ว่ากติกาเลือกตั้งเป็นแบบไหน ก็คงจะต้านทานพรรคเพื่อไทยลำบาก ตามรูปการณ์นี้ ถ้ามีการเลือกตั้งก็ต้องปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ“นายกฯคนใหม่” แต่มีข้อแม้ว่า ต้องตรงสเปก “ขุนทหาร” ด้วย เพื่อประคับประคองประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านให้เนี้ยบที่สุด ถ้าไม่แล้วก็อย่าหวังว่าจะมีการเลือกตั้ง

ฝ่ายเพื่อไทยก็อยากให้มีเลือกตั้งเร็วๆ ฝ่ายขุนทหารก็ขอนายกฯที่ไว้ใจได้

หนทางที่จะ “วิน-วิน” ทั้งสองฝ่ายก็คือ “ตัวละคร” ที่จะเลือกหยิบมาเป็น “นายกฯคนใหม่” หลังเลือกตั้ง จริงอยู่ฝ่าย “ทักษิณ” ก็ยังอยากใช้ “ไพ่ชินวัตร” ต่อไป แต่ย่อมไม่ถูกใจ “ขุนทหาร” แน่นอน ที่สำคัญ “ไพ่ชินวัตร” ตอนนี้ก็แทบจะหมดมือแล้ว ทั้งคนในครอบครัวชินวัตร-แกนนำของเพื่อไทยติดอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีสำคัญๆกันถ้วนหน้า

หลายปัจจัยจึงทำให้ชื่อ “หญิงหน่อย” อยู่ในลิสต์ลำดับต้นๆของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะคอนเนคชั่นที่ต่อได้ทั้งกับ “ทักษิณ - ประวิตร” อาจจะติดขัดการยอมรับภายในพรรคเพื่อไทยบ้าง โดยเฉพาะกับ “สองนางพญา” ที่ไม่กินเส้นกันอย่างแรง

แต่หาก “ทักษิณ” ไฟเขียว “ขุนทหาร” โอเค “สองนางพญา” ก็คงต้านทานลำบาก

หลังจากนี้ “หญิงหน่อย” อาจตกเป็นเป้าสายตา อยู่ที่ว่าจะประคองตัวไปให้ตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร แต่อย่างน้อยวันนี้สปอร์ตไลต์ทุกดวงจับจ้องไปที่ตัว “เจ้าแม่นครบาล” ในฐานะ "โซ่ข้อกลาง" ตัวจริงเสียงจริง.