xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ต้อง “ใช้ธรรม” มิใช่ “ใช้อธรรม” (ตอนห้า) ถึงเวลา “คนดี” ขจัด “สงฆ์เทียม?”

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

‘อดีต’ ทำหน้าที่สอน “อนิจจัง” แล้ว ‘อดีต’ ยังบอกให้รู้ว่า วิกฤตชาติไทยและโลก เกิดจากกิเลสไม่รู้จักพอของ “คน” นั่นแหละ!

วิกฤตคอร์รัปชันและการจะเปลี่ยนประชาธิปไตย อันมี “พระมหากษัตริย์-ทรงเป็น-ประมุข” สู่ “ประธานาธิบดี-เป็น-ประมุข” รุนแรงในยุค “เหลี่ยม” ยึดอำนาจรัฐด้วยเงินนานกว่าสิบปี

ด้วยจิตใจโลภไม่รู้จักพอของ “เหลี่ยม” มิได้หยุดแค่มีเงินล้นฟ้าเท่านั้น แต่ยังโลภใน “อำนาจ” ที่ใช้สำหรับโกงชาติอีกด้วย “เหลี่ยม” จึงมิได้รักประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่ “เหลี่ยม” รัก “ประชาธิปไตยจอมปลอม” โกงกินชาติได้ต่างหาก เพราะ “เหลี่ยม” ชอบทุกสิ่ง ที่ทำให้ได้มาซึ่งเงินทอง-อำนาจ-ลภายศ นั่นเอง

ทุนสามานย์ “เหลี่ยม” จึงไม่สนับสนุนแนวพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง”ของพระเจ้าอยู่หัวอย่างจริงจัง เพราะค่านิยมทุนสามานย์นั้น ต้องใช้เงินเกินตัวและบ้าคลั่งในวัตถุ ยึดหลัก “อยากรวย-ต้องกล้าเป็นหนี้”

ขณะที่แนวคิดและหลักปฏิบัติ ของ “ท่านพุทธทาส” และ “พระเจ้าอยู่หัว” นั้น มุ่งขจัดความเห็นแก่ตัวด้วยความ “พอเพียง” หรือ “พอดี”

หนังสือ “ใช้ธรรมะกับการเมือง” ได้ลงบันทึกลายมือของ “ท่านพุทธทาส” ไว้ในหน้า 27 ดังนี้

“ไม่ใช่ว่ามีข้าวกินแล้วจะหมดปัญหา, ถ้ายังไร้ศีลธรรมและเห็นแก่ตัว ก็จะยังแย่งข้าวกินกันอยู่นั่นเอง ความเห็นแก่ตัวต่างหาก ที่เป็นปัญหาไปเสียหมดทุกด้าน; ดังนั้น รีบจัดการกันกำจัดความเห็นแก่ตัวเถิด ทั้งนักการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมศาสตร์”

ถ้อยคำข้างต้นทำให้ “ผู้เขียนบทความนี้” คิดต่อว่า...

สภาพสังคมไทยยามนี้ มิใช่แค่กลุ่มทุนสามานย์ และ นักการเมืองชั่วร้าย จะไร้ซึ่ง “คุณธรรม” และ “กิเลสหนา” เท่านั้น แต่ “พระสงฆ์” ที่เดินตามธรรมแห่งพระพุทธเจ้า ต้องละกิเลส-เผยแพร่-ปฏิบัติธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีให้มนุษย์โลกเดินสู่หนทางธรรมอันถูกต้อง

ทว่าทุกวันนี้ “สงฆ์เทียม” กำลังบ่อนทำลาย วัตรปฏิบัติและพระธรรมคำสอนขององค์พระศาสดาอย่างหนัก!

โดยเฉพาะ “สงฆ์” ที่จิตพ่ายต่อกิเลส และกลุ่มคนหัวโล้น-แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ซึ่งเป็นแก๊งต้มตุ๋นที่หลอกลวงพุทธบริษัท ด้วยคำสอนวิตถาร เช่น

ไม่ต้องเสียเวลาทำความดีกันแล้วล่ะ เพราะจ่ายเงินซื้อตั๋วเดินทางไปสวรรค์ได้ ถ้าจ่ายเงินเยอะได้ไปสวรรค์เร็วขึ้น จ่ายเงินน้อยก็ไปสวรรค์ช้าหน่อย! จ่ายเงินให้กับ “แก๊งต้มตุ๋นโล้นเหลือง” จะไปเยี่ยมไปพบไปคุยกับใครก็ได้บนสวรรค์! การทำกรรมชั่วเป็นบาป...แต่จ่ายเงินให้ “สงฆ์เทียม” สามารถตัดกรรมได้นะ!

เรียกว่า...ใครมีเงินจ่ายให้ “แก๊งโล้นจิ้งเหลือง” อยากได้อะไร-ได้ดังใจ ถ้าไม่ได้ชาตินี้ก็ไปได้ชาติหน้าโน่น! ถ้ายังไม่ได้ดังใจก็เพราะ “บาปหนา” ต้องทุ่มเงินทำบุญมากขึ้นๆ จนบางคนทุ่มเงินทำบุญจนหมดตัว!

สุดท้าย...ไม่มีเงินใช้หนี้สิน...ต้องฆ่าตัวตายกันเลย!!!

“สงฆ์กิเลสหนา” และ “แก๊งต้มตุ๋นโล้นจิ้งเหลือง” ล้วนเป็น “สงฆ์เทียม” ที่ใช้ศาสนาบังหน้าทำเรื่องชั่วๆ อยู่ในสังคมไทย ยังความแปดเปื้อนเสียหายต่อพระสงฆ์ส่วนใหญ่ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้เสื่อมเสีย อีกทั้งทำให้พุทธบริษัทยากต่อการแยกแยะว่า สงฆ์รูปใดดี สงฆ์รูปใดชั่ว ฯลฯ

วันนี้...สงฆ์กิเลสหนาและแก๊งต้มตุ๋นโล้นจิ้งเหลือง กำลังระบาดมากมายไปทั่วราชอาณาจักร จนเกิด “สงฆ์เทียม” ทั้งมั่วสีกาในวัด โกงเงินและทรัพย์สินวัดไปเป็นของส่วนตัว ฯลฯ ดังพฤติกรรม “โล้นจานบิน” ที่เป็นสานุศิษย์สุดเลิฟของ “สงฆ์ซูเปอร์คาร์” ที่กำลังปีนป่ายขึ้นเป็น “สงฆ์บิ๊กเบิ้ม” อยู่ในขณะนี้

“สงฆ์เทียม” ที่สอนและปฏิบัติตน ผิดเพี้ยนจากธรรมของพระพุทธเจ้า เกิดขึ้นทุกหัวระแหงโดย “เถรสมาคม” ที่ปกครองและบริหารวงการสงฆ์ ได้ปล่อยปละละเลย จนวงการสงฆ์เน่าเฟะเหลวแหลกอยู่ในขณะนี้ เพราะ “องค์กรสงฆ์อาวุโส” มิได้ทำหน้าที่อย่างจริงจัง ในการขจัด “สงฆ์กิเลสหนา” ที่ไม่ปฏิบัติในศีลในธรรม รวมทั้ง“แก๊งต้มตุ๋นโล้นจิ้งเหลือง” นั่นเอง

ที่สำคัญ “สงฆ์อาวุโส” จำนวนหนึ่ง กลับกลายเป็นผู้ทำผิดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าเสียเอง เพราะไปหลงอยู่กับกิเลสที่พระสงฆ์ที่ดีพึงต้องขจัด

ทำให้ชาติกับศาสนาตกอยู่ในวิกฤตชั่วร้าย เพราะทั้งกลุ่มทุนสามานย์-กลุ่มนักการเมืองชั่ว-กลุ่มสงฆ์มากกิเลส-กลุ่มแก๊งต้มตุ๋นโล้นจิ้งเหลือง มิรู้จักคำว่า “พอเพียง” ในเงินทอง-อำนาจ-ลาภยศ และมีอำนาจปกครองทั้งในทางโลกและทางธรรมอีกด้วย

พระสงฆ์ต้องมีภาวะสูงสุดทางศีลธรรม แต่พระสงฆ์จำนวนไม่น้อยกลับเป็น “ผู้ร้ายห่มเหลือง” ที่ใช้ศาสนาบังหน้า ทำมาหากินจนตัวเองและพวกพ้องร่ำรวย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้รักชาติรักศาสนาทั้งหลาย ต้องช่วยกันขจัด “มารศาสนา” เหล่านี้ให้หมดไปจากสังคมไทย

พุทธประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่า หลายครั้งที่ “พุทธบริษัทที่ดี” เคยร่วมกับพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ได้ช่วยกันกำจัด “สงฆ์เทียมกิเลสหนา” กับ “แก๊งต้มตุ๋นจิ้งเหลือง”ที่ใช้ศาสนาบังหน้า ซึ่งทำผิดในคำสอนและวัตรปฏิบัติ ที่มิใช่แนวทางของพระพุทธเจ้า

ศาสนาพุทธ-ยังคงความประเสริฐ พระธรรมคำสอน-ถูกต้องแน่แท้ แต่วงการสงฆ์ในชาติไทยวันนี้เหลวแหลกยิ่งนัก จึงถึงเวลาต้องสังคายนา “วงการสงฆ์” กันอย่างจริงจังเสียแล้ว...

หากศีลธรรมไม่กลับคืนสู่ฆราวาสและพระสงฆ์ สังคมไทยคงไร้ซึ่งศานติสุขอย่างแน่นอน…!

ดังนั้น...การได้ “ผู้นำวงการสงฆ์” ดีหรือไม่ดี จะพิสูจน์ชัดว่า “บิ๊กตู่” “ใช้ธรรม-ตั้ง” หรือ “ใช้อธรรม-ตั้ง?”
กำลังโหลดความคิดเห็น