จากกรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุว่าไม่จำเป็นต้องเขียนเรื่องการตัดสิทธิ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า เป็นการเปิดช่องให้ คสช.สืบทอดอำนาจ
เมื่อผู้สื่อข่าวนำเรื่องนี้ไปถามความเห็นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ก็ได้รับคำตอบ พร้อมด้วยอาการฉุนเฉียว ว่า " ก็ผมจะไปหรือยังล่ะ ผมจะไปถึงตรงนั้นหรือยัง จะเว้นวรรคยังไง ถามว่าใครจะไปเล่นการเมืองล่ะ"
ผู้สื่อข่าวกล่าวต่อว่า อาจจะเป็นสมาชิกคสช. นายกฯกล่าวว่า "ก็บอกมาสิ สมาชิกในคสช. นี่เป็นใคร ไม่ต้องมีเผื่อ เดี๋ยวเขาก็คิดกันเองแหละ"
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกฯถึงกับปากคอสั่น ตอบว่า "ก็เป็นเรื่องของเขา ที่จะเขียนหรือไม่เขียน ก็ว่าไปเถอะ ไม่ต้องมามั่นใจ ทำไมพวกเธอถึงไม่ไปมั่นใจพวกคนเลวๆ ที่จะเข้ามาอีกล่ะ ไปเขียนล็อกพวกนั้นไม่ได้ อย่าเลย ฉันพูดกับเธอมันไม่เกิดประโยชน์หรอก ผมอารมณ์ไม่ดี ทุกทีแหละ ผมแกล้งอารมณ์ไม่ดีตลอด พอแกล้งไปแกล้งมา เป็นจริงทุกที ไอ้พวกนี้มันชอบกระตุ้น แต่ไม่ได้โกรธเธอหรอก แต่พวกเธอต้องเข้าใจสิว่า วันนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาอยู่ กำลังวางพื้นฐานประเทศอยู่ แล้วต้องปฏิรูปให้ได้ แต่ทุกคนไม่ยอมรับอะไรเลย ใครจะทำล่ะ แบบประชาธิปไตย จะทำได้อีกไหม ทำไมไม่ใช้ประโยชน์ผมวันนี้ ให้ทำงานตรงนี้ให้ได้ วันหน้าเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที ว่าต้องทำอย่างไร วันนี้เธอก็ไปฟังพวกหนีคดี ไปฟังเขาอยู่นั่นแหละ มันผิดกฎหมายไม่ใช่หรือ ผิดอะไรบ้าง เยอะแยะไปหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯ ให้สัมภาษณ์ ขาไมโครโฟนได้เอนมาทางผู้สื่อข่าว นายกฯเลยบอกว่า "ไม่ต้องกลัว ไม่ล้มง่ายๆ หรอก จะเจาะยางยังไงก็ไม่ล้ม เพราะต้องยืนให้มั่น"
** กรธ.เตรียมชี้แจงอำนาจศาลรธน.
ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรธ. กล่าวความคืบหน้าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาทั้งหมดแล้ว 99 มาตรา ขณะนี้กำลังพิจารณาหมวดรัฐสภา ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมาก อาทิ การทำงานของ กกต. คุณสมบัติผู้สมัครส.ส. และ ส.ว. ลักษณะต้องห้ามต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลามากพอสมควร เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะกัน
ทั้งนี้ กรธ.ได้พิจารณาหารือ คุณสมบัติของผูสมัครเลือกตั้งส.ส. ในประเด็นการตัดสิทธิ์การลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ไม่ว่าจะระดับไหนนั้น ก็นำมาพิจารณาว่า จะมีสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่
" เวลาพูดเรื่องตัดสิทธิ์การเลือกตั้ง กรธ.ไม่ได้ดูว่า พรรคการเมืองใดจะเห็นอย่างไร แต่พิจารณาเป็นหลักกลาง ดูสภาพปัญหาของบ้านเมืองเป็นหลัก คนที่มาทำงานต้องสะอาด ไม่มีมลทิน ในส่วนที่พรรคการเมืองจะเห็นอย่างไร ก็ไปว่าในขั้นของกกต. และศาลฎีกาวินิจฉัย ส่วนกระแสที่พรรคการเมืองจะจับมือคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น เท่ากับบอก กรธ.เป็นนัยๆว่า เราต้องทำงานหนักขึ้น เพื่ออธิบาย และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในร่างฯที่เราช่วยกันเขียนขึ้นมา และต้องชี้แจงให้เขาเข้าใจในประเด็นใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนตามกระแส ที่พยายามบิดเบือนกันอยู่ ต้องอธิบายในความเข้าใจผิดในประเด็นที่ว่า จะเทอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เอาคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาตัดสินบุคคลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องชี้แจงว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการตัดสินอยู่แล้ว เพราะศาลในประเทศไทยเป็นระบบศาลปิด ซึ่งมีระบบคัดกรองบุคคลเข้ามาทำงานเป็นที่ยอมรับ เมื่อมีผู้กระทำผิดกฎของรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญต้องตัดสิน ซึ่งต้องให้ประชาชนเข้าใจว่า แม้จะเข้ามาจากการเลือกของประชาชน แต่ถ้าทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องถูกลงโทษเหมือนประชาชนทั่วไป" นายชาติชาย กล่าว
** กสม.เข้าพบ'มีชัย'ขอปรับร่างรธน.
นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เข้าพบ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ขอให้ปรับแก้ชื่อของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ในร่างรัฐธรรมนูญ ให้เพิ่มคำว่า "แห่งชาติ" ต่อท้ายเข้าไปด้วย เพื่อยกระดับให้เป็นองค์กรระดับชาติตามหลักสากล ที่ กสม.ในต่างประเทศใช้กัน และขอให้เพิ่มอำนาจการตรวจสอบเรื่องสิทธิมนุษยชน ตามหลักการปารีส ที่ร่างเดิมของ กรธ.ให้อำนาจเพียงแค่ ปรึกษาเรื่องสิทธิมนุษยชนเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางกสม.จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยกสม.ฉบับใหม่ แทนฉบับเดิม ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 42 เพื่อให้ทันสมัย และทันต่อสถานการณ์ โดย กสม.จะประชุมในสัปดาห์หน้า ถึงการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งนายมีชัย ได้รับปากว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กรธ. เพื่อปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวนำเรื่องนี้ไปถามความเห็นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ก็ได้รับคำตอบ พร้อมด้วยอาการฉุนเฉียว ว่า " ก็ผมจะไปหรือยังล่ะ ผมจะไปถึงตรงนั้นหรือยัง จะเว้นวรรคยังไง ถามว่าใครจะไปเล่นการเมืองล่ะ"
ผู้สื่อข่าวกล่าวต่อว่า อาจจะเป็นสมาชิกคสช. นายกฯกล่าวว่า "ก็บอกมาสิ สมาชิกในคสช. นี่เป็นใคร ไม่ต้องมีเผื่อ เดี๋ยวเขาก็คิดกันเองแหละ"
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกฯถึงกับปากคอสั่น ตอบว่า "ก็เป็นเรื่องของเขา ที่จะเขียนหรือไม่เขียน ก็ว่าไปเถอะ ไม่ต้องมามั่นใจ ทำไมพวกเธอถึงไม่ไปมั่นใจพวกคนเลวๆ ที่จะเข้ามาอีกล่ะ ไปเขียนล็อกพวกนั้นไม่ได้ อย่าเลย ฉันพูดกับเธอมันไม่เกิดประโยชน์หรอก ผมอารมณ์ไม่ดี ทุกทีแหละ ผมแกล้งอารมณ์ไม่ดีตลอด พอแกล้งไปแกล้งมา เป็นจริงทุกที ไอ้พวกนี้มันชอบกระตุ้น แต่ไม่ได้โกรธเธอหรอก แต่พวกเธอต้องเข้าใจสิว่า วันนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาอยู่ กำลังวางพื้นฐานประเทศอยู่ แล้วต้องปฏิรูปให้ได้ แต่ทุกคนไม่ยอมรับอะไรเลย ใครจะทำล่ะ แบบประชาธิปไตย จะทำได้อีกไหม ทำไมไม่ใช้ประโยชน์ผมวันนี้ ให้ทำงานตรงนี้ให้ได้ วันหน้าเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที ว่าต้องทำอย่างไร วันนี้เธอก็ไปฟังพวกหนีคดี ไปฟังเขาอยู่นั่นแหละ มันผิดกฎหมายไม่ใช่หรือ ผิดอะไรบ้าง เยอะแยะไปหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯ ให้สัมภาษณ์ ขาไมโครโฟนได้เอนมาทางผู้สื่อข่าว นายกฯเลยบอกว่า "ไม่ต้องกลัว ไม่ล้มง่ายๆ หรอก จะเจาะยางยังไงก็ไม่ล้ม เพราะต้องยืนให้มั่น"
** กรธ.เตรียมชี้แจงอำนาจศาลรธน.
ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรธ. กล่าวความคืบหน้าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาทั้งหมดแล้ว 99 มาตรา ขณะนี้กำลังพิจารณาหมวดรัฐสภา ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมาก อาทิ การทำงานของ กกต. คุณสมบัติผู้สมัครส.ส. และ ส.ว. ลักษณะต้องห้ามต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลามากพอสมควร เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะกัน
ทั้งนี้ กรธ.ได้พิจารณาหารือ คุณสมบัติของผูสมัครเลือกตั้งส.ส. ในประเด็นการตัดสิทธิ์การลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ไม่ว่าจะระดับไหนนั้น ก็นำมาพิจารณาว่า จะมีสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่
" เวลาพูดเรื่องตัดสิทธิ์การเลือกตั้ง กรธ.ไม่ได้ดูว่า พรรคการเมืองใดจะเห็นอย่างไร แต่พิจารณาเป็นหลักกลาง ดูสภาพปัญหาของบ้านเมืองเป็นหลัก คนที่มาทำงานต้องสะอาด ไม่มีมลทิน ในส่วนที่พรรคการเมืองจะเห็นอย่างไร ก็ไปว่าในขั้นของกกต. และศาลฎีกาวินิจฉัย ส่วนกระแสที่พรรคการเมืองจะจับมือคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น เท่ากับบอก กรธ.เป็นนัยๆว่า เราต้องทำงานหนักขึ้น เพื่ออธิบาย และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในร่างฯที่เราช่วยกันเขียนขึ้นมา และต้องชี้แจงให้เขาเข้าใจในประเด็นใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนตามกระแส ที่พยายามบิดเบือนกันอยู่ ต้องอธิบายในความเข้าใจผิดในประเด็นที่ว่า จะเทอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เอาคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาตัดสินบุคคลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องชี้แจงว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการตัดสินอยู่แล้ว เพราะศาลในประเทศไทยเป็นระบบศาลปิด ซึ่งมีระบบคัดกรองบุคคลเข้ามาทำงานเป็นที่ยอมรับ เมื่อมีผู้กระทำผิดกฎของรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญต้องตัดสิน ซึ่งต้องให้ประชาชนเข้าใจว่า แม้จะเข้ามาจากการเลือกของประชาชน แต่ถ้าทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องถูกลงโทษเหมือนประชาชนทั่วไป" นายชาติชาย กล่าว
** กสม.เข้าพบ'มีชัย'ขอปรับร่างรธน.
นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เข้าพบ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ขอให้ปรับแก้ชื่อของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ในร่างรัฐธรรมนูญ ให้เพิ่มคำว่า "แห่งชาติ" ต่อท้ายเข้าไปด้วย เพื่อยกระดับให้เป็นองค์กรระดับชาติตามหลักสากล ที่ กสม.ในต่างประเทศใช้กัน และขอให้เพิ่มอำนาจการตรวจสอบเรื่องสิทธิมนุษยชน ตามหลักการปารีส ที่ร่างเดิมของ กรธ.ให้อำนาจเพียงแค่ ปรึกษาเรื่องสิทธิมนุษยชนเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางกสม.จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยกสม.ฉบับใหม่ แทนฉบับเดิม ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 42 เพื่อให้ทันสมัย และทันต่อสถานการณ์ โดย กสม.จะประชุมในสัปดาห์หน้า ถึงการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งนายมีชัย ได้รับปากว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กรธ. เพื่อปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่องนี้
