ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) เพิ่งประกาศอายัดทรัพย์ บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กพีเรียนซ์ จำกัด(มหาชน) มูลค่าประมาณ 88 ล้านบาท ตามความผิดฉ้อโกงประชาชน โดยมีผู้บริหารบริษัทฯหลายรายถูกดำเนินคดี
บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าวฯ เจ้าของแคลิฟอร์เนียฟิตเนส สถานที่ออกกำลังกายสมัยใหม่ ปิดฉากโดยสมบูรณ์แล้ว ทิ้งไว้แต่ตำนานความฉาวโฉ่และความเสียหายอย่างย่อยยับไว้ในสังคมไทย โดยจอม 18 มงกุฎตัวการชาวอเมริกัน ได้หอบเงินที่โกงจากสมาชิกและปล้นจากนักลงทุนในตลาดหุ้น หนีเข้ากลีบเมฆ กลับไปเสวยสุขในบ้านเกิดตัวเองแล้ว
และกฎหมายไทย แทบจะหมดโอกาสเอื้อมมือไปลากคอฝรั่งจอมโกงรายนี้ได้
นายเอริค มาร์ค เลอวีน ชาวสหรัฐฯ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าวฯ เมื่อปี 2543 โดยอาศัยประสบการณ์ทางธุรกิจจากฮ่องกงมาเปิดกิจการฟิตเนสในประเทศไทย และดึงนายวิชา พูนวรลักษณ์ เจ้าของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เข้ามาถือหุ้นประมาณ 40%
หุ้นแคลิฟอร์เนียว้าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปลายปี 2548 โดยเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปในราคาหุ้นละ 6 บาท และสามารถแสดงผลประกอบการที่มีกำไรได้เพียงปีเดียวคือ ปี 2549 ก่อนจะขาดทุนต่อเนื่อง จนกระทั่งถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งฟื้นฟูกิจการ และพักการซื้อขายในปี 2554
ราคาหุ้นแคลิฟอร์เนีย ว้าวฯ ทรุดลงต่อเนื่อง และนายวิชาก็ทยอยขายหุ้นทิ้งจนหมดเกลี้ยง ในราคาไม่กี่สิบสตางค์ เพราะคงจะประเมินแล้วว่า กิจการคงไปไม่รอด และคงเห็นพฤติการณ์นายเอริค รู้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ จึงถอยฉากออกมา
หลังนายเอริคนำหุ้นเข้าตลาดเพียงไม่กี่ปี แคลิฟอร์เนีย ฟิตเนส ซึ่งขยายไปประมาณ 10 สาขาก็เกิดปัญหา เพราะสมาชิกไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการ บางสาขาก็มีปัญหาค้างชำระค่าเช่า ค่าน้ำค่าไป ค่าบริหารจัดการ จนไม่ อาจเปิดให้บริการได้ จนสมาชิกร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับปิด แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
ค่าสมาชิกที่เรียกเก็บล่วงหน้า ก็ไม่อาจทวงคืนได้ โดนแคลิฟอร์เนีย ฟิตเนส ทยอยปิดตัวเองจนหมดทุกสาขา
ป.ป.ง.ได้เข้าไปตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินบริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าวฯ พบว่า ระหว่างปี 2544 ถึง 2555 มีการโอนเงินให้บุคคลต่างประเทศและในประเทศจำนวน 1,669 ล้านบาท หรือร้อยละ 99 ของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด
พูดให้ชัดคือ เงินสดและทรัพย์สินของบริษัทเกือบทั้งหมด ถูกนายเอริค ผ่องถ่ายไปจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลืออะไรไว้ให้สมาชิกฟิตเนส หรือผู้ถือหุ้นบริษัทแต่อย่างใด
และฝรั่งชาวสหรัฐฯ คนนี้ ซึ่งมีฉายา “กล้ามปู” เนื่องจากเป็นนักเพาะกาย กล้ามใหญ่ ยังแสดงตัวเป็นเศรษฐกิจ ทุ่มเงินนับร้อยล้านบาท จัดพิธีหมั้นยังหรูหรากับนางแบบไทย เป็นข่าวใหญ่ครึมโครม ทั้งที่บริษัท แคลิฟอร์เนียกำลังมีมรสุมใหญ่
ในช่วงที่รุ่งสุดขีด นายเอริค สร้างความหมั่นไส้ให้ชาวสีลม โดยเฉพาะคนที่ทำงานอยู่ตึก สีลมทาวเวอร์ เพราะระหว่างเดินทางมาที่ตึกสีลม ทาวเวอร์ นายเอริคจะใช้รถจักรยานยนต์ตำรวจคันใหญ่นำ และตำรวจจะคอยกันรถของประชาชนทั่วไป เพื่อให้รถยนต์ของนายเอริควิ่งผ่านเข้าตึกไปก่อน ทำตัวเหมือนคนใหญ่คนโต ทั้งที่เป็นฝรั่งหัวแดงที่เข้ามาต้มตุ๋นเงินคนไทย
นายเอริคทิ้งความเสียหายไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนายวิชา พูนวรลักษณ์ สมาชิก แคลิฟอร์เนีย ฟิตเนสทุกสาขาจำนวนนับพันคน แต่กลุ่มที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ นักลงทุนในตลาดหุ้น
เพราะราคาหุ้น แคลิฟอร์เนีย ว้าวฯปัจจุบัน ถูกตีค่าเป็นศูนย์ ทรัพย์สินของบริษัทฯถูกผ่องถ่ายออกไปหมดแล้ว และแม้จะรู้ช่องทางการผ่องถ่าย แต่โอกาสตามคืนเป็นไปได้น้อยมาก โดยเฉพาะการโอนให้กับบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ
มีเพียงที่ดินหลายแปลงที่จังหวัดภูเก็ตเท่านั้นที่ ป.ป.ง.อายัดไว้ แต่มูลค่าก็ประเมินไว้เพียง 88 ล้านบาท และต้องเฉลี่ยทรัพย์แบ่งให้เจ้าหนี้ก่อน ซึ่งคงไม่เหลือแบ่งให้ผู้ถือหุ้น
ถ้าแคลิฟอร์เนีย ว้าวฯ ไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น นายเอริดคงไม่มีโอกาสกอบโกยเงินนับพันล้านบาทจากประเทศไทยไปได้ และนักลงทุนก็คงไม่ตกเป็นเหยื่อ
ถ้าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ มีมาตรการสอบตรวจที่เข้มงวด ป้องกันการผ่องถ่ายทรัพย์สินได้ ผู้ถือหุ้นทั่วไป อาจไม่เสียหายถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว เพราะจะหลงเหลือทรัพย์สินที่นำมาแบ่งเฉลี่ยได้บ้าง
ความเสียหายที่นักลงทุนได้รับจากนายเอริคและหุ้นบริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าวฯ จึงเป็นความผิดโดยตรงของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์
ผิดฐานปล่อยหุ้นเน่าๆ เข้ามาปล้นเงินประชาชน ผิดเพราะขาดมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด ปล่อยให้เกิดการผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน และไม่ได้เพิ่งเกิดกับบริษัท แคลิฟอร์เนียว้าวฯเ พียงแห่งเดียว
นายเอริคเผ่นหนีลอยนวลจากประเทศไทยไปแล้ว ไม่มีวันกลับมาเหยียบอีก และกฎหมายคงเอื้อมไปลากคอฝรั่ง 18 มงกุฎรายนี้กลับมาติดคุกไม่ได้ นักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย ต้องทำใจถือเป็นบทเรียนไป
แต่จะทำอย่างไรกับ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ เพราะถือว่ามีส่วนรับผิดชอบกับการปล้นเงินจากตลาดหุ้นของนายเอริค
ทำอย่างไรจะป้องกันไม่ให้ตลาดหลักทรัพย์รับหุ้นเน่าๆ เข้ามาจดทะเบียน ทำอย่างไร ก.ล.ต.จะกับดูแลไม่ให้เกิดการผ่องถ่ายในบริษัทจดทะเบียน
และทำอย่างไรทั้ง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ จะคุ้มครองนักลงทุน ไม่ให้เสื้อ สิงห์ กระทิง แรดหลอกต้มเงินของนักลงทุนในตลาดหุ้นได้
ทุกวันนี้ยังมีหุ้นเน่าๆ และอยู่ในสภาพตายซาก ถูกแขวน “เอสพี” พักการซื้อขายนับสิบบริษัท เพราะฐานะทางการเงินย่ำแย่เหมือนบริษัท แคลิฟอร์ เนีย ว้าวฯ
ทุกวันนี้ ยังมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินที่นำหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียนปีละ2-3 บริษัท เที่ยวหากิจการที่พอไปได้ ชักชวนหว่านล้อมให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยอาสาจัดการแต่งตัว แต่งงบการเงิน และเสนอตัวประสานกับแก๊งปั่นหุ้นและบริษัทโบรกเกอร์ เพื่อสร้างราคาหุ้นให้
เรื่องเลวร้ายทั้งหลาย พฤติกรรมฉ้อฉลต่างๆ การผ่องถ่ายในบริษัทจดทะเบียน หรือแม้แต่การปั่นหุ้น ถูกตั้งคำถามมาตลอด ทำไม ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์จึงไม่รู้ หรือรู้ช้ากว่าหน่วยงานอื่นและคนอื่น
การตั้งกิจการ “ฟิตเนส” บังหน้า เพื่อเข้ามาปล้นเงินนักลงทุนในตลาดหุ้น กว่า ก.ล.ต.และตลาดหุ้นจะรู้สึกรู้สา จอม 18 มงกุฎของฝรั่งตาน้ำข้าวชาวสหรัฐ นายเอริค มาร์ค เลอวีน ก็ตีหัวคนไทยหอบเงินหนีกลับบ้านไปแล้ว
ทิ้งตำนานความเศร้าให้คนไทยสลดใจในโศกนาฏกรรมของตลาดหุ้นอีกครั้ง