การออกกฎหมายเพื่อให้แผ่นดินกลายเป็นอาณานิคมของต่างชาติกลับมาอีกครั้งเมื่อมีข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้กรมธนารักษ์เร่งแก้ให้สิทธิต่างชาติสามารถเช่าที่ดินได้ 99 ปี
ความพยายามออกร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อให้ต่างชาติสามารถเช่าที่ดินได้ 99 ปี เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณ เป็นความพยายามของทักษิณที่จะดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยผู้ร่างกฎหมายในขณะนั้นก็คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีมือกฎหมายของทักษิณ และเป็นรองนายกรัฐมนตรีและมือกฎหมายของรัฐบาลประยุทธ์ในขณะนี้ และมีนายสมคิด รองนายกรัฐมนตรีในขณะนี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น
คำชี้แจงของนายวิษณุตอนนั้นระบุว่าเขตพิเศษอาจได้มาซึ่งที่ดิน/อสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ในการดำเนินงานโดยจัดหาเอง เช่น เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน เช่าระยะยาว เวนคืน ให้เอกชนนำที่ดินมาร่วมลงทุน เป็นต้น หรือได้มาโดยผลของกฎหมาย เช่นให้ พ.ร.ฎ.จัดตั้งเขตพิเศษมีผลเป็นการถอนสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และให้ตกเป็นของเขตพิเศษ โดยไม่ต้องดำเนินตามกฎหมายที่ดิน กรณีที่กฎหมายกำหนดให้การดำเนินการในเรื่องใดเป็นอำนาจของหน่วยงานรัฐ หรือคณะกรรมการตามกฎหมาย ให้เขตพิเศษมีอำนาจดำเนินการได้เช่นเดียวกับหน่วยงานของรัฐนั้น และให้ถือว่าผู้ว่าการเขตพิเศษเป็นและมีอำนาจเช่นเดียวกับเจ้าพนักงานตามกฎหมายนั้น
โดยเขตพิเศษมีอำนาจให้บริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจ/อยู่อาศัย เช่น อนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต แทนหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายภายในพื้นที่เขตพิเศษ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งค่าธรรมเนียมหลังจากหักค่าใช้จ่ายไว้ไม่เกินร้อยละ 10 ให้ส่งเป็นรายได้ของหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ตามมาตรา 26 ของร่างพ.ร.บ.นี้กำหนดว่า การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือใช้ประโยชน์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้เช่าเป็นระยะเวลาคราวหนึ่งไม่น้อยกว่าห้าสิบปี แต่ไม่เกินเก้าสิบเก้าปี โดยมิให้นำมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับกับการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว
มาตรา 31 เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงเขตเศรษฐกิจพิเศษแต่ละเขตตาม พ.ร.บ.นี้แล้ว ให้มีผลต่อสาธารณสมบัติของแผ่นดินและที่ธรณีสงฆ์ ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย เช่น ที่ดินอันเป็นที่ธรณีสงฆ์ เมื่อเขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับความยินยอมจากวัดและจ่ายค่าผาติกรรมให้แก่วัดตามที่มหาเถรสมาคมกำหนดแล้ว ให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวตกเป็นของเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยไม่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.โอนที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ หรือในกรณีที่วัดประสงค์จะให้เช่าแทนการโอน ก็ให้ดำเนินการเช่าระยะยาวตามระยะเวลาที่กำหนดในมาตรา 26 ได้
ทั้งนี้ ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในมาตรา 31 นอกจากธรณีสงฆ์แล้ว ยังครอบคลุมไปถึงที่ดินสาธารณะที่พลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นอยู่ โดยกฎหมายฉบับนี้บังคับให้ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวให้ตกเป็นของเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยไม่ต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน ส่วนที่ดินที่ได้สงวนหรือหวงห้ามไว้ตามความต้องการของทางราชการ ก็สามารถดำเนินการได้ตามหลักการดังกล่าวเช่นกัน โดยไม่ต้องดำเนินการถอนสภาพตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ
กฎหมายฉบับนั้นถูกต่อต้านอย่างรุนแรงนายบรรเจิด สิงคะเนติ นักวิชาการด้านกฎหมายถึงกับระบุว่า “กฎหมายฉบับนี้เหมือนเซ็นเช็คเปล่าให้ ครม.มีการให้นิยามคำว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อการเกษตร พาณิชย์ ท่องเที่ยว แล้วซ่อนอยู่ตรงคำท้ายว่า เพื่อการอื่นใด เช่น ทำกาสิโน เขาก็สามารถทำได้ นี่คือการปล้นแผ่นดินผ่านกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ”
นายสัก กอแสงเรือง นักกฎหมายอีกท่านหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายฉบับนั้นว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษในร่างกฎหมายฉบับนี้ ตัวเขตเองเป็นคนร่างกฎระเบียบข้อบังคับในเขตของเขาเอง เขามีอำนาจนิติบัญญัติของเขาเอง มีอำนาจบริหารของเขาเอง มติ ครม.ใช้ไม่ได้ในเขตฯ ส่วนถ้ามีข้อพิพาทในเขตฯ คณะกรรมการจะเป็นคนวินิจฉัย แล้วถือเป็นที่สุด คนที่จะเข้าไปในเขตต้องได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะประกอบการอุตสาหกรรม อาศัย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของเขตฯ ก็จะยกเลิกการอนุญาต ต่อให้ซื้อที่ดินไปแล้ว ก็สามารถเอาคืนแล้วบอกเลิกสัญญาซื้อขายได้ โดยคำนวณราคาขายหักค่าใช้ประโยชน์ตามวันที่เข้าไปแล้วถึงจะคืนในส่วนที่เหลือ
กลายเป็นผู้เช่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเหมือนมีอำนาจรัฐบนแผ่นดินที่เช่าซ้อนกับอำนาจรัฐไทย
กฎหมายฉบับนี้ถูกเปรียบเหมือนกับการขายชาติและยกแผ่นดินให้เป็นอาณานิคมของต่างชาติ แต่สุดท้ายร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ก็ตกไปพร้อมกับทักษิณที่ถูกประชาชนในนามกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลุกฮือขึ้นมาขับไล่
แม้ว่าทักษิณจะกลายเป็นสัมภเวสีไปแล้ว แต่สมคิดและวิษณุยังอยู่ วันนี้กลายมาเป็นขุนพลข้างกายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ที่มีอำนาจล้นมือ
กฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปีถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยอ้างว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลังได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินย่านมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเวลา 99 ปี คิดเป็นมูลค่า 61,846 ล้านบาท แต่ต้องให้กรมธนารักษ์แก้กฎหมายเสียก่อน เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระบุชัดเจนว่า กำหนดเช่าที่ดินได้ไม่เกิน 30 ปี เว้นแต่เช่าพัฒนาเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมตามกฎหมายอื่นไม่เกิน 50 ปี เป็นต้น
นั่นแสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์รับรู้และยินยอมพร้อมใจด้วยไม่ใช่แค่ความคิดของนายสมคิด
การยกที่ดินให้ต่างชาติยึดครอง 99 ปี บางคนอาจนึกถึงที่อังกฤษเช่าเกาะฮ่องกงจากจีน แต่ต้องไม่ลืมว่า สาเหตุของการยึดครองมาจากการทำสงครามฝิ่นกันแล้วอังกฤษใช้อำนาจบีบให้จีนทำสัญญา แผ่นดินของตัวเองต้องกลายเป็นอาณานิคมของต่างชาติเพราะถูกบังคับด้วยกระบอกปืน ไม่ใช่ความยินยอมพร้อมใจที่รัฐบาลประยุทธ์พยายามจะทำในขณะนี้
ถามว่าเงิน 61,846 ล้านบาท ที่จะได้ในปีนี้เมื่อนับไปอีก 99 ปีมูลค่าของมันจะเหลือเท่าไหร่
ถ้าเด็กที่เกิดวันนี้มีชีวิตไปถึง 99 ปี ลองคิดดู 25 ปีต่อมาเด็กคนนี้มีลูก อีก 50 ปีมีหลาน พอ 75 ปีมีเหลน ถ้าอยู่ถึง 99 ปีเหลนอาจมีลูกแล้ว มีลูกแล้วมีหลานมีเหลนมีโหลนถึง 4-5 เจนเนอเรชั่นที่แผ่นดินจะถูกยึดครองจากต่างชาติ
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ตอนนั้นก็อายุ 160 กว่าปีแล้วไม่รู้อยู่ที่ไหน
ไม่แปลกที่รัฐบาลนายทุนแบบทักษิณถึงคิดกฎหมายขายชาติฉบับนั้นขึ้นมาได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลทหารที่ถูกสอนมาให้ปกป้องแผ่นดินแบบรัฐบาลประยุทธ์ก็คิดแบบเดียวกัน
ความพยายามออกร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อให้ต่างชาติสามารถเช่าที่ดินได้ 99 ปี เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณ เป็นความพยายามของทักษิณที่จะดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยผู้ร่างกฎหมายในขณะนั้นก็คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีมือกฎหมายของทักษิณ และเป็นรองนายกรัฐมนตรีและมือกฎหมายของรัฐบาลประยุทธ์ในขณะนี้ และมีนายสมคิด รองนายกรัฐมนตรีในขณะนี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น
คำชี้แจงของนายวิษณุตอนนั้นระบุว่าเขตพิเศษอาจได้มาซึ่งที่ดิน/อสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ในการดำเนินงานโดยจัดหาเอง เช่น เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน เช่าระยะยาว เวนคืน ให้เอกชนนำที่ดินมาร่วมลงทุน เป็นต้น หรือได้มาโดยผลของกฎหมาย เช่นให้ พ.ร.ฎ.จัดตั้งเขตพิเศษมีผลเป็นการถอนสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และให้ตกเป็นของเขตพิเศษ โดยไม่ต้องดำเนินตามกฎหมายที่ดิน กรณีที่กฎหมายกำหนดให้การดำเนินการในเรื่องใดเป็นอำนาจของหน่วยงานรัฐ หรือคณะกรรมการตามกฎหมาย ให้เขตพิเศษมีอำนาจดำเนินการได้เช่นเดียวกับหน่วยงานของรัฐนั้น และให้ถือว่าผู้ว่าการเขตพิเศษเป็นและมีอำนาจเช่นเดียวกับเจ้าพนักงานตามกฎหมายนั้น
โดยเขตพิเศษมีอำนาจให้บริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจ/อยู่อาศัย เช่น อนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต แทนหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายภายในพื้นที่เขตพิเศษ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งค่าธรรมเนียมหลังจากหักค่าใช้จ่ายไว้ไม่เกินร้อยละ 10 ให้ส่งเป็นรายได้ของหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ตามมาตรา 26 ของร่างพ.ร.บ.นี้กำหนดว่า การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือใช้ประโยชน์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้เช่าเป็นระยะเวลาคราวหนึ่งไม่น้อยกว่าห้าสิบปี แต่ไม่เกินเก้าสิบเก้าปี โดยมิให้นำมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับกับการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว
มาตรา 31 เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงเขตเศรษฐกิจพิเศษแต่ละเขตตาม พ.ร.บ.นี้แล้ว ให้มีผลต่อสาธารณสมบัติของแผ่นดินและที่ธรณีสงฆ์ ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย เช่น ที่ดินอันเป็นที่ธรณีสงฆ์ เมื่อเขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับความยินยอมจากวัดและจ่ายค่าผาติกรรมให้แก่วัดตามที่มหาเถรสมาคมกำหนดแล้ว ให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวตกเป็นของเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยไม่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.โอนที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ หรือในกรณีที่วัดประสงค์จะให้เช่าแทนการโอน ก็ให้ดำเนินการเช่าระยะยาวตามระยะเวลาที่กำหนดในมาตรา 26 ได้
ทั้งนี้ ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในมาตรา 31 นอกจากธรณีสงฆ์แล้ว ยังครอบคลุมไปถึงที่ดินสาธารณะที่พลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นอยู่ โดยกฎหมายฉบับนี้บังคับให้ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวให้ตกเป็นของเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยไม่ต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน ส่วนที่ดินที่ได้สงวนหรือหวงห้ามไว้ตามความต้องการของทางราชการ ก็สามารถดำเนินการได้ตามหลักการดังกล่าวเช่นกัน โดยไม่ต้องดำเนินการถอนสภาพตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ
กฎหมายฉบับนั้นถูกต่อต้านอย่างรุนแรงนายบรรเจิด สิงคะเนติ นักวิชาการด้านกฎหมายถึงกับระบุว่า “กฎหมายฉบับนี้เหมือนเซ็นเช็คเปล่าให้ ครม.มีการให้นิยามคำว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อการเกษตร พาณิชย์ ท่องเที่ยว แล้วซ่อนอยู่ตรงคำท้ายว่า เพื่อการอื่นใด เช่น ทำกาสิโน เขาก็สามารถทำได้ นี่คือการปล้นแผ่นดินผ่านกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ”
นายสัก กอแสงเรือง นักกฎหมายอีกท่านหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายฉบับนั้นว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษในร่างกฎหมายฉบับนี้ ตัวเขตเองเป็นคนร่างกฎระเบียบข้อบังคับในเขตของเขาเอง เขามีอำนาจนิติบัญญัติของเขาเอง มีอำนาจบริหารของเขาเอง มติ ครม.ใช้ไม่ได้ในเขตฯ ส่วนถ้ามีข้อพิพาทในเขตฯ คณะกรรมการจะเป็นคนวินิจฉัย แล้วถือเป็นที่สุด คนที่จะเข้าไปในเขตต้องได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะประกอบการอุตสาหกรรม อาศัย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของเขตฯ ก็จะยกเลิกการอนุญาต ต่อให้ซื้อที่ดินไปแล้ว ก็สามารถเอาคืนแล้วบอกเลิกสัญญาซื้อขายได้ โดยคำนวณราคาขายหักค่าใช้ประโยชน์ตามวันที่เข้าไปแล้วถึงจะคืนในส่วนที่เหลือ
กลายเป็นผู้เช่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเหมือนมีอำนาจรัฐบนแผ่นดินที่เช่าซ้อนกับอำนาจรัฐไทย
กฎหมายฉบับนี้ถูกเปรียบเหมือนกับการขายชาติและยกแผ่นดินให้เป็นอาณานิคมของต่างชาติ แต่สุดท้ายร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ก็ตกไปพร้อมกับทักษิณที่ถูกประชาชนในนามกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลุกฮือขึ้นมาขับไล่
แม้ว่าทักษิณจะกลายเป็นสัมภเวสีไปแล้ว แต่สมคิดและวิษณุยังอยู่ วันนี้กลายมาเป็นขุนพลข้างกายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ที่มีอำนาจล้นมือ
กฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปีถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยอ้างว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลังได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินย่านมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเวลา 99 ปี คิดเป็นมูลค่า 61,846 ล้านบาท แต่ต้องให้กรมธนารักษ์แก้กฎหมายเสียก่อน เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระบุชัดเจนว่า กำหนดเช่าที่ดินได้ไม่เกิน 30 ปี เว้นแต่เช่าพัฒนาเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมตามกฎหมายอื่นไม่เกิน 50 ปี เป็นต้น
นั่นแสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์รับรู้และยินยอมพร้อมใจด้วยไม่ใช่แค่ความคิดของนายสมคิด
การยกที่ดินให้ต่างชาติยึดครอง 99 ปี บางคนอาจนึกถึงที่อังกฤษเช่าเกาะฮ่องกงจากจีน แต่ต้องไม่ลืมว่า สาเหตุของการยึดครองมาจากการทำสงครามฝิ่นกันแล้วอังกฤษใช้อำนาจบีบให้จีนทำสัญญา แผ่นดินของตัวเองต้องกลายเป็นอาณานิคมของต่างชาติเพราะถูกบังคับด้วยกระบอกปืน ไม่ใช่ความยินยอมพร้อมใจที่รัฐบาลประยุทธ์พยายามจะทำในขณะนี้
ถามว่าเงิน 61,846 ล้านบาท ที่จะได้ในปีนี้เมื่อนับไปอีก 99 ปีมูลค่าของมันจะเหลือเท่าไหร่
ถ้าเด็กที่เกิดวันนี้มีชีวิตไปถึง 99 ปี ลองคิดดู 25 ปีต่อมาเด็กคนนี้มีลูก อีก 50 ปีมีหลาน พอ 75 ปีมีเหลน ถ้าอยู่ถึง 99 ปีเหลนอาจมีลูกแล้ว มีลูกแล้วมีหลานมีเหลนมีโหลนถึง 4-5 เจนเนอเรชั่นที่แผ่นดินจะถูกยึดครองจากต่างชาติ
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ตอนนั้นก็อายุ 160 กว่าปีแล้วไม่รู้อยู่ที่ไหน
ไม่แปลกที่รัฐบาลนายทุนแบบทักษิณถึงคิดกฎหมายขายชาติฉบับนั้นขึ้นมาได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลทหารที่ถูกสอนมาให้ปกป้องแผ่นดินแบบรัฐบาลประยุทธ์ก็คิดแบบเดียวกัน