วานนี้ (14 ม.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม มีวาระการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ... ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ
ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายได้ชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า การจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จัดตั้งเหมือนศาลชำนัญพิเศษอื่นๆ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เริ่มจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้จัดทำและยกร่างขึ้น แล้วเสนอมายังครม. ซึ่งมีหลักการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ได้กำชับขอให้เป็นเรื่องเร่งด่วน และจำเป็นต้องมี ร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นกฎหมายแฝดในการนำไปบังคับใช้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากเรียบร้อยแล้ว จะเสนอตามมาอย่างเร็วที่สุด
การทุจริตและประพฤติมิชอบ เกิดขึ้นเป็นอันมากในประเทศไทย และสลับซับซ้อนมากขึ้น เมื่อเข้าสู่กระบวนการด้วยวิธีการเหมือนปกติทั่วไป ใช้เวลายาวนาน ล่าช้า ทำให้ผู้กระทำผิดได้ประโยชน์โดยไม่สมควร หากสามารถเร่งรัดโดยไม่เสียความเป็นธรรม และมีกระบวนการพิจารณาพิเศษ ควรจะมีศาลที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ให้ผู้พิพากษาชำนัญพิเศษที่เชี่ยวชาญคดีนี้มาพิจารณา คัดเลือกจากคนที่เคยเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล หรือผู้พิพากษาในศาลอาญาไม่น้อยกว่า 10 ปี จะได้หลักประกันว่ามีผู้พิพากษาที่ชำนาญโดยเฉพาะก็จะพิจารณาคดีได้รวดเร็วขึ้น
นายวิษณุ กล่าวต่อไปว่า ศาลนี้จะใช้วิธีพิจารณาระบบไต่สวน เช่นเดียวกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ศาลมีอำนาจเรียกพยานหลักฐานอื่นมาแสดงได้ ส่วนในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี จะไม่นับช่วงเวลาที่หลบหนี ให้ถือว่าอายุความจะหยุด ดังนั้นจะไม่ขาดอายุความในกรณีที่มีการหลบหนี การประพฤติมิชอบต่างๆ ก็จะดึงมาขึ้นศาลนี้ ส่วนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ยังคงอยู่ หากรัฐธรรมนูญกำหนดให้อยู่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจะครอบคลุมบุคคลทั้งหมด ยกเว้นบุคคลที่ต้องไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลชำนัญพิเศษนี้ เป็นระบบสองศาล เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วสามารถยื่นอุทธรณ์เป็นศาลที่สองได้ ซึ่งต่อไปจะตั้งแผนกมารองรับและจบที่ศาลอุทธรณ์ ระหว่างนี้ ครม.ได้มีมติให้ไปเตรียมการเปิดศาลได้ ภายในวันที่ 1 ต.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ สมาชิกได้ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุน อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก อภิปรายโดยตั้งข้อสังเกต 2 ประการ กับ ร่าง พ.ร.บ. นี้ คือ 1. การกำหนดอำนาจของศาล อาจไม่ครอบคลุมประเด็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้สิทธิ์โดยมิชอบ เช่น ข้า
ราชการเบิกค่าเช่าบ้าน ค่าล่วงเวลา จะไม่เข้าข่ายความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่เป็นความผิดอาญาเรื่องฉ้อโกง เห็นว่า น่าจะครอบคลุมไปถึงกรณีนี้เช่นกัน 2. ศาลน่าจะพิจารณาดำเนินคดีทั้งผู้ให้ และผู้รับ ให้อยู่ในศาลเดียวกัน เพราะในกรณีนักการเมืองกระทำผิด เป็นผู้รับ จะไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ผู้ให้จะขึ้นศาลนี้ ทำให้เป็นการพิจารณาคดีเดียวกันใน 2 ศาล ทำอย่างไรจะเขียนกฎหมายให้ครอบคลุมได้
นายตวง อันทะไชย ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะนี้เรามีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ้าจัดสมดุลไม่ลงตัวกับกลไกใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะกลายเป็นปัญหาใหม่ ทำให้การดำเนินการกับคดีทุจริตจะช้า ดังนั้นต้องดูว่ากลไกใหม่ จะเชื่อมโยงได้อย่างไร และเห็นว่า เมื่อจัดตั้งศาลนี้ ควรมีศาลนี้ศาลเดียวเพื่อดำเนินการโดยตรง ด้วยความรวดเร็ว ไม่ควรมีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก
หลังการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพ.ศ. ... ด้วยคะแนนเสียง 174 ต่อ 0 งดออกเสียง 5 และตั้งคณะกรรมาธิการจำนวน 15 คน เพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายได้ชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า การจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จัดตั้งเหมือนศาลชำนัญพิเศษอื่นๆ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เริ่มจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้จัดทำและยกร่างขึ้น แล้วเสนอมายังครม. ซึ่งมีหลักการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ได้กำชับขอให้เป็นเรื่องเร่งด่วน และจำเป็นต้องมี ร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นกฎหมายแฝดในการนำไปบังคับใช้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากเรียบร้อยแล้ว จะเสนอตามมาอย่างเร็วที่สุด
การทุจริตและประพฤติมิชอบ เกิดขึ้นเป็นอันมากในประเทศไทย และสลับซับซ้อนมากขึ้น เมื่อเข้าสู่กระบวนการด้วยวิธีการเหมือนปกติทั่วไป ใช้เวลายาวนาน ล่าช้า ทำให้ผู้กระทำผิดได้ประโยชน์โดยไม่สมควร หากสามารถเร่งรัดโดยไม่เสียความเป็นธรรม และมีกระบวนการพิจารณาพิเศษ ควรจะมีศาลที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ให้ผู้พิพากษาชำนัญพิเศษที่เชี่ยวชาญคดีนี้มาพิจารณา คัดเลือกจากคนที่เคยเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล หรือผู้พิพากษาในศาลอาญาไม่น้อยกว่า 10 ปี จะได้หลักประกันว่ามีผู้พิพากษาที่ชำนาญโดยเฉพาะก็จะพิจารณาคดีได้รวดเร็วขึ้น
นายวิษณุ กล่าวต่อไปว่า ศาลนี้จะใช้วิธีพิจารณาระบบไต่สวน เช่นเดียวกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ศาลมีอำนาจเรียกพยานหลักฐานอื่นมาแสดงได้ ส่วนในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี จะไม่นับช่วงเวลาที่หลบหนี ให้ถือว่าอายุความจะหยุด ดังนั้นจะไม่ขาดอายุความในกรณีที่มีการหลบหนี การประพฤติมิชอบต่างๆ ก็จะดึงมาขึ้นศาลนี้ ส่วนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ยังคงอยู่ หากรัฐธรรมนูญกำหนดให้อยู่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจะครอบคลุมบุคคลทั้งหมด ยกเว้นบุคคลที่ต้องไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลชำนัญพิเศษนี้ เป็นระบบสองศาล เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วสามารถยื่นอุทธรณ์เป็นศาลที่สองได้ ซึ่งต่อไปจะตั้งแผนกมารองรับและจบที่ศาลอุทธรณ์ ระหว่างนี้ ครม.ได้มีมติให้ไปเตรียมการเปิดศาลได้ ภายในวันที่ 1 ต.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ สมาชิกได้ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุน อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก อภิปรายโดยตั้งข้อสังเกต 2 ประการ กับ ร่าง พ.ร.บ. นี้ คือ 1. การกำหนดอำนาจของศาล อาจไม่ครอบคลุมประเด็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้สิทธิ์โดยมิชอบ เช่น ข้า
ราชการเบิกค่าเช่าบ้าน ค่าล่วงเวลา จะไม่เข้าข่ายความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่เป็นความผิดอาญาเรื่องฉ้อโกง เห็นว่า น่าจะครอบคลุมไปถึงกรณีนี้เช่นกัน 2. ศาลน่าจะพิจารณาดำเนินคดีทั้งผู้ให้ และผู้รับ ให้อยู่ในศาลเดียวกัน เพราะในกรณีนักการเมืองกระทำผิด เป็นผู้รับ จะไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ผู้ให้จะขึ้นศาลนี้ ทำให้เป็นการพิจารณาคดีเดียวกันใน 2 ศาล ทำอย่างไรจะเขียนกฎหมายให้ครอบคลุมได้
นายตวง อันทะไชย ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะนี้เรามีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ้าจัดสมดุลไม่ลงตัวกับกลไกใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะกลายเป็นปัญหาใหม่ ทำให้การดำเนินการกับคดีทุจริตจะช้า ดังนั้นต้องดูว่ากลไกใหม่ จะเชื่อมโยงได้อย่างไร และเห็นว่า เมื่อจัดตั้งศาลนี้ ควรมีศาลนี้ศาลเดียวเพื่อดำเนินการโดยตรง ด้วยความรวดเร็ว ไม่ควรมีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก
หลังการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพ.ศ. ... ด้วยคะแนนเสียง 174 ต่อ 0 งดออกเสียง 5 และตั้งคณะกรรมาธิการจำนวน 15 คน เพื่อพิจารณาต่อไป