ผู้จัดการรายวัน360-ประเดิม 7 วันอันตราย วันแรกเกิดอุบัติเหตุ 439 ครั้ง ตาย 39 ราย บาดเจ็บ 456 คน เมาแล้วขับเป็นสาเหตุหลัก เพิ่มความถี่ตรวจจับพวกทำผิดกฎจราจร เมาขับ และขับรถเร็ว ประชาชนแห่กลับบ้านแน่นหมอชิต คาดทำสถิติสูงสุด 1.7 แสนคน เผยดอนเมืองแออัด หลังบินโลว์คอสบูม คนมีทางเลือกเดินทางมากขึ้น "ประยุทธ์"ห่วงใยประชาชน เตือนงดขับเร็ว ดื่มสุรา พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติคนที่สอง เปิดเผยในการแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 วานนี้ (30 ธ.ค.) ว่า อุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559” เกิดอุบัติเหตุ 439 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 456 คน โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจากเมาสุราสูงสุด รองลงมา เป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด และส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,165 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,432 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 506,623 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 77,273 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 23,305 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 22,096 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 19 คน
"ได้เพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร กวดขันผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับและขับรถเร็วเป็นพิเศษ ตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะประจำทาง ไม่ประจำทาง และรถตู้โดยสาร ต้องมีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุดบริการบนเส้นทางสายต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลและแจ้งเตือนจุดเสี่ยงอันตรายให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง"นายอาคมกล่าว
ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต กำแพงเพชร 2 พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรร่วมปล่อยแถว กำลังพลตำรวจจราจรกลาง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลรักษาความปลอดภัย ให้ประชาชนที่จะการเดินทางออกต่างจังหวัด พร้อมตรวจเยี่ยมจุดตรวจวัดแอลกอฮอลล์ผู้ขับขี่รถขนส่งสาธารณะ บริเวณประตูทางออก สถานีขนส่งหมอชิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเดินทางออกต่างจังหวัดของประชาชน พบว่า ตลอดช่วงบ่ายและเย็นวานนี้ (30 ธ.ค.) มีประชาชนได้ทยอยออกเดินทางไปต่างจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ทยอยออกไปบ้างแล้วตั้งแต่วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา โดย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ยืนยันว่าเตรียมรถไว้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน มีทั้งเพิ่มเที่ยวรถและจัดรถเสริมเข้ามาให้บริการ คาดว่า จะมีคนเดินทางมากที่สุดประมาณ 1.7 แสนคน จากที่เดินทางออกไปแล้วช่วงวันที่ 25-29 ธ.ค. ประมาณ 7.5 แสนคน ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ก็มีประชาชนเดินทางไปรถขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การเดินทางโดยรถ บขส. และรถไฟ ไม่ถือว่ามีปัญหาแออัดมากนัก เพราะปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางด้วยสายการบินต้นทุนต่ำที่มีให้บริการหลายสายการบิน และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่การเดินทางด้วยเครื่องบิน กลับมีปัญหาการแออัดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางไปเช็กอินที่สนามบินที่ประชาชนต้องใช้เวลาในการเช็กอินนานกว่าปกติ
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้งดดื่มสุราในช่วงเดินทาง เพราะปีนี้รัฐบาลมีโครงการเมาแล้วขับเจอยึดรถ เอาจริงเอาจังกับผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งเป็นไปเพื่อตัวผู้ขับขี่เอง รวมถึงผู้อื่นที่อาจได้รับผลกระทบจากการเมาแล้วขับด้วย ส่วนรถโดยสารสาธารณะ พลขับต้องรับผิดชอบต่อผู้โดยสาร และผู้โดยสารต้องรับผิดชอบต่อพลขับ ต่างคนต่างดูแลกัน ไม่ควรรีบร้อนเดินทาง เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และพลเรือน ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือรับบริการที่ภาครัฐจัดไว้ให้ตลอดเส้นทางทั้งสายหลักและสายรองกว่า 250 ศูนย์ เช่น การตรวจสภาพรถ เติมน้ำมันเครื่อง เติมลมยาง บริการอาหารเครื่องดื่ม และนวดคลายเครียด เป็นต้น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติคนที่สอง เปิดเผยในการแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 วานนี้ (30 ธ.ค.) ว่า อุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559” เกิดอุบัติเหตุ 439 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 456 คน โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจากเมาสุราสูงสุด รองลงมา เป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด และส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,165 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,432 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 506,623 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 77,273 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 23,305 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 22,096 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 19 คน
"ได้เพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร กวดขันผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับและขับรถเร็วเป็นพิเศษ ตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะประจำทาง ไม่ประจำทาง และรถตู้โดยสาร ต้องมีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุดบริการบนเส้นทางสายต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลและแจ้งเตือนจุดเสี่ยงอันตรายให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง"นายอาคมกล่าว
ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต กำแพงเพชร 2 พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรร่วมปล่อยแถว กำลังพลตำรวจจราจรกลาง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลรักษาความปลอดภัย ให้ประชาชนที่จะการเดินทางออกต่างจังหวัด พร้อมตรวจเยี่ยมจุดตรวจวัดแอลกอฮอลล์ผู้ขับขี่รถขนส่งสาธารณะ บริเวณประตูทางออก สถานีขนส่งหมอชิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเดินทางออกต่างจังหวัดของประชาชน พบว่า ตลอดช่วงบ่ายและเย็นวานนี้ (30 ธ.ค.) มีประชาชนได้ทยอยออกเดินทางไปต่างจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ทยอยออกไปบ้างแล้วตั้งแต่วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา โดย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ยืนยันว่าเตรียมรถไว้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน มีทั้งเพิ่มเที่ยวรถและจัดรถเสริมเข้ามาให้บริการ คาดว่า จะมีคนเดินทางมากที่สุดประมาณ 1.7 แสนคน จากที่เดินทางออกไปแล้วช่วงวันที่ 25-29 ธ.ค. ประมาณ 7.5 แสนคน ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ก็มีประชาชนเดินทางไปรถขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การเดินทางโดยรถ บขส. และรถไฟ ไม่ถือว่ามีปัญหาแออัดมากนัก เพราะปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางด้วยสายการบินต้นทุนต่ำที่มีให้บริการหลายสายการบิน และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่การเดินทางด้วยเครื่องบิน กลับมีปัญหาการแออัดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางไปเช็กอินที่สนามบินที่ประชาชนต้องใช้เวลาในการเช็กอินนานกว่าปกติ
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้งดดื่มสุราในช่วงเดินทาง เพราะปีนี้รัฐบาลมีโครงการเมาแล้วขับเจอยึดรถ เอาจริงเอาจังกับผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งเป็นไปเพื่อตัวผู้ขับขี่เอง รวมถึงผู้อื่นที่อาจได้รับผลกระทบจากการเมาแล้วขับด้วย ส่วนรถโดยสารสาธารณะ พลขับต้องรับผิดชอบต่อผู้โดยสาร และผู้โดยสารต้องรับผิดชอบต่อพลขับ ต่างคนต่างดูแลกัน ไม่ควรรีบร้อนเดินทาง เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และพลเรือน ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือรับบริการที่ภาครัฐจัดไว้ให้ตลอดเส้นทางทั้งสายหลักและสายรองกว่า 250 ศูนย์ เช่น การตรวจสภาพรถ เติมน้ำมันเครื่อง เติมลมยาง บริการอาหารเครื่องดื่ม และนวดคลายเครียด เป็นต้น