xs
xsm
sm
md
lg

ยอดตายสงกรานต์พุ่ง 338 ราย ใน 5 วัน สั่งเพิ่มความถี่ตรวจเรียกคนขับเสี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

5 วันสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุรวม 2,724 ครั้ง ตาย 338 ราย เจ็บรวม 2,891 คน กำชับอำนวยการจราจรให้คล่องตัว เน้นเปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถ เพิ่มความถี่เรียกตรวจผู้ขับขี่พฤติกรรมเสี่ยง

ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 โดยกล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ประจำปี 2559 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 508 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 79 ราย ผู้บาดเจ็บ 513 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 33.86 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 30.31 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.42 รองลงมา รถปิกอัพ ร้อยละ 9.70 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 62.01 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.61 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.63 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 29.92 ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.20

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,136 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,063 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 672,127 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 112,614 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 33,173 ราย ไม่มีใบขับขี่ 30,781 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 36 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 7 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 40 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 5 วัน (11-15 เม.ย.59) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,724 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 338 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,891 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 8 จังหวัด ได้แก่ ตราด ปัตตานี พัทลุง แพร่ ยะลา ระนอง สมุทรสาคร และหนองบัวลำภู จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 15 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 144 คน

สำหรับผลการปฏิบัติงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 46/2558 ประจำวันที่ 15 เมษายน 2559 ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับ 78,743 ราย แยกเป็น รถจักรยานยนต์ พบการกระทำผิด 30,599 ราย ดำเนินการยึดรถ 1,127 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 43 ราย และส่งดำเนินคดีทางกฎหมาย 17,871 ราย รถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ส่วนบุคคล ตรวจพบผู้กระทำผิด 16,621 ราย ดำเนินการยึดรถ 425 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 707 ราย และส่งดำเนินคดีทางกฎหมาย จำนวน 11,354 ราย สรุปผลการดำเนินการสะสมระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2559 ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับ 280,396 ราย แยกเป็น ยึดใบอนุญาตขับขี่ 15,630 ราย ส่งดำเนินคดีทางกฎหมาย 81,541 ราย ยึดรถ 4,609 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 3,488 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล 1,121 คัน

ดร.ฉวีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้คาดว่าประชาชนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเดินทางกลับ ทำให้การจราจรในบางเส้นทางเริ่มติดขัด ประกอบกับความอ่อนล้าจากการขับรถทางไกล และการเล่นน้ำสงกรานต์ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้กำชับให้จังหวัดปรับแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก โดยเฉพาะเส้นทางขาล่องเข้าสู่กรุงเทพมหานครให้มากขึ้น พร้อมบริหารจัดการการจราจรให้มีความคล่องตัว โดยเปิดช่องทางพิเศษในเส้นทางที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น เน้นการระบายรถควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยง เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ขับหวาดเสียว แซงในที่ขับคัน และย้อนศร โดยเฉพาะการตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานขับรถโดยสารให้มีระดับแอลกอฮอล์เป็น “ศูนย์” เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ ได้กำชับให้จังหวัดรณรงค์ส่งเสริมการปลูกฝัง “ความเป็นไทย สร้างวินัยจราจร” อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้สังคมไทยมีวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน

นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้เน้นย้ำจังหวัด และหน่วยงานทุกภาคส่วนเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เน้นการแก้ไขปัญหาในมิติเชิงพื้นที่ พร้อมบูรณาการฐานข้อมูลจากทุกหน่วยงานให้เป็นเอกภาพ โดยเฉพาะจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ให้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก ถอดบทเรียนเพื่อค้นหาสาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการ และกลยุทธ์ในการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ และรูปแบบการเดินทางของประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในวันนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ แต่ด้วยการจราจรที่ติดขัดทำให้ผู้ขับขี่มักแซงในระยะกระชั้นชิด และขับบนไหล่ทาง จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยการจราจร และตั้งกรวยในเส้นทางเชื่อมต่อที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น เพื่อชะลอความเร็วของรถ และป้องกันการแซงในระยะกระชั้นชิด พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจ เพื่อให้ผู้ขับขี่เกิดความตื่นตัว และป้องกันการหลับในที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงกวดขันการจอดรถริมทาง และร้านค้าที่วางสิ่งของล้ำช่องทางจราจร เพื่ออำนวยการจราจรให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สร้างความปลอดภัยในการเดินทางบนเส้นทางสายต่างๆ พร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หากมีอาการง่วงนอนห้ามฝืนขับรถอย่างเด็ดขาด ควรให้ผู้อื่นผลัดเปลี่ยนขับรถแทน หรือจอดพักรถตามจุดบริการของหน่วยงานรัฐ สถานีบริการน้ำมัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น