"วินธัย" เผยทหารตั้งจุดตรวจร่วมเข้มถนนทุกสาย พบ"เมาแล้วขับ"ยึดรถ-คุมตัว"ตามนโยบายคสช.แล้ว100 ราย ยันคืนหลังปีใหม่ ด้านหน่วยข่าวกรอง ไม่พบข้อมูลเตรียมก่อการร้ายช่วงปีใหม่ กอ.รมน.วอนสื่อสร้างความมั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยของรัฐ เพื่อให้นักท่องเที่ยว ประชาชนอุ่นใจ "กรมคุมประพฤติ" รณรงค์เมาไม่ขับ ช่วงเทศกาลปีใหม่ บริเวณวงเวียนใหญ่ กรมควบคุมโรคคาดปีใหม่ 59 มีผู้เสียชีวิต 268-372 คน สงกรานต์ 308-387 คน คุมเข้มรับมืออุบัติเหตุ ตั้งด่านชุมชน กำหนดจุดเสี่ยง แนะปฏิบัติตามกฎจราจร กม.ควบคุมเหล้า วอนไม่จัดโปรโมชันส่งเสริมขายเหล้า ย้ำดื่มระหว่างทาง “คนขับ-คนโดยสาร” มีโทษ ทอท.คาดยอดใช้บริการ 6 สนามบินกว่า 2.56 ล้านคน
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ขณะนี้กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.)ทั่วประเทศ กำลังปฏิบัติการดูแลสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจาก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เลขาธิการ คสช. ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ทั่วประเทศตั้งจุดตรวจรถอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.จนหมดช่วงเทศกาล โดยเน้นถนนสายรองภายในหมู่บ้าน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่ดื่มสุรา เจ้าหน้าที่จะพิจารณายึดรถไว้ก่อน แล้วหลังเทศกาลปีใหม่ ทางเจ้าของรถสามารถติดต่อขอคืนได้
ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. จนถึงคืนวันที่ 27 ธ.ค. พบที่ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดจำนวน 100 ราย จากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการรวบรวมจากทุกกองทัพภาค โดยแบ่งเป็นจักรยานยนต์ 50 คัน รถยนต์ส่วนบุคคล 50 คันและยึดใบอนุญาตขับขี่ 38 ราย โดยกองทัพภาคที่ 2 สามารถยึดได้ 36 รายขณะที่กองทัพภาคที่ 3 สามารถยึดได้ 64 ราย
อย่างไรก็ตาม ก่อนการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว ทางจังหวัดและทุกกองทัพภาคได้ทำการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือและให้ประชาคมหมู่บ้านเป็นผู้ช่วยดำเนินการ ควบคู่กับการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่บุคคลที่ถูกยึดรถก็เข้าใจในมาตรการเป็นอย่างดี และผู้ขับขี่ที่ถูกยึดรถสามารถนำใบที่ออกให้มาแสดงตัวและรับรถกลับได้หลังจากช่วงเทศกาล
ไม่มีข่าวก่อการร้ายช่วงปีใหม่
ด้าน พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่าตามที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้มอบให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์และเพิ่มมาตรการระวังป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ช่วงเทศกาลปีใหม่ และเพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง กอ.รมน. พร้อมร่วมมือกับทุกส่วนราชการในการบูรณาการและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันเฝ้าระวังเหตุผิดปกติต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท และให้ความสำคัญกับมาตรการเชิงป้องกันมากขึ้น
" ขณะนี้ข้อมูลของหน่วยงานด้านการข่าวภายใต้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับมิตรประเทศ ได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่า ยังไม่พบสิ่งบอกเหตุหรือสัญญาณใดๆในการก่อเหตุร้าย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นใจว่า มาตรการระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัยของไทย มีความเข้มงวดมากขึ้น กับขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปร่วมกันป้องกันเหตุร้ายด้วยการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่ของตนเอง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการพิสูจน์ทราบทันที" โฆษก กอ.รมน. กล่าว
กรมคุมประพฤติ" รณรงค์เมาไม่ขับ
วานนี้ (28 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. บริเวณวงเวียนใหญ่ นายชัยวัฒน์ ร่างเล็ก ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 3 พร้อม ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครคุมประพฤติ และผู้ถูกคุมความประพฤติ ประมาณ 150 คน ร่วมรณรงค์โครงการเมาไม่ขับ ภายใต้ชื่อโครงการ "สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559" โดยได้รับความสนใจจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนอย่างคับคั่ง
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆไม่ว่า ปีใหม่หรือสงกรานต์ ปัญหาประการหนึ่งที่ประเทศประสบ คือ ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน สาเหตุหนึ่งเกิดจากผู้ดื่มสุราหรือแอกอฮอล์แล้วไปขับขี่รถ ซึ่งทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และด้วยความห่วงใยได้ใช้มาตรการป้องกันปราบปรามให้ผู้ขับขี่ตระหนักว่าเมื่อดื่มสุราแล้วอย่าขับ ทั้งนี้ เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองและผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนสำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 3 ได้รณรงค์ต่อเนื่องกันมาทุกปีและจากการรณรงค์พบว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลงต่อเนื่อง ซึ่งปี 59 นี้หากเป็นไปได้ขอไม่ให้มีคดีเมาแล้วขับเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าประชาชนตระหนักถึงโทษของการดื่มสุราขณะขับขี่รถอยู่แล้ว สำหรับการรณรงค์จะทำทุกพื้นที่ของย่านฝั่งธนบุรี เช่น ถนนสายรองในย่านชุมชน รวมทั้งนำตัวแทนอาสาสมัคร ผู้ถูกคุมประพฤติ มาช่วยบริการสังคมเพื่อช่วยรณรงค์เมาไม่ขับ
"หากพบผู้กระทำผิดแล้วถูกส่งเข้ามาอยู่ในกระบวนการของกรมคุมประพฤติแล้วนั้นต้องทำตามเงื่อนไขคำสั่งศาล อาทิ ต้องเป็นจิตอาสาบริการช่วยเหลือสังคมและอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ ต้องมารายงานตัวตามระยะเวลาที่กำหนดครบ 1 ปี สุดท้ายฝากประชาชนที่จะขับขี่รถคือทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ดื่มแต่อย่าดื่มระหว่างขับรถเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง"
คาดปีใหม่59เสียชีวิต 372 คน
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์มีแนวโน้มคล้ายคลึงกัน โดยในปี 2549-2553 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บลดลง แต่หลังจากปี 2553 จำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มคงที่ประมาณ 321-366 คนในช่วงปีใหม่ ส่วนสงกรานต์จะอยู่ที่ประมาณ 271-372 คน ส่วนการคาดการณ์ในปี 2559 โดยช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 268-372 คน ส่วนเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 308- 387 คน ดังนั้น จึงต้องมีการคุมเข้มในการรับมืออุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น โดยเน้นการตั้งด่านชุมชนล่า กำหนดจุดเสี่ยง ซึ่งจากการลงตรวจสอบในหลายพื้นที่พบว่าตอนนี้มีความพร้อม
ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ขอให้ทุกระมัดระวังตัว และปฏิบัติตามกฎจราจร และกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด 1. เมาไม่ขับ 2. คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัย 3.ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด 4. ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 5.ไม่จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 6. ไม่เร่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ในช่วงระหว่างการเดินทางห้ามมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แม้คนขับจะไม่ได้ดื่ม แต่ถ้าผู้ร่วมเดินทางดื่มก็จะถือว่าร่วมกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ทอท.คาดยอดใช้บริการกว่า 2.56 ล้านคน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการในท่าอากาศยานหลัก 6 แห่ง ของประเทศไทย ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย และหาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2558 - 4 มกราคม 2559 ประมาณ 2.56 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 355,792 คน มีเที่ยวบินประมาณ 15,811 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 2,262 เที่ยวบิน โดย ทอท.ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกการให้บริการผู้โดยสาร ณ บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ขณะนี้กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.)ทั่วประเทศ กำลังปฏิบัติการดูแลสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจาก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เลขาธิการ คสช. ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ทั่วประเทศตั้งจุดตรวจรถอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.จนหมดช่วงเทศกาล โดยเน้นถนนสายรองภายในหมู่บ้าน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่ดื่มสุรา เจ้าหน้าที่จะพิจารณายึดรถไว้ก่อน แล้วหลังเทศกาลปีใหม่ ทางเจ้าของรถสามารถติดต่อขอคืนได้
ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. จนถึงคืนวันที่ 27 ธ.ค. พบที่ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดจำนวน 100 ราย จากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการรวบรวมจากทุกกองทัพภาค โดยแบ่งเป็นจักรยานยนต์ 50 คัน รถยนต์ส่วนบุคคล 50 คันและยึดใบอนุญาตขับขี่ 38 ราย โดยกองทัพภาคที่ 2 สามารถยึดได้ 36 รายขณะที่กองทัพภาคที่ 3 สามารถยึดได้ 64 ราย
อย่างไรก็ตาม ก่อนการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว ทางจังหวัดและทุกกองทัพภาคได้ทำการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือและให้ประชาคมหมู่บ้านเป็นผู้ช่วยดำเนินการ ควบคู่กับการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่บุคคลที่ถูกยึดรถก็เข้าใจในมาตรการเป็นอย่างดี และผู้ขับขี่ที่ถูกยึดรถสามารถนำใบที่ออกให้มาแสดงตัวและรับรถกลับได้หลังจากช่วงเทศกาล
ไม่มีข่าวก่อการร้ายช่วงปีใหม่
ด้าน พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่าตามที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้มอบให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์และเพิ่มมาตรการระวังป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ช่วงเทศกาลปีใหม่ และเพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง กอ.รมน. พร้อมร่วมมือกับทุกส่วนราชการในการบูรณาการและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันเฝ้าระวังเหตุผิดปกติต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท และให้ความสำคัญกับมาตรการเชิงป้องกันมากขึ้น
" ขณะนี้ข้อมูลของหน่วยงานด้านการข่าวภายใต้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับมิตรประเทศ ได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่า ยังไม่พบสิ่งบอกเหตุหรือสัญญาณใดๆในการก่อเหตุร้าย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นใจว่า มาตรการระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัยของไทย มีความเข้มงวดมากขึ้น กับขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปร่วมกันป้องกันเหตุร้ายด้วยการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่ของตนเอง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการพิสูจน์ทราบทันที" โฆษก กอ.รมน. กล่าว
กรมคุมประพฤติ" รณรงค์เมาไม่ขับ
วานนี้ (28 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. บริเวณวงเวียนใหญ่ นายชัยวัฒน์ ร่างเล็ก ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 3 พร้อม ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครคุมประพฤติ และผู้ถูกคุมความประพฤติ ประมาณ 150 คน ร่วมรณรงค์โครงการเมาไม่ขับ ภายใต้ชื่อโครงการ "สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559" โดยได้รับความสนใจจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนอย่างคับคั่ง
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆไม่ว่า ปีใหม่หรือสงกรานต์ ปัญหาประการหนึ่งที่ประเทศประสบ คือ ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน สาเหตุหนึ่งเกิดจากผู้ดื่มสุราหรือแอกอฮอล์แล้วไปขับขี่รถ ซึ่งทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และด้วยความห่วงใยได้ใช้มาตรการป้องกันปราบปรามให้ผู้ขับขี่ตระหนักว่าเมื่อดื่มสุราแล้วอย่าขับ ทั้งนี้ เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองและผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนสำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 3 ได้รณรงค์ต่อเนื่องกันมาทุกปีและจากการรณรงค์พบว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลงต่อเนื่อง ซึ่งปี 59 นี้หากเป็นไปได้ขอไม่ให้มีคดีเมาแล้วขับเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าประชาชนตระหนักถึงโทษของการดื่มสุราขณะขับขี่รถอยู่แล้ว สำหรับการรณรงค์จะทำทุกพื้นที่ของย่านฝั่งธนบุรี เช่น ถนนสายรองในย่านชุมชน รวมทั้งนำตัวแทนอาสาสมัคร ผู้ถูกคุมประพฤติ มาช่วยบริการสังคมเพื่อช่วยรณรงค์เมาไม่ขับ
"หากพบผู้กระทำผิดแล้วถูกส่งเข้ามาอยู่ในกระบวนการของกรมคุมประพฤติแล้วนั้นต้องทำตามเงื่อนไขคำสั่งศาล อาทิ ต้องเป็นจิตอาสาบริการช่วยเหลือสังคมและอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ ต้องมารายงานตัวตามระยะเวลาที่กำหนดครบ 1 ปี สุดท้ายฝากประชาชนที่จะขับขี่รถคือทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ดื่มแต่อย่าดื่มระหว่างขับรถเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง"
คาดปีใหม่59เสียชีวิต 372 คน
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์มีแนวโน้มคล้ายคลึงกัน โดยในปี 2549-2553 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บลดลง แต่หลังจากปี 2553 จำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มคงที่ประมาณ 321-366 คนในช่วงปีใหม่ ส่วนสงกรานต์จะอยู่ที่ประมาณ 271-372 คน ส่วนการคาดการณ์ในปี 2559 โดยช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 268-372 คน ส่วนเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 308- 387 คน ดังนั้น จึงต้องมีการคุมเข้มในการรับมืออุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น โดยเน้นการตั้งด่านชุมชนล่า กำหนดจุดเสี่ยง ซึ่งจากการลงตรวจสอบในหลายพื้นที่พบว่าตอนนี้มีความพร้อม
ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ขอให้ทุกระมัดระวังตัว และปฏิบัติตามกฎจราจร และกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด 1. เมาไม่ขับ 2. คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัย 3.ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด 4. ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 5.ไม่จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 6. ไม่เร่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ในช่วงระหว่างการเดินทางห้ามมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แม้คนขับจะไม่ได้ดื่ม แต่ถ้าผู้ร่วมเดินทางดื่มก็จะถือว่าร่วมกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ทอท.คาดยอดใช้บริการกว่า 2.56 ล้านคน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการในท่าอากาศยานหลัก 6 แห่ง ของประเทศไทย ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย และหาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2558 - 4 มกราคม 2559 ประมาณ 2.56 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 355,792 คน มีเที่ยวบินประมาณ 15,811 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 2,262 เที่ยวบิน โดย ทอท.ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกการให้บริการผู้โดยสาร ณ บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ