ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เข้าช่วงปลายปี บรรยากาศการเมืองดูดรอปๆ ลงมา เปิดอ้าให้เทศกาลแห่งความสุขช่วงปีใหม่เต็มที่ ใครทะลึ่งจุดพลุเรื่องร้อนๆ ออกมากวนใจไม่ดูตาม้า ตาเรือ มีสิทธิ์ตกเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชนแน่ การเมืองจะกลับมาเข้มข้นกันอีกทีก็ตอนเปิดทำงานแรกภายใต้ศักราชใหม่ ในวันจันทร์ที่ 4 ม.ค. 59 ไปแล้ว
โดยเฉพาะปฏิทินปีวอก ที่มีแต่เรื่องให้ตื่นเต้นเร้าใจเรียงกันทั้งปี หลายเรื่องชี้เป็นชี้ตายอนาคตรัฐบาล"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เลย
เฉพาะในส่วนของคดีความที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ในซีกของพรรคเพื่อไทยได้ระทึกกว่าใครเพื่อน เพราะหลายคดีเดินทางมาถึงปลายทาง หัวขาดไม่ขาด รู้กันปีลิงนี้ โดยเฉพาะชนักปักหลังของนายหญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีรับจำนำข้าว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการเรียกค่าเสียหาย ที่น่าจะมีคำสั่งออกมาได้ราวเดือนสองเดือนแรกของปี เนื่องจากขณะนี้สอบพยานเสร็จสรรพกันหมดแล้วเกือบจะทุกปาก ไม่น่าจะมีรายการต่อเวลาให้อดีตนายกฯ เดินอ้อยอิ่งไปทัวร์นู่นทัวร์นี่ อีกแล้ว
แต่เรื่องฟ้องแพ่งยังไม่น่าสะพรึงกลัวเท่าไหร่ เพราะมีขั้นตอนให้เตะถ่วงได้พอสมควร โดยการไปยื่นให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งนั้นเสีย ซึ่งทั้งยิ่งลักษณ์ และบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กับพวก สู้สุดชีวิตแน่ ไม่อย่างนั้นสิ้นเนื้อประดาตัว มีชีวิตเยี่ยงยาจก เพราะมูลค่าที่ไปทำระยำตำบอนไว้สูงเป็นหลักแสนล้านบาท ดังนั้น พอมีเวลาให้หายใจอีกสักพัก ต้องสู้กันถึง 2 ศาล หากแพ้ในศาลปกครองกลาง ยังอุทธรณ์สู้ต่อได้ในชั้นศาลปกครองสูงสุดได้อีก
ที่ทำเอา ยิ่งลักษณ์ กินไม่ได้นอนไม่หลับ น่าจะเป็นคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีคิวต้องนัดไต่สวนพยานกันหลายรอบ โดยคิวสุดท้ายอยู่ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2559 หลังจากนั้นคาดกันว่า ภายใน 30 วัน น่าจะรู้ผลว่า บั้นปลายชีวิตของอดีตนายกฯ แคทวอล์ก จะลงเอยด้วยการอยู่บ้าน หรือในซังเต หากไม่เผ่นแนบออกไปเสียก่อนวันที่ศาลจะตัดสิน เหมือนพี่ชายสุดที่รัก ทักษิณ ชินวัตร
แต่ก่อนจะถึงวันชี้ชะตาการเมืองไทยน่าจะเดือดเป็นไฟกันไปพอสมควรแล้ว เพราะสถานะตอนนี้ ยิ่งลักษณ์เข้าตาจน ไม่มีทางเลือก ถูกบีบให้ต้องลุกสู้สถานเดียว เช่นเดียวกับทักษิณที่คงไม่ยอมให้น้องสาวในไส้ต้องมีชะตาชีวิตเหมือนตัวเอง ต้องหาวิธีปลุกกระแส เพื่อเอาประชาชนเป็นเกราะกำบัง โดยการเฝ้ารอหาช่องที่รัฐบาลพลาด แล้วเข้าไปเหยียบซ้ำ เหมือนกับกรณีความไม่ชอบมาพากลเรื่องอุทยานราชภักดิ์ ที่เล่นกันจนรัฐบาลอ่อนด้อนทางการเมืองไปเลย
จะว่าไปของเล่นและกลเม็ดในมือของทักษิณนั้นมีเยอะกว่ารัฐบาลเยอะ หาเรื่องมาตอดเล็กตอดน้อยได้เรื่อยๆ ลำพังยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ผนวกกับการแหย่หนวดเสือกันในประเทศไปเรื่อยๆ ก็ทำเอารัฐบาลชักกระตุกกันไปหลายรอบได้ แล้วหากปีหน้าฟ้าใหม่มาถึง โหมกระพือกันเข้าไปแบบคูณสอง ซึ่งแนวโน้มน่าจะเป็นอย่างนั้น รัฐบาลไม่เป็นอันทำอะไรแน่ เพราะต้องมาตามแก้เกมที่ฝ่ายตรงข้ามที่วางกับดักล่อเอาไว้
จะหาเรื่องแกล้งรัฐบาลทหารโดยใช้กลไกต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพราะล็อบบี้ยิสต์ในมือแฝงอยู่ทั่วทุกวงการในต่างประเทศ บิ๊กระดับรัฐมนตรียังมี ขณะที่ภายในประเทศ เศรษฐกิจปีหน้าสถานการณ์ก็ยังไม่กระเตื้อง เพราะกำลังซื้อของชนชั้นกลาง และชนชั้นล่างในประเทศ ยังอยู่ในลักษณะกระเป๋าแห้ง ข้าวยากหมากแพง หากรัฐบาลทำได้แค่เลี้ยงไข้ไปวันๆ สักวันประชาชนจะอดรนทนไม่ได้ ออกมาขับไล่รัฐบาลเอง เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ตอนนั้นต่อให้มีกระบอง มีดาบอาญาสิทธิ์ ก็ช่วยไม่ได้
ว่ากันตามจริง ตั้งแต่เปลี่ยนขุนพลด้านเศรษฐกิจจาก “คุณชายอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล มาเป็น“เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นอกจากนี้ วาทกรรมและงานอีเวนต์อลังการตามพะยี่ห้อการตลาดแล้ว โดยรวมยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจนถึงขนาดประชาชนยกมือท่วมหัว ขอบคุณเลย แล้วระยะหลังๆ เริ่มมีเสียงคนนินทา หมาดูถูก กันดังเรื่อยๆว่า ที่เคยยกยอปอปั้นกันก่อนหน้านี้นั้นมันเกินจริง ที่ว่าเก่งนั่น น่าจะเป็น“พูด”เก่งมากกว่า
ดังนั้นก้าวย่างของพรรคเพื่อไทยจะรุกอย่างหนักในปีหน้า เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนที่คดีความในชั้นศาลฎีกาฯจะตัดสิน เพื่อให้ยิ่งลักษณ์หลุดบ่วง หรือให้ฝ่ายอำนาจยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อมาเกี้ยเซียะกัน ในช่วงหลังรัฐประหารเป็นต้นมา เป็นที่รู้กันว่า ท่อน้ำเลี้ยงของนายใหญ่นั้นอุดตันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน แกนนำที่ถือคติเงินไม่มา งานไม่เดิน ก็ไม่ออกมาปะ ฉะ ดะ ช่วยนายหญิง แต่ว่ากันว่า ปีวอกนี้ ท่อน้ำเลี้ยงจะไหลกันอีกกระทอก เพื่อภารกิจปกป้องนายหญิง ซึ่งจะสู้จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่า ไม่มีทางชนะแล้ว ยิ่งลักษณ์ จึงจะเลือกหนีตามพี่ไปอยู่มอนเตเนโกร
อีกประเด็นที่ต้องลุ้นกันระทึก คือ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ร่างสุดท้ายจะแล้วเสร็จในปลายเดือนมีนาคม 2559 หลังจากนั้นจะนำไปตัดสินอนาคตประเทศ ในการทำประชามติ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องหาทางคว่ำ เพื่อให้รัฐธรรมนูญแท้งให้ได้ เนื่องจากหากปล่อยให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ โอกาสเข้าสู่อำนาจจะริบหรี่ หรือต่อให้กลับเข้าสู่อำนาจได้ ก็ไม่สามารถยิ่งใหญ่ได้เหมือนในอดีต จะถูกมัดมือชกให้เป็นรัฐบาลผสมกันด้วยซ้ำไป
ขณะเดียวกัน ลิ่วล้อภายในพรรคจะกระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง เพื่อหาบ้านใหม่ เพราะหัวในตระกูลชินวัตร แทบไม่เหลือตัวละครให้เอาออกมาโชว์ ไม่นับยิ่งลักษณ์ เอาแค่ “ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยอีกคน ก็มีคดีปักคออยู่ในศาลฎีกาฯ เหมือนกัน ในกรณีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่คดีคืบหน้ามาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว และมีสิทธิ์จะตัดสินในปีนี้ พร้อมๆ กับของยิ่งลักษณ์ ซึ่งดีไม่ดี อาจได้เห็นภาพพี่เขยกับน้องเมีย ตายคู่ หอบกระเป๋าหนีออกประเทศไปพร้อมกัน
กลางปี ระอุกับวันชี้ชะตารัฐธรรมนูญ ต่อด้วยปลายปีปรอทแตก ชี้ชะตาชีวิต ยิ่งลักษณ์ ในเมืองไทยต่อ หากรัฐบาลมัวคิดว่ามีกระบองอาญาสิทธิ์อย่างเดียวก็คุ้มกะลาหัวได้แล้ว ต้องบอกว่าเข้าทางโจร เพราะกรณีราชภักดิ์ แสดงให้เห็นแล้วว่า ขณะนี้คนไข้เริ่มดื้อยา