xs
xsm
sm
md
lg

กรธ.ปล่อยผี"สภาผัว-เมีย"คืนชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (23ธ.ค.) นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าในการประชุมกรธ. ซึ่งได้พิจารณาหลักการของ ร่าง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวุฒิสภา (ส.ว.) สรุปสาระสำคัญดังนี้
ให้ ส.ว.มีจำนวน 200 คน มีที่มาจาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ โดยวุฒิสภาไม่ได้ทำหน้าที่ "สภาพี่เลี้ยง" เหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่ให้ทำหน้าที่ โดยให้นำความรู้ ความสามารถ ในประสบการณ์มาช่วยในการบริหารบ้านเมือง กำหนดคุณสมบัติของสมาชิกวุฒิสภา ที่สำคัญดังนี้
1. ไม่กำหนดวุฒิการศึกษาว่าต้องจบระดับปริญญาตรี 2. มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในกลุ่มอาชีพนั้นๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยผู้ที่จะลงสมัครส.ว. จะต้องมีความผูกพันกับพื้นที่นั้นๆ ประกอบไปด้วยอย่างใดอย่างหนึ่งคือ การเกิด ที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ประวัติการศึกษาในพื้นที่ และ ประวัติการทำงานในพื้นที่ 3. ไม่จำกัดสิทธิคู่สมรส หรือบุพการี และบุตร ของผู้ดำรงตำแหน่งส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ 4. สามารถสมัครได้โดยตรงโดยไม่ต้องมี “นิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไร”มารับรอง เพื่อไม่ให้ผู้สมัครผูกพันกับนิติบุคคลนั้นๆ
5. ผู้สมัครต้องเปิดเผยหลักฐานการเสียภาษีย้อนหลัง1 ปี 6. ส.ว.มีวาระการดำรงตำแหน่ง5 ปี และเป็นได้เพียงวาระเดียวตลอดชีวิต ไม่สามารถกลับมาเป็นส.ว.ได้อีก 7. ส.ว.หากจะออกไปดำรงตำแหน่งส.ส. หรือรัฐมนตรี จะต้องพ้นจากตำแหน่งส.ว.แล้วเป็นเวลา 5 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ไปผูกพันกับผลประโยชน์ทางการเมือง ในทางกลับกันหากอดีต ส.ส.หากต้องการมาสมัครส.ว.ก็ต้องพ้นจากการเป็นส.ส.มาแล้ว 5 ปีเช่นกัน 8. คุณสมบัติของวุฒิสภา ห้ามไม่ให้มีคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งเท่านั้นและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจากองค์กรอิสระ หรือศาล แม้คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เนื่องจากมีการ อุทธรณ์ก็ไม่สามารถลงสมัครส.ว.ได้
ส่วนกรณี อดีตส.ว.ที่พ้นจากตำแหน่งยังไม่ครบ 5 ปี รวมถึง อดีตสปช. - สปท.และสนช. จะสามารถลงสมัคร ส.ว. ตามหลักเกณฑ์ของ กรธ.ได้หรือไม่นั้น ที่ประชุม กรธ.ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้ แต่ความเห็นส่วนตัว คิดว่าน่าจะสมัครได้ เนื่องจากระบบของส.ว. เป็นรูปแบบใหม่ รวมไปถึง สปช.-สปท.-สนช. ล้วนมาจากการแต่งตั้ง ยังไม่เคยใช้หลักเกณฑ์ตามร่างรัฐธรรมนูญในเรื่องเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ส่วนตัวจึงเชื่อว่าคนเหล่านี้ น่าจะสมัครส.ว.ได้
เมื่อถามว่า ทำไมกรธ.ถึงเปิดช่องให้ "คู่สมรส–บุพการี-บุตร" ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาสมัครส.ว.ได้ ซึ่งเปรียบเหมือนกับ "สภาผัว-เมีย" นายอุดม กล่าวว่า กรธ.เล็งเห็นว่า หากปิดช่องดังกล่าวไว้ ก็จะเป็นการตัดสิทธิส่วนบุคล อีกทั้งหน้าที่ของส.ว.เน้นเรื่องความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการเข้ามาทำงาน จึงเชื่อว่าคนที่จะเข้ามาเป็นส.ว. ย่อมเป็นที่ยอมรับจากคนในกลุ่มที่เลือกเข้ามาอยู่แล้ว ประกอบกับรูปแบบการเลือกตั้งทางอ้อม ที่มีระบบคัดกรอง 3 ชั้น ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ ก็เชื่อว่าจะได้บุคคลที่เชื่อมโยงกับนักการเมืองได้น้อยลง และหน้าที่ของวุฒิสภา ก็ไม่มีเรื่องการถอดถอนนักการเมืองแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะไปจำกัดสิทธิคนเหล่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดกลุ่มบุคคลด้านต่างๆ 20 กลุ่ม ที่จะบรรจุไว้ในกฎหมายลูก (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้) ในการสรรหาส.ว. มี 20 กลุ่ม ดังนี้ 1. ด้านการบริหาร ความมั่นคง หรือการต่างประเทศ 2. ด้านกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรม 3. ด้านการบัญชี การเงิน การคลัง หรืองบประมาณ 4. ด้านการศึกษาหรือวิจัย 5. ด้านการสาธารณสุข 6. ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 7. ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วรรณกรรม การแสดง หรือการกีฬา 8. ด้านกสิกรรม หรือป่าไม้ 9.ด้านปศุสัตว์ หรือประมง
10. ด้านลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน องค์กรลูกจ้าง หรือองค์กรนายจ้าง 11. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค การสื่อสาร สื่อสารมวลชน 12. ด้านผู้ประกอบการธุรกิจ การค้า หรือการธนาคาร 13. ด้านผู้ประกอบการอุตสาหกรรม 14. ด้านผู้ประกอบวิชาชีพ 15. ด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง ที่อยู่อาศัย หรือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 16. ด้านทรัพยากรธรรมชาติ หรือพลังงาน 17. ด้านองค์กรชุมชน 18. ด้านผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส หรือสตรี 19. ด้านอาชีพอิสระ 20. ด้านประชาสังคม
ทั้งนี้ โดยเป็นบุคคลธรรมดา ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ ตาม ข้อ 1-19 หรือบุคคลธรรมดาผู้ทำงานหรือเคยทำงานในองค์กรตาม ข้อ 20
ด้าน นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ กรธ.ออกแบบกระบวนการได้มาซึ่งส.ว. แบบเลือกตั้งทางอ้อม ว่า กรธ.ออกแบบอย่างไร กกต.ก็พร้อมปฏิบัติทุกอย่างตามที่กฎหมายเขียนกำหนดไว้ เพราะเชื่อว่าสำนักงาน กกต.ซึ่งก่อตั้งมาแล้ว18 ปี มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการดำเนินการ ดังนั้นไม่ว่าจะออกแบบอย่างไรในฐานะผู้ปฏิบัติก็พร้อมที่จะดำเนินการและไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา
กำลังโหลดความคิดเห็น