วานนี้ (21 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึง ประธานป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรี ในโรงเรียนสังกัดกทม. วงเงิน 1.3 พันล้านบาท ส่อไปในทางทุจริต โดยมีนายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการป.ป.ช.เป็นผู้รับเรื่อง
นายวิลาศ กล่าวว่า กทม.จัดโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรี ให้กับโรงเรียนสังกัดกทม. 4 ครั้ง ได้แก่ 1 . ในปี 2551 ทำโครงการนำร่อง 10 โรงเรียน งบประมาณ 14 ล้านบาท 2. ปี 2552 จำนวน 90 โรงเรียน งบ 250 ล้านบาท 3. ปี 2555 จำนวน 150 โรงเรียน งบ 480 ล้านบาท 4. ปี 2557 จำนวน 197 โรงเรียน งบ 585 ล้านบาท โดยโครงการเหล่านี้เป็นการจัดซื้อเครื่องดนตรีสากล เช่น กีตาร์ไฟฟ้า กลองไฟฟ้า เปียโน แก่นักเรียน รวมถึงจัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพทางดนตรีแก่ครู แต่พบความผิดปกติในโครงการปี 2552 ปี 2555 และปี 2557 เพราะโรงเรียนสังกัดกทม. ไม่มีความพร้อม มีครูสอนดนตรีสากลน้อยมาก โดยเฉลี่ยมีการใช้เครื่องดนตรีไม่เกินร้อยละ 10 แต่กลับมีการจัดซื้อเครื่องดนตรีเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ยังพบว่า มีการล็อกสเปกมีการกำหนดน้ำหนัก และขนาดเครื่องดนตรีไว้ล่วงหน้า และมีการจัดซื้อในราคาสูงเกินจริง เช่น กลองไฟฟ้า ราคาจริงชุดละ 33,600 บาท แต่กลับจัดซื้อชุดละ 65,000 บาท ขณะที่เปียโน แม้จะยังไม่ทราบราคาจัดซื้อที่แท้จริง แต่บริษัทที่ได้สัมปทาน กลับไม่ใช่บริษัทขายเปียโนจริง เป็นบริษัทที่ซื้อต่อมาอีกทอด ขณะเดียวกันยังมีการตั้งค่าลิขสิทธิ์ตำราเรียน โรงเรียนละ 330,000 บาท รวม 65 ล้านบาท ค่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์โรงเรียนละ 310,000 บาท รวม 61 ล้านบาท
"กรณีนี้ผู้มีอำนาจเซ็นอนุมัติ คือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ผู้ว่าฯให้อำนาจรองผู้ว่าฯ เป็นคนดำเนินการ และรองผู้ว่าฯ มอบอำนาจให้ ผอ.สำนักการศึกษา แต่สุดท้ายแล้ว ผอ.สำนักการศึกษามอบอำนาจให้ รอง ผอ.สำนักการศึกษาเป็นคนเซ็นอนุมัติแทน ตนได้ตรวจสอบข้อมูลทั้งเอกสาร และครูผู้ปฏิบัติ น่าเชื่อว่ามีการทุจริตส่อว่าทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ จึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป" นายวิลาศ กล่าว
นายวิลาศ กล่าวว่า กทม.จัดโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรี ให้กับโรงเรียนสังกัดกทม. 4 ครั้ง ได้แก่ 1 . ในปี 2551 ทำโครงการนำร่อง 10 โรงเรียน งบประมาณ 14 ล้านบาท 2. ปี 2552 จำนวน 90 โรงเรียน งบ 250 ล้านบาท 3. ปี 2555 จำนวน 150 โรงเรียน งบ 480 ล้านบาท 4. ปี 2557 จำนวน 197 โรงเรียน งบ 585 ล้านบาท โดยโครงการเหล่านี้เป็นการจัดซื้อเครื่องดนตรีสากล เช่น กีตาร์ไฟฟ้า กลองไฟฟ้า เปียโน แก่นักเรียน รวมถึงจัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพทางดนตรีแก่ครู แต่พบความผิดปกติในโครงการปี 2552 ปี 2555 และปี 2557 เพราะโรงเรียนสังกัดกทม. ไม่มีความพร้อม มีครูสอนดนตรีสากลน้อยมาก โดยเฉลี่ยมีการใช้เครื่องดนตรีไม่เกินร้อยละ 10 แต่กลับมีการจัดซื้อเครื่องดนตรีเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ยังพบว่า มีการล็อกสเปกมีการกำหนดน้ำหนัก และขนาดเครื่องดนตรีไว้ล่วงหน้า และมีการจัดซื้อในราคาสูงเกินจริง เช่น กลองไฟฟ้า ราคาจริงชุดละ 33,600 บาท แต่กลับจัดซื้อชุดละ 65,000 บาท ขณะที่เปียโน แม้จะยังไม่ทราบราคาจัดซื้อที่แท้จริง แต่บริษัทที่ได้สัมปทาน กลับไม่ใช่บริษัทขายเปียโนจริง เป็นบริษัทที่ซื้อต่อมาอีกทอด ขณะเดียวกันยังมีการตั้งค่าลิขสิทธิ์ตำราเรียน โรงเรียนละ 330,000 บาท รวม 65 ล้านบาท ค่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์โรงเรียนละ 310,000 บาท รวม 61 ล้านบาท
"กรณีนี้ผู้มีอำนาจเซ็นอนุมัติ คือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ผู้ว่าฯให้อำนาจรองผู้ว่าฯ เป็นคนดำเนินการ และรองผู้ว่าฯ มอบอำนาจให้ ผอ.สำนักการศึกษา แต่สุดท้ายแล้ว ผอ.สำนักการศึกษามอบอำนาจให้ รอง ผอ.สำนักการศึกษาเป็นคนเซ็นอนุมัติแทน ตนได้ตรวจสอบข้อมูลทั้งเอกสาร และครูผู้ปฏิบัติ น่าเชื่อว่ามีการทุจริตส่อว่าทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ จึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป" นายวิลาศ กล่าว
