00 ปักหมุด-ชูธงเดินหน้า "รถไฟไทย-จีน" กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันก่อน ที่สถานีรถไฟเชียงรากน้อย จ.อยุธยา ฝ่ายไทยมี"บิ๊กจิน" พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจคสช. ในฐานะที่ขับเคลื่อนโครงการนี้มาเมื่อครั้งเป็นรมว.คมนาคม ขณะที่ฝ่ายจีนส่ง "หวังหย่ง" มนตรีแห่งรัฐฯมาเป็นตัวแทน ร่วมประกาศความร่วมมือ เนรมิต "อภิมหาเมกะโปรเจกต์" โครงการรถไฟเต็มรูปแบบมูลค่า 5 แสนล้านบาท
00ไม่ทันไรตัวแทน 2 พรรคใหญ่ ออกมารุมขย้ำกันโดยไม่ได้นัดหมายทันที ฝ่ายเพื่อไทย เป็นคิวของ"อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ออกมาตั้งคำถามทันทีว่า โครงการรถไฟไทย-จีน ของรัฐบาลชุดนี้ ต่างจากโปรเจกต์ 2 ล้านล้านบาท สมัย"ยิ่งลักษณ์" ตรงไหน เพราะเห็นชื่นชมกันจัง ทั้งที่มูลค่าไม่ได้แตกต่างกันเลย ทีตอน"รัฐบาลปู"จะทำ กลับถูกด่ากันขรมเมือง ก่อหนี้ก่อสินให้กับลูกหลาน บลาๆๆ... อันนี้น่าคิด
00 ฝั่ง "ประชาธิปัตย์" เป็นคิวของ "สามารถ ราชพลสิทธิ์" อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะ"กูรูรถไฟฟ้า" ร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งข้อสังเกต "ปริศนาค่าก่อสร้างรถไฟไทย-จีน" เน้นข้อมูลเปรียบเทียบให้เห็นว่า เหตุไฉน"ค่าก่อสร้าง" ถีบตัวสูงขึ้นมโหฬารบานตะไท จาก 4 แสนล้าน มาเป็น 5.3 แสนล้าน และยังแพงกว่าที่ "ประเทศจีน" เคยประเมินก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย ไว้เมื่อปี 2555 ที่ตกกม.ละ 388.2 ล้านบาท มาปีนี้ดีดลูกคิดแล้วตก กม.ละ 607 ล้านบาท...ตะลึง ตึง ตึง
00 "ดร.สามารถ" ชำแหละต่อด้วยว่า "รถไฟไทย-จีน" ที่ตั้งบไว้ "ครึ่งล้านล้าน" ที่ว่านี้ เป็นแค่"รถไฟความเร็วปานกลาง" อย่างที่เข้าใจกัน เพราะวิ่งได้เร็วสูงสุดแค่ 180 กม./ชม. ห่างชั้น"รถไฟความเร็วสูง" ที่ต้องวิ่งได้ 250 กม./ชม. แบบนี้ก็เท่ากับว่า ไปๆ มาๆ สเปกต่ำลง แต่ต้องจ่ายแพงกว่าสมัย "รัฐบาลปู" เสียอีก งานนี้ขอกราบเรียนเชิญ "ผู้รับผิดชอบ" ทั้ง "บิ๊กจิน" และ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ออกมาชี้แจงให้กระจ่างสักเล็กน้อย ก่อนรัฐบาลคสช. จะถูกนำไปเปรียบกับรัฐบาลที่ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า"ทรราช" จะเสียหายเอานะท่าน
00 ว่ากันเรื่องรถไฟ ก็ขอติดปลายนวมไปถึง "แอร์พอร์ตลิ้งค์" ที่จนวันนี้ก็ยังลูกผีลูกคน ผลประกอบการยังไม่กระเตื้องเข้า "แดนบวก" ล่าสุดมีเสียงบ่นมาจากพนักงาน บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ "รฟฟท." บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ให้บริการ"แอร์พอร์ตลิ้งค์" ที่เริ่มเอือมระอากับบรรดา "ผู้บริหาร" ที่นอกจากจะ "ไร้กึ๋น" บริหารไม่เป็นแล้ว ยังชอบใช้"พระเดช" มากกว่า"พระคุณ" เสียด้วย
00 ไล่เช็คดูรายชื่อ "บิ๊ก รฟฟท." ก็ไม่ต่างจากหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่เป็นยุค "สีเขียวครองเมือง" มี "บิ๊กตุ๋ย" พล.อ.ดรัณ ยุทธวงษ์สุข เป็นรักษาการ ซีอีโอ "แอร์พอร์ตลิ้งค์" พลิกแฟ้มดูสายงานในอดีตก็ไม่ได้เฉียดงานคมนาคมขนส่ง หรืองานบริการแม้แต่น้อย ถามไปถามมาได้ความว่า เจ้าตัวเคยผ่าน "งานบริหาร" มาเหมือนกัน แต่เป็นงานบริหาร"สนามม้าโคราช" ที่เซียนอาชารู้จักกันดี
00ส่วนเบื้องหลัง "บิ๊กตุ๋ย" ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น "น้องเลิฟ" ของ"บิ๊กเยิ้ม" พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่หลังเกษียณ ก็เปรี้ยงปร้างสุดๆ ในยุคคสช. นอกจากรั้งตำแหน่ง"ซูเปอร์บอร์ด กสทช." แล้วยังได้เป็นทั้ง สปช.-สปท. รวมไปถึงนั่งแท่น "ประธานบอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์" อีกต่างหาก จนทั้งผลักทั้งดัน "น้องเลิฟ" มาคุมแอร์พอร์ตลิ้งค์ในวันนี้ ฝากไปถึง "บิ๊กเยิ้ม-บิ๊กตุ๋ย" ว่างๆให้รีบปัดกวาดบ้านตัวเองซะหน่อย อย่าปล่อยให้มี "คลื่นใต้น้ำ" วันดีคืนดีกระเพื่อมขึ้นมาไปกระทบการเดินรถ จะ"ขายขี้หน้า"ไม่ใช่น้อย
00ไม่ทันไรตัวแทน 2 พรรคใหญ่ ออกมารุมขย้ำกันโดยไม่ได้นัดหมายทันที ฝ่ายเพื่อไทย เป็นคิวของ"อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ออกมาตั้งคำถามทันทีว่า โครงการรถไฟไทย-จีน ของรัฐบาลชุดนี้ ต่างจากโปรเจกต์ 2 ล้านล้านบาท สมัย"ยิ่งลักษณ์" ตรงไหน เพราะเห็นชื่นชมกันจัง ทั้งที่มูลค่าไม่ได้แตกต่างกันเลย ทีตอน"รัฐบาลปู"จะทำ กลับถูกด่ากันขรมเมือง ก่อหนี้ก่อสินให้กับลูกหลาน บลาๆๆ... อันนี้น่าคิด
00 ฝั่ง "ประชาธิปัตย์" เป็นคิวของ "สามารถ ราชพลสิทธิ์" อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะ"กูรูรถไฟฟ้า" ร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งข้อสังเกต "ปริศนาค่าก่อสร้างรถไฟไทย-จีน" เน้นข้อมูลเปรียบเทียบให้เห็นว่า เหตุไฉน"ค่าก่อสร้าง" ถีบตัวสูงขึ้นมโหฬารบานตะไท จาก 4 แสนล้าน มาเป็น 5.3 แสนล้าน และยังแพงกว่าที่ "ประเทศจีน" เคยประเมินก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย ไว้เมื่อปี 2555 ที่ตกกม.ละ 388.2 ล้านบาท มาปีนี้ดีดลูกคิดแล้วตก กม.ละ 607 ล้านบาท...ตะลึง ตึง ตึง
00 "ดร.สามารถ" ชำแหละต่อด้วยว่า "รถไฟไทย-จีน" ที่ตั้งบไว้ "ครึ่งล้านล้าน" ที่ว่านี้ เป็นแค่"รถไฟความเร็วปานกลาง" อย่างที่เข้าใจกัน เพราะวิ่งได้เร็วสูงสุดแค่ 180 กม./ชม. ห่างชั้น"รถไฟความเร็วสูง" ที่ต้องวิ่งได้ 250 กม./ชม. แบบนี้ก็เท่ากับว่า ไปๆ มาๆ สเปกต่ำลง แต่ต้องจ่ายแพงกว่าสมัย "รัฐบาลปู" เสียอีก งานนี้ขอกราบเรียนเชิญ "ผู้รับผิดชอบ" ทั้ง "บิ๊กจิน" และ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ออกมาชี้แจงให้กระจ่างสักเล็กน้อย ก่อนรัฐบาลคสช. จะถูกนำไปเปรียบกับรัฐบาลที่ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า"ทรราช" จะเสียหายเอานะท่าน
00 ว่ากันเรื่องรถไฟ ก็ขอติดปลายนวมไปถึง "แอร์พอร์ตลิ้งค์" ที่จนวันนี้ก็ยังลูกผีลูกคน ผลประกอบการยังไม่กระเตื้องเข้า "แดนบวก" ล่าสุดมีเสียงบ่นมาจากพนักงาน บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ "รฟฟท." บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ให้บริการ"แอร์พอร์ตลิ้งค์" ที่เริ่มเอือมระอากับบรรดา "ผู้บริหาร" ที่นอกจากจะ "ไร้กึ๋น" บริหารไม่เป็นแล้ว ยังชอบใช้"พระเดช" มากกว่า"พระคุณ" เสียด้วย
00 ไล่เช็คดูรายชื่อ "บิ๊ก รฟฟท." ก็ไม่ต่างจากหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่เป็นยุค "สีเขียวครองเมือง" มี "บิ๊กตุ๋ย" พล.อ.ดรัณ ยุทธวงษ์สุข เป็นรักษาการ ซีอีโอ "แอร์พอร์ตลิ้งค์" พลิกแฟ้มดูสายงานในอดีตก็ไม่ได้เฉียดงานคมนาคมขนส่ง หรืองานบริการแม้แต่น้อย ถามไปถามมาได้ความว่า เจ้าตัวเคยผ่าน "งานบริหาร" มาเหมือนกัน แต่เป็นงานบริหาร"สนามม้าโคราช" ที่เซียนอาชารู้จักกันดี
00ส่วนเบื้องหลัง "บิ๊กตุ๋ย" ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น "น้องเลิฟ" ของ"บิ๊กเยิ้ม" พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่หลังเกษียณ ก็เปรี้ยงปร้างสุดๆ ในยุคคสช. นอกจากรั้งตำแหน่ง"ซูเปอร์บอร์ด กสทช." แล้วยังได้เป็นทั้ง สปช.-สปท. รวมไปถึงนั่งแท่น "ประธานบอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์" อีกต่างหาก จนทั้งผลักทั้งดัน "น้องเลิฟ" มาคุมแอร์พอร์ตลิ้งค์ในวันนี้ ฝากไปถึง "บิ๊กเยิ้ม-บิ๊กตุ๋ย" ว่างๆให้รีบปัดกวาดบ้านตัวเองซะหน่อย อย่าปล่อยให้มี "คลื่นใต้น้ำ" วันดีคืนดีกระเพื่อมขึ้นมาไปกระทบการเดินรถ จะ"ขายขี้หน้า"ไม่ใช่น้อย