xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นผลสอบราชภักดิ์ ถึงมือ’บิ๊กป้อม’สัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “บิ๊กป้อม” ไฟเขียว คกก.ตรวจสอบ “ราชภักดิ์” แถลงผล หลังส่งรายงานถึงมือแล้ว หากสังคมยังไม่เลิกสงสัยให้รอ ป.ป.ช.-สตง. “บิ๊กช้าง” เล็งสรุปผลสัปดาห์หน้า อุบมีทหารเอี่ยวผิดด้วยหรือไม่ ตร.เตือนกดไลค์ข้อความ-ภาพหมิ่นฯผิด พ.ร.บ.คอมฯ “วัชระ” ดักคอ “ปู” หาช่องไปนอกหวังหนีคดีตามรอย “แม้ว” ขณะที่ ศาลยกคำร้องขอปล่อยตัว “ธเนตร” ผู้ต้องหา โพสต์ผังอุทยานราชภักดิ์ รอบ 2

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างคณะทำงานดำเนินการ ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อใดต้องไปสอบถาม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังได้ข้อสรุปจะให้ พล.อ.ชัยชาญเป็นผู้แถลงข่าวเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับทราบผลการตรวจสอบแล้ว ประธานคณะกรรมการฯสามารถแถลงได้เลย ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ทุกอย่างทำไปตามข้อเท็จจริง ส่วนหากผลสรุปออกมาแล้ว สังคมยังไม่คลายสงสัยก็ยังมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็สั่งการไปแล้วว่าตรวจสอบได้ ไม่มีอะไรติดขัด

สำหรับกรณีที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศ ตามที่ได้ทำเรื่องขออนุญาตไปประเทศญี่ปุ่นนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล หากศาลไม่อนุญาต ก็คือไม่อนุญาต เพราะศาลต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในศาล ดังนั้น ต้องปล่อยให้ศาลดำเนินการ

** ผลสอบถึงมือ “บิ๊กป้อม” วีคหน้า

ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ เปิดเผยว่า เตรียมส่งผลสอบให้ พล.อ.ประวิตร ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารสรุปทั้งหมด เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อย สำหรับการแถลงผลสอบคงต้องรอ พล.อ.ประวิตรสั่งการ ส่วนสังคมจะคลายความสงสัยหรือไม่ขึ้นอยู่ที่สื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวพยายามถามผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีนายทหารเกี่ยวข้องหรือไม่และมีกี่นาย แต่ พล.อ.ชัยชาญ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยกล่าวเพียงว่า ยังเป็นความลับอยู่

** กดไลค์ข้อความ-ภาพหมิ่นฯผิด พ.ร.บ.คอมฯ

อีกด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการแผนงานคดีอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่แผนผังอุทยานราชภักดิ์ที่เชื่อมโยงบุคคลสำคัญของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลายคน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 รายว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม เพื่อขยายผลหาความเชื่อมโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่น ๆ รวมถึงบุคคลที่นำแผนผังอุทยานราชภักดิ์มาโพสต์เป็นรายแรก ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีสมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

พล.ต.ต.ชยพล อธิบายถึงข้อสงสัยในส่วนของการกดไลค์ข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงด้วยว่า หากบุคคลใดมีการกดไลค์ข้อความดังกล่าว ก็จะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 14 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เนื่องจากการกดไลค์เป็นการเผยแพร่ซ้ำอีกช่องทางหนึ่ง เพราะข้อความหรือรูปภาพที่ถูกกดไลค์จะแสดงอีกครั้งในหน้าฟีดข่าวบนเฟซบุ๊ค

** ยันเอาผิดทางแพ่ง “ปู” ไม่ใช่การเมือง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี 12 คดีสำคัญที่รัฐบาลเป็นโจทก์และเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า ในส่วนของตนจะเป็นการรายงานสรุปต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการทำคดี เพราะหลายคดียังอยู่ในชั้นศาล บางคดียังอยู่ที่อัยการหรือบางหน่วยงาน เช่น เรื่องคดีรับจำนำข้าว เพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เอาผิด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ก็อยู่ที่คณะกรรมการฯของกระทรวงการคลัง ส่วนคดีฟิลลิป มอริส ยังอยู่ในชั้นของอัยการสูงสุดยังไม่มีความคืบหน้า ทั้ง 12 คดี ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้เกี่ยวข้องเขาจะต้องไปเร่งรัดดำเนินการ

เมื่อถามกรณีที่มีข้อสังเกตว่า การดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดูเหมือนเป็นเรื่องทางการเมือง เมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินคดีโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมือง ก็แล้วแต่ที่จะมอง ใครที่บอกว่านำเรื่องนี้ไปกลบเรื่องนั้น เพื่อเปรียบเทียบก็ต้องถามคนที่ว่าอย่างนั้น

** “วัชระ” เย้ย “ปู” ดิ้นไปนอกหาช่องหนี

ทางด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้ดีว่าโครงการจำนำข้าวสร้างความหายนะให้กับประเทศอย่างมาก จึงวิตกจริตเตรียมหาทางหนีไปต่างประเทศตลอดเวลา ต้องหาเหตุมาอ้างต่อศาล เผื่อฟลุคจะได้หลบหนีไปต่างประเทศอย่างเนียนๆ เหมือนเช่นที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษคดีทุจริตที่ดินรัชดา เคยโกหกศาลและทำสำเร็จมาแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงใช้สูตรเดียวกัน เพื่อหวังไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในต่างแดนโดยไม่สนใจกระบวนการยุติธรรมของไทย และผมเชื่อว่าเมื่อไปถึงต่างประเทศก็จะมีขบวนการตีปี้บยื่นขอลี้ภัยโดยอ้างเหตุทางการเมือง คสช.ก็จะตกที่นั่งลำบากอีกครั้ง

“ขณะนี้ทราบว่าทุกๆ คืน คุณยิ่งลักษณ์ต้องดื่มสุราย้อมใจแล้วตามด้วยยานอนหลับ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ผมขอแนะนำให้เข้าวัด ฟังธรรมและนั่งสมาธิจะมีผลดีกว่าการเสพอบายมุขอย่างยิ่ง” นายวัชระ กล่าว

*** ศาลยกคำร้องปล่อยตัว “ธเนตร” รอบ2

วานนี้ (17 ธ.ค.) นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา และ นายสนอง อนันตวงษ์ บิดา นายธเนตร อนันตวงศ์ เดินทางมาฟังคำสั่งที่ขอให้ปล่อยตัว นายธเนตร ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลทหารฯ กรณีร่วมโพสต์ผังทุจริตอุทยานราชภักดิ์ เป็นครั้งที่ 2 หลัง นายธเนตร ถูกควบคุมตัวจาก รพ.สิรินธร ไปสอบสวน โดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สิทธิ์ในการร้องขอให้ปล่อยตัวจากการคุมขังไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 หากข้อเท็จจริงเป็นพยานหลักฐานใหม่ตามที่ผู้ร้องได้ยื่นมาว่ามีการควบคุมตัว นายธเนตร ตามหมายจับของศาลทหารในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคง ดังนั้นการจับกุมและการควบคุมตัว นายธเนตร ตามที่ผู้ร้องอ้างว่าไม่ชอบจึงไม่เกิดขึ้น เนื่องจากประกาศของ คสช. ได้ประกาศให้ความผิดที่เกี่ยวกับสถาบันและความมั่นคงให้อยู่ในอำนาจศาลทหาร ซึ่งกำหนดให้เจ้าพนักงานควบคุมตัวตามหมายจับของศาลทหารได้ไม่เกิน 7 วัน การควบคุมตัว นายธเนตร จึงไม่ใช่การควบคุมตัวที่มิชอบด้วยกฎหมายให้ยกคำร้องภายหลัง

นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าเป็นการควบคุมตัวตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 3/2558 ตามหมายจับของศาลทหาร หากมีคำสั่งก็จะทำให้อำนาจศาลขัดแย้งกัน ดังนั้นในส่วนนี้จะให้ทนายความอุทธรณ์คำสั่งต่อไ
กำลังโหลดความคิดเห็น